Page 41 - apr53

Basic HTML Version

๓๙
ปลู
กฝั
งคุ
ณธรรม จริ
ยธรรม และการรณรงค์
ให้
วั
ยรุ่
นไทย
ได้
เข้
าร่
วมพิ
ธี
กรรมและปฏิ
บั
ติ
ตนในวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธ
ศาสนาให้
มากยิ่
งขึ้
น และเพื่
อใช้
เป็
นข้
อมู
ลพื้
นฐานสำ
�หรั
บการ
ดำ
�เนิ
นงานด้
านศาสนาและวั
ฒนธรรม พร้
อมทั้
งเสริ
มสร้
าง
กระบวนการทำ
�งานแบบมี
ส่
วนร่
วมระหว่
างสำ
�นั
กงาน
วั
ฒนธรรมจั
งหวั
ด สภาวั
ฒนธรรมจั
งหวั
ดกั
บชุ
มชน กลุ่
ตั
วอย่
างที่
ใช้
ในการศึ
กษาจะเป็
นกลุ่
มวั
ยรุ่
นทั้
งชายและหญิ
โดยใช้
วิ
ธี
การสุ่
มแบบเจาะจงจากสถานศึ
กษาในเขตอำ
�เภอ
เมื
องร้
อยเอ็
ด สำ
�หรั
บวิ
ธี
การศึ
กษาวิ
จั
ย จะใช้
การสั
งเกตและ
การสนทนากลุ่
จากการศึ
กษาวิ
จั
ยพบว่
า ระดั
บของการเข้
าร่
วมใน
พิ
ธี
กรรมวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธศาสนาของวั
ยรุ่
นอยู่
ในระดั
เป็
นบางครั้
ง และเมื่
อพิ
จารณาจากกิ
จกรรมที่
เข้
าร่
วมมากพบ
ว่
า การทำ
�บุ
ญตั
กบาตรที่
วั
ดเป็
นกิ
จกรรมที่
วั
ยรุ่
นเข้
าร่
วมมาก
ที่
สุ
ด ส่
วนกิ
จกรรมที่
เข้
าร่
วมน้
อย คื
อ การสมาทานอุ
โบสถศี
เหตุ
ที่
เข้
าร่
วมน้
อย เนื่
องจากคิ
ดว่
าศี
ล ๘ มี
ความเคร่
งครั
หรื
อมี
ข้
องดเว้
นมาก จึ
งยากแก่
การปฏิ
บั
ติ
เช่
น การงดกิ
อาหารมื้
อเย็
น การงดเว้
นการร้
องรำ
�ทำ
�เพลงและการประดั
ประดาด้
วยเครื่
องหอม
ส่
วนระดั
บของการปฏิ
บั
ติ
ตนและการมี
ส่
วนร่
วม
กิ
จกรรมในวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธศาสนาของวั
ยรุ่
นพบว่
า อยู่
ในระดั
บปฏิ
บั
ติ
ตนเป็
นบางครั้
ง เมื่
อพิ
จารณาแต่
ละกิ
จกรรมที่
วั
ยรุ่
นปฏิ
บั
ติ
มากพบว่
๑. การงดเล่
นการพนั
นเป็
นกิ
จกรรมที่
วั
ยรุ่
นปฏิ
บั
ติ
มาก
ที่
สุ
ด เนื่
องจากเห็
นว่
าการเล่
นการพนั
นเป็
นกิ
จกรรมที่
ไม่
ควร
ปฏิ
บั
ติ
เพราะเสี
ยทรั
พย์
และผิ
ดกฎหมาย
๒. การงดเที่
ยวเตร่
ในยามวิ
กาล เนื่
องจากทาง
ราชการกำ
�หนดให้
สถานบั
นเทิ
งต่
างๆ ปิ
ดให้
บริ
การในวั
สำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธศาสนา และพุ
ทธศาสนาบั
ญญั
ติ
ให้
พุ
ทธศาสนิ
กชนละเว้
นจากอบายมุ
ขทั้
งหลาย และถื
อศี
ลเข้
วั
ดปฏิ
บั
ติ
ธรรมในวั
นสำ
�คั
ญดั
งกล่
าว สั
งคมส่
วนมากยอมรั
และปฏิ
บั
ติ
สื
บทอดต่
อๆ กั
นมา
กิ
จกรรมที่
วั
ยรุ่
นปฏิ
บั
ติ
กั
นน้
อย คื
อ การงดกิ
นอาหาร
ประเภทเนื้
อสั
ตว์
อาจเนื่
องมาจากสถาบั
นครอบครั
วไม่
ปลู
กจิ
ตสำ
�นึ
กให้
วั
ยรุ่
นเห็
นความสำ
�คั
ญของการทำ
�บุ
ญ โดย
วิ
ธี
ละเว้
นการฆ่
าสั
ตว์
ตั
ดชี
วิ
ตและไม่
รณรงค์
ให้
งดกิ
นเนื้
อสั
ตว์
นอกจากนี้
ยั
งพบว่
ากลุ่
มวั
ยรุ่
นที่
เข้
าร่
วมกิ
จกรรมส่
วนใหญ่
เป็
นกลุ่
มที่
กำ
�ลั
งเรี
ยนอยู่
ในสถานศึ
กษาและได้
รั
บมอบหมาย
จากทางโรงเรี
ยนให้
เข้
าร่
วม โดยมี
เงื่
อนไขของการประเมิ
เป็
นคะแนน อี
กกลุ่
มหนึ่
งเป็
นวั
ยรุ่
นที่
ไม่
มี
ภารกิ
จรั
บผิ
ดชอบใน
กิ
จกรรม จะเป็
นเพี
ยงผู้
ชมหรื
อไม่
สนใจในกิ
จกรรมวั
นสำ
�คั
ทางพระพุ
ทธศาสนาเลย
สำ
�หรั
บด้
านการมี
ส่
วนร่
วมในการเสนอแนวความคิ
ในการจั
ดกิ
จกรรม แนวทางการพั
ฒนารู
ปแบบการจั
กิ
จกรรมให้
เป็
นเอกลั
กษณ์
ทางด้
านประเพณี
วั
ฒนธรรม
ท้
องถิ่
นพบว่
า จากการสนทนาวั
ยรุ่
นยั
งไม่
มี
บทบาทเท่
าที่
ควร
จึ
งควรส่
งเสริ
มให้
มี
การสร้
างจิ
ตสำ
�นึ
กที่
ดี
ต่
อการปฏิ
บั
ติ
ตนใน
วั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธศาสนา เปิ
ดโอกาสให้
กลุ่
มวั
ยรุ่
นได้
เรี
ยนรู้
ศาสนพิ
ธี
และการดำ
�เนิ
นกิ
จกรรมวั
นสำ
�คั
ญที่
ถู
กต้
อง
ตามหลั
กทางพระพุ
ทธศาสนา สนั
บสนุ
นให้
วั
ยรุ่
นมี
ส่
วนร่
วมใน
การวางแผน การแสดงความคิ
ดเห็
น การพิ
จารณาตั
ดสิ
นใจ
และกำ
�หนดนโยบายต่
างๆ ของกิ
จกรรมวั
นสำ
�คั
ญ และควร
สนั
บสนุ
นให้
วั
ยรุ่
นได้
มี
ส่
วนร่
วมรั
บผิ
ดชอบในการตรวจสอบ
การดำ
�เนิ
นงานในการจั
ดกิ
จกรรมวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธ
ศาสนาตามบทบาทหน้
าที่
ของตนเอง
จากสรุ
ปผลการวิ
จั
ย จะเห็
นว่
า การที่
เราจะปลู
กฝั
ให้
วั
ยรุ่
นไทยได้
เห็
นความสำ
�คั
ญของวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธ
ศาสนานั้
น สถาบั
นครอบครั
ว สถาบั
นการศึ
กษา และสถาบั
หลั
ก จะต้
องร่
วมมื
อกั
นปลู
กฝั
ง สร้
างจิ
ตสำ
�นึ
กของการเป็
พุ
ทธศาสนิ
กชนตั้
งแต่
ยั
งเด็
ก โดยกระทำ
�ตนเป็
นแบบอย่
าง
ในการปฏิ
บั
ติ
ตน เพื่
อวั
ยรุ่
นไทยจะได้
ตระหนั
กถึ
งความสำ
�คั
ของวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธศาสนา ตลอดจนนำ
�หลั
กธรรมทาง
พระพุ
ทธศาสนามาประยุ
กต์
ใช้
ในชี
วิ
ตประจำ
�วั
นให้
มากยิ่
งขึ้
ต่
อไปในอนาคต
***********************
ข้
อมู
ลอ้
างอิ
งจากงานวิ
จั
ยเรื่
องการปฏิ
บั
ติ
ตนและการมี
ส่
วนร่
วม
กิ
จกรรมในวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธศาสนาของวั
ยรุ่
ในเขตพื้
นที่
อำ
�เภอเมื
อง จั
งหวั
ดร้
อยเอ็
ด ปี
พ.ศ. ๒๕๕๒
งานวิ
จั
ยนี้
ได้
รั
บทุ
นสนั
บสนุ
นการวิ
จั
จากสำ
�นั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
ประจำ
�ปี
งบประมาณ ๒๕๕๑