๓๘
วิ
จั
ยวั
ฒนธรรม
พุ
ทธศาสนาเป็
นศาสนาที่
คนในสั
งคมไทยโดย
ส่
วนใหญ่
นั
บถื
อยึ
ดเหนี่
ยวให้
ครอบครั
วมี
ความสุ
ข และยั
ง
เป็
นสถาบั
นหลั
กของประเทศไทยสถาบั
นหนึ่
ง ซึ่
งหลั
กคำ
�
สอนของพระพุ
ทธศาสนาได้
อบรมสั่
งสอนให้
ใช้
เหตุ
ผลใน
การคิ
ดวิ
เคราะห์
และปฏิ
บั
ติ
ในทิ
ศทางอั
นดี
งามตามสั
งคมที่
พึ
งประสงค์
พร้
อมทั้
งพั
ฒนาให้
คนเป็
นพลเมื
องดี
มี
ความ
สามั
คคี
รู้
จั
กการประนี
ประนอม
นอกจากหลั
กธรรมคำ
�สอนแล้
ว พิ
ธี
กรรมทางพระพุ
ทธ
ศาสนาก็
เช่
นเดี
ยวกั
นที่
พุ
ทธศาสนิ
กชนควรทราบและปฏิ
บั
ติ
ได้
ถู
กต้
อง อาทิ
พิ
ธี
แสดงตนเป็
นพุ
ทธมามกะ พิ
ธี
เวี
ยนเที
ยน
ในวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธศาสนาและพิ
ธี
รั
กษาอุ
โบสถ
ศี
ล เนื่
องจากพุ
ทธศาสนามี
ความสำ
�คั
ญต่
อประเพณี
และ
วั
ฒนธรรมทางสั
งคม และยั
งทำ
�หน้
าที่
เป็
นกลไกควบคุ
ม
พฤติ
กรรมของสมาชิ
กในสั
งคมอี
กด้
วย
แต่
ในปั
จจุ
บั
นสั
งคมไทยและวั
ฒนธรรมไทยมี
การ
เปลี่
ยนแปลงไปตามอิ
ทธิ
พลของการพั
ฒนาด้
านเศรษฐกิ
จ
และสั
งคม การเปิ
ดรั
บวั
ฒนธรรมตะวั
นตก รวมถึ
งความ
เจริ
ญก้
าวหน้
าทางวิ
ทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ก่
อให้
เกิ
ดการ
เปลี่
ยนแปลงต่
อแบบแผนพฤติ
กรรม ค่
านิ
ยมและทั
ศนคติ
ของวั
ยรุ่
นไทยเป็
นอย่
างมาก วั
ยรุ่
นซึ่
งเป็
นวั
ยที่
กำ
�ลั
งเรี
ยนรู้
ได้
มี
การเปิ
ดรั
บข้
อมู
ลข่
าวสารอย่
างไม่
จำ
�กั
ดขอบเขต ทำ
�ให้
เกิ
ด
การซึ
มซั
บวั
ฒนธรรมที่
ไม่
พึ
งประสงค์
จากสั
งคมตะวั
นตกเข้
า
มาเป็
นส่
วนหนึ่
งในวิ
ถี
ชี
วิ
ตของตนเอง ก่
อให้
เกิ
ดปั
ญหาสั
งคม
ตามมา เช่
น ปั
ญหายาเสพติ
ด การไม่
ประหยั
ดอดออม การ
ขายตั
วของวั
ยรุ่
นหญิ
งเพื่
อนำ
�เงิ
นมาเที่
ยวเตร่
และซื้
อสิ
นค้
า
ราคาแพง ประกอบกั
บพ่
อแม่
ไม่
มี
เวลาให้
แก่
ลู
ก ทำ
�ให้
เด็
ก
ขาดความอบอุ่
น ขาดความรั
ก ความเอาใจใส่
หรื
อพ่
อแม่
บางคนเป็
นตั
วอย่
างที่
ไม่
ดี
แก่
ลู
ก เช่
น ดื่
มสุ
รา เล่
นการพนั
น
ไม่
สนใจในเรื่
องศาสนา จึ
งเป็
นเหตุ
ผลสำ
�คั
ญที่
ทำ
�ให้
วั
ยรุ่
น
ไทยเกิ
ดปั
ญหาการห่
างเหิ
นศาสนา บกพร่
องในศี
ลธรรม
จริ
ยธรรมและวั
ฒนธรรมอั
นดี
นอกจากนี้
ความเปลี่
ยนแปลงทางสั
งคมทำ
�ให้
บทบาท
ของวั
ดและพระสงฆ์
ที่
มี
ต่
อสั
งคมลดลง ในอดี
ตสถานศึ
กษา
กั
บวั
ดจะอยู่
ในสถานที่
เดี
ยวกั
น พระสงฆ์
จะมี
โอกาสช่
วย
อบรมสั่
งสอนเด็
กๆ ให้
เป็
นผู้
ที่
มี
ความประพฤติ
ดี
อยู่
ในศี
ล
ธรรมอั
นดี
งามตามสั
งคม แต่
ในปั
จจุ
บั
นสถานศึ
กษาไม่
ได้
อยู่
ในวั
ด ทำ
�ให้
พระสงฆ์
ไม่
มี
โอกาสได้
อบรมสั่
งสอนเด็
กๆ เหมื
อน
แต่
ก่
อน วั
ยรุ่
นจึ
งห่
างเหิ
นวั
ดและศาสนา จึ
งเป็
นสาเหตุ
หนึ่
ง
ที่
ทำ
�ให้
ความประพฤติ
และจิ
ตใจของวั
ยรุ่
นเสื่
อมถอยลง
จากปั
ญหาดั
งกล่
าว จึ
งได้
มี
การศึ
กษาวิ
จั
ยพฤติ
กรรม
การเข้
าปฏิ
บั
ติ
ตนและการมี
ส่
วนร่
วมในวั
นสำ
�คั
ญทางพระพุ
ทธ
ศาสนาของวั
ยรุ่
น ในเขตพื้
นที่
อำ
�เภอเมื
อง จั
งหวั
ดร้
อยเอ็
ด
เนื่
องจากเห็
นว่
าเป็
นพื้
นที่
ที่
มี
กิ
จกรรมทางพระพุ
ทธศาสนา
มากที่
สุ
ด คื
อ มี
ครบทั้
งสิ
บสองเดื
อน หรื
อที่
เรี
ยกกั
นว่
า “ฮี
ต
สิ
บสอง” และยั
งมี
ประเพณี
การทำ
�บุ
ญและการละเล่
นอี
ก
มากมาย
การวิ
จั
ยนี้
มี
วั
ตถุ
ประสงค์
เพื่
อศึ
กษาว่
าวั
ยรุ่
นมี
ส่
วนในการเข้
าร่
วมพิ
ธี
กรรมและมี
การปฏิ
บั
ติ
ตนในวั
นสำ
�คั
ญ
ทางพระพุ
ทธศาสนาอย่
างไร เพื่
อจะได้
เป็
นแนวทางในการ
สิ
งหา....เรื่
อง