ในรอบปี
หนึ่
งๆ นั้
น เดื
อนที่
มี
อากาศร้
อนจั
ดที่
สุ
ดคื
อ
เดื
อนเมษายนและ ช่
วงร้
อนที่
สุ
ด ก็
มั
กจะตกอยู่
ในช่
วง
เทศกาลสงกรานต์
ซึ่
งในช่
วงเวลานี้
จะมี
ประเพณี
อั
นดี
งามที่
คนโบราณท่
านสร้
างไว้
เหมาะสมกั
บสภาพแวดล้
อม
นั่
นคื
อ มี
ประเพณี
รดน้ำ
� ดำ
�หั
ว ประเพณี
สรงน้ำ
�พระ
รดน้ำ
�ขอพรกั
บผู้
ใหญ่
สาดน้ำ
� เล่
นสงกรานต์
ในหมู่
เด็
ก และเมื่
อหั
นมาพิ
จารณาเรื่
องอาหารที่
กิ
นกั
นในช่
วง
เทศกาลนี้
เราก็
จะเห็
นอย่
างเด่
นชั
ดว่
าความช่
างคิ
ดของ
ผู้
ใหญ่
ในอดี
ตนั้
นช่
างมี
ความฉลาดลึ
กซึ้
ง และละเอี
ยด
ประณี
ตยิ่
งนั
กในการที่
คิ
ดทำ
�อาหารให้
เหมาะกั
บฤดู
กาล
ที่
เรี
ยกกั
นว่
า ข้
าวแช่
ขึ้
นมาดั
บร้
อนอี
กทางหนึ่
ง
เหตุ
ใดจึ
งกล่
าวว่
า คนโบราณช่
างคิ
ดละเอี
ยดอ่
อน
ในเรื่
องการบริ
โภคอาหารในยามนี้
คำ
�ตอบ ก็
คื
อจะเห็
นได้
จากศิ
ลปะในการปรุ
งข้
าวแช่
ตั้
งแต่
การเตรี
ยมภาชนะไปจนถึ
งอาหารที่
คิ
ดประดิ
ษฐ์
ปรุ
ง
แต่
งขึ้
นมาเป็
นเครื่
องข้
าวแช่
ล้
วนแล้
วแต่
เป็
นการขจั
ด
ความร้
อน แล้
วเพิ่
มความเย็
นให้
มากที่
สุ
ด น่
ากิ
นที่
สุ
ด
เท่
าที่
จะมากได้
ทั้
งสิ้
น
เป็
นต้
นว่
า ภาชนะดิ
นเผาที่
ใช้
ในการหุ
งข้
าว คื
อ
หม้
อดิ
น เรารู้
ดี
ว่
า ดิ
นมี
คุ
ณลั
กษณะในการเก็
บความเย็
น
ก็
ได้
และยั
งซึ
มซั
บกลิ่
นได้
ดี
อี
กด้
วย ในขณะที่
อากาศอยู่
ในสภาพปกติ
นั้
น เมื่
อทำ
�อาหารเสร็
จเข้
าก็
ยกหม้
อข้
าว ยก
สำ
�รั
บออกมานั่
งล้
อมวงกิ
นกั
นเลย ข้
าวร้
อนๆ ที่
คดออก
มานั้
นจะดู
ดกลิ่
นหอมของหม้
อดิ
นผสมมากั
บข้
าว ทำ
�ให้
ชวนรสเสี
ยไวๆ แต่
ถ้
าอากาศร้
อนนั
ก กิ
นทั้
งร้
อนๆ เช่
น
นั้
นดู
จะไม่
เหมาะกั
บสภาพลมฟ้
าอากาศ ท่
านจึ
งต้
องทำ
�ให้
หม้
อนั้
นมี
ความหอม และความเย็
นเสี
ยก่
อนโดยการเอา
หม้
อไปรมควั
นที่
ได้
จากการสุ
มของหอมเสี
ยครั้
งหนึ่
ง จะ
ทำ
�ให้
เนื้
อดิ
นได้
ดู
ดความหอมนั้
นไว้
เมื่
อหม้
อเย็
นแล้
ว
ก็
ล้
างคราบฝุ่
นควั
นออกแล้
วผึ่
งจนแห้
ง เมื่
อเก็
บความ
หอมในเนื้
อดิ
นแล้
วก็
จะต้
องเก็
บความหอมของน้ำ
�ข้
าวแช่
ด้
วย ท่
านจึ
งตั
กน้ำ
�ฝนค้
างปี
ที่
เย็
นและเริ่
มเป็
นน้ำ
�จื
ดสนิ
ท
ปราศจากกลิ่
น มาอบดอกไม้
หอมไว้
เช่
น ดอกมะลิ
กลี
บกุ
หลาบมอญหรื
อดอกชมนาด
ในบางตำ
�รั
บก็
จะโรยเกล็
ดพิ
มเสนลงไปด้
วย
เล็
กน้
อย เพื่
อเพิ่
มความเย็
นเข้
าไปอี
กอย่
างหนึ่
ง
นี่
เป็
นขั้
นตอนขั้
นแรกที่
ก่
อนจะมาเป็
นข้
าวแช่
สำ
�หรั
บวิ
ธี
หุ
งข้
าวแช่
นั้
น ในแต่
ละสั
งคมแต่
ละ
ท้
องถิ่
น จะแตกต่
างกั
นไปบ้
าง เช่
น ข้
าวแช่
ในวั
งจะมี
กรรมวิ
ธี
แตกต่
างจากข้
าวแช่
ในเมื
องเพชร และข้
าวแช่
ชาวมอญ และเฉพาะตำ
�รั
บชาววั
งนั้
น ก็
มี
หลายสำ
�นั
กที่
ขึ้
นชื่
อในเรื่
องรสฝี
มื
อ เช่
น ข้
าวแช่
ของท่
านที่
มุ
ข หรื
อ
เจ้
าจอมมารดาโหมด พระมารดาของเสด็
จเตี่
ย กรมหลวง
ชุ
มพรฯ เป็
นต้
น
แต่
ในที่
นี้
จะขอนำ
�ตำ
�รั
บข้
าวแช่
ในวั
งสุ
นั
นทา ซึ่
ง
หม่
อมหลวงเนื่
อง นิ
ลรั
ตน์
ผู้
ที่
ครั้
งหนึ่
งเคยใช้
ชี
วิ
ตอยู่
ใน
ราตรี
โตเพ่
งพั
ฒน์
...เรื่
อง
ไพศาล...ภาพ
๒๒