ภู
มิ
ปั
ญญาไทย
ในภู
มิ
ภาคเอเชี
ยตะวั
นออกเฉี
ยงใต้
ช่
างทอผ้
าได้
สร้
างสรรค์
ลวดลายผ้
ามากมาย จากแรงบั
นดาลใจทั้
ง พั
นธุ์
พื
ช
สั
ตว์
นานาชนิ
ด และสิ่
งต่
างๆในโลกของเทพตำ
�นาน นิ
ยาย นิ
ทาน
ที่
เกี่
ยวข้
องกั
บวิ
ถี
ชี
วิ
ต วั
ฒนธรรมและความเชื่
อที่
สื
บเนื่
องกั
นมา
ในบรรดาลวดลายเหล่
านี้
เราค้
นพบว่
า ลวดลาย “นาค” เป็
น
ลวดลายโบราณจากเทพตำ
�นาน ซึ่
งพบเห็
นหลั
กฐานบนผื
นผ้
า
ประเพณี
ของชนเผ่
าที่
อาศั
ยอยู่
ในลุ่
มแม่
น้ำ
�โขง ในครั้
งนี้
จะขอ
นำ
�เสนอลวดลายนาคกรณี
ที่
พบในผื
นผ้
าของชาวภู
ไท ในภาค
ตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อของประเทศไทย
เรื่
องราวของลวดลายนาคนั้
น มี
ขอบเขตเนื้
อหากว้
างใหญ่
จึ
งเป็
นเรื่
องที่
มี
ความจำ
�เป็
นจะต้
องมี
การศึ
กษาค้
นคว้
าวิ
จั
ยอย่
าง
ละเอี
ยดลึ
กซึ้
ง ในบทความครั้
งนี้
เราจะพิ
จารณาลวดลายผ้
ากั
บ
ความเชื่
อมโยงทางวั
ฒนธรรม เพราะลวดลายผ้
าเป็
นกุ
ญแจ
สำ
�คั
ญที่
จะแสดงให้
เห็
นถึ
งความเป็
นมาทางวั
ฒนธรรม ถิ่
นฐาน
เดิ
มของชุ
มชนและประวั
ติ
ความเป็
นมาของผู้
คน เราหวั
งว่
าการ
ศึ
กษาครั้
งนี้
จะช่
วยสร้
างองค์
ความรู้
เกี่
ยวกั
บลวดลายผ้
าทอใน
ลุ่
มแม่
น้ำ
�โขง
คำ
�ว่
า “นาค” เป็
นคำ
�ที่
ได้
รั
บมาจาก คำ
�ว่
า “นาคา” ใน
ภาษาโบราณของอิ
นเดี
ย โดยสั
นนิ
ษฐานว่
าความเชื่
อเรื่
องนาค
น่
าจะรั
บเข้
ามาโดยผ่
านพระพุ
ทธศาสนาที่
เผยแพร่
เข้
ามาใน
ภู
มิ
ภาคนี้
นาคได้
ปรากฏอยู่
ในพุ
ทธประวั
ติ
ตอนสำ
�คั
ญคื
อการที่
พญานาคมาแผ่
พั
งพานปกป้
องพระพุ
ทธองค์
จากพายุ
ฝนของ
พระยามารก่
อนการที่
พระพุ
ทธองค์
ตรั
สรู้
(Patricia Cheesman,
2004:260) ประเทศไทยเป็
นเมื
องพระพุ
ทธศาสนา ลวดลาย
นาคปรากฏอยู่
บนหลั
งคาโบสถ์
และการตกแต่
งพุ
ทธสถานใน
ทุ
กพื้
นที่
ของประเทศ จากการสำ
�รวจเราได้
พบความเกี่
ยวเนื่
อง
ระหว่
างลวดลายผ้
ากั
บลวดลายที่
ตกแต่
งอาคารและวั
ดวาอาราม
ในประเทศไทย
สิ่
งที่
น่
าสนใจมากในการวิ
จั
ยจากการสำ
�รวจวิ
จั
ยพื้
นที่
ในประเทศอิ
นเดี
ยและสำ
�รวจหลั
กฐานสิ่
งทอ เราพบว่
าช่
างทอ
ชาวอิ
นเดี
ยไม่
มี
การสร้
างสรรค์
ลวดลายนาคบนผ้
าทอมื
อของ
ตนเอง สิ่
งที่
วั
ดอิ
นเดี
ย
แตกต่
างจากวั
ดไทย ลาว
และวั
ดเขมร คื
อ วั
ดพุ
ทธ
ในประเทศอิ
นเดี
ยไม่
มี
การใช้
ลายนาคเพื่
อการ
ตกแต่
งศาสนสถาน ดั
งนั้
น
คำ
�ถามสำ
�คั
ญในการวิ
จั
ย
ในครั้
งนี้
คื
อ ต้
นกำ
�เนิ
ด
ของลวดลายนาคที่
ปรากฏ
บนผ้
าไหมในภาคตะวั
น
อ อ ก เ ฉี
ย ง เ ห นื
อ ข อ ง
ประเทศไทยมาจากไหน
ในยุ
คก่
อนที่
พุ
ทธ
ศาสนาจะเข้
ามาเผยแพร่
ในประเทศไทย เราพบ
ว่
ามี
หลั
กฐานที่
น่
าสนใจ
ของลวดลายงู
หรื
อนาค
ในพื้
นที่
ประเทศไทยแล้
ว
ดั
งที่
อรไท ผลดี
ได้
ศึ
กษาไว้
ในปี
พ.ศ. ๒๕๔๒ หลั
กฐาน
เก่
าแก่
ชิ้
นแรกคื
อภาพเขี
ยนพิ
ธี
กรรมบู
ชางู
หรื
อนาคที่
ถ้ำ
�
เขาเขี
ยน ตำ
�บลเขาปั
นหยี
จั
งหวั
ดพั
งงา ในภาคใต้
ของประเทศไทย
หลั
กฐานชิ้
นที่
สอง พบที่
ถ้ำ
�เขาสามเหลี่
ยม อำ
�เภอเมื
อง จั
งหวั
ด
กาญจนบุ
รี
เป็
นภาชนะดิ
นเผาในยุ
คหิ
นใหม่
ตกแต่
งเป็
นลายเชื
อก
ทาบมี
รู
ปลายงู
เลื้
อยเป็
นรู
ปเคลื่
อน หลั
กฐานชิ้
นที่
สามเป็
นภาชนะ
ดิ
นเผาเขี
ยนสี
แดงในยุ
คก่
อนประวั
ติ
ศาสตร์
ของบ้
านเชี
ยง จั
งหวั
ด
อุ
ดรธานี
ในภาตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อของประเทศไทย ภาชนะ
ดิ
นเผานี้
ตกแต่
งด้
วยลวดลายที่
คล้
ายกั
บตั
วงู
หลั
กฐานทั้
งหมดที่
นำ
�เสนอข้
างต้
นนั้
นพิ
สู
จน์
ให้
เห็
นว่
า
รู
ปทรงของศิ
ลปะลวดลายงู
นั้
นเกิ
ดขึ้
นในประเทศไทยตั้
งแต่
ยุ
คก่
อนประวั
ติ
ศาสตร์
ซึ่
งน่
าจะเก่
าแก่
กว่
าอิ
นเดี
ย อย่
างไรก็
ดี
ดร.สิ
ทธิ
ชั
ย สมานชาติ
...เรื่
อง
๑๙