๒๐
ร้
อยๆ บาท ผู
กติ
ดไว้
ด้
วย สลากโชคนี้
บางคนก็
อุ
ทิ
ศส่
วนกุ
ศล
ให้
บิ
ดามารดาหรื
อญาติ
ผู้
ใหญ่
ที่
ล่
วงลั
บไปแล้
ว
สลากโชคนี้
เจ้
าของจะตบแต่
งประณี
ตสวยงามกว่
า
สลากธรรมดา บางเจ้
าของก็
เอาเครื่
องประดั
บอั
นมี
ค่
าสร้
อย
คอทองคำ
� สร้
อยข้
อมื
อหรื
อเข็
มขั
ดนาค เข็
มขั
ดเงิ
นใส่
ลงไป
ด้
วย แต่
ไม่
ได้
“ทาน” ไปจริ
ง ๆ เมื่
อถวายสลากแล้
วก็
มั
กจะ
ขอ “บู
ชา” คื
น การเอาของมี
ค่
าใส่
ลงไปเช่
นนั้
น ผู้
ถวายมั
ก
จะอุ
ทิ
ศส่
วนกุ
ศลนั้
น ๆ ให้
ตนเอง เพราะเชื่
อว่
าเมื่
อตายไป
แล้
วหากไปเกิ
ดในภพอื่
น ๆ ก็
จะได้
รั
บสิ่
งของที่
ตนถวายอุ
ทิ
ศ
ไปอี
กด้
วย
วิ
ธี
การทำ
�และการตกแต่
งก๋
วย
“ก๋
วย” สำ
�หรั
บใส่
ของที่
จะถวายพระสงฆ์
มี
ลั
กษณะ
คล้
ายชะลอมใส่
ผลไม้
มี
ลำ
�ดั
บขั้
นตอนในการทำ
�และตกแต่
ง
ดั
งนี้
๑. เอาไม้
ไผ่
มาสานเป็
นก๋
วย คล้
าย ๆ ชะลอมใส่
ผลไม้
๒. นำ
�ใบตองมารองในก๋
วย
๓. นำ
�เครื่
องไทยทานใสก๋
วย ดั
งนี้
ข้
าวสารอาหาร
แห้
ง ประกอบด้
วย-ข้
าวสาร-กระเที
ยม-หอมแดง-เกลื
อ-
ปลาร้
า-ปลาแห้
ง-ปลากระป๋
อง-พริ
กแห้
ง-น้ำ
�ปลาขนาดเล็
ก
หมาก พลู
กล้
วย อ้
อย ปู
นแดง ปู
นขาวของคาวหวาน บุ
หรี่
(ยาขึ่
น) ไม้
ขี
ด ดอกไม้
ธู
ปเที
ยน (สวยเตี
ยน) เมื่
อนำ
�สิ่
งของ
ทั้
งหมดใส่
ในก๋
วยแล้
ว มั
ดปากก๋
วยด้
วยตอก แล้
วนำ
�เอา
ดอกไม้
ธู
ปเที
ยน (สวยเตี
ยน) เสี
ยบไว้
ข้
างบน
ก๋
วยสลากของแท้
และดั
้
งเดิ
ม การทำ
�และแต่
งต้
นกั
ลปพฤกษ์
๑. นำ
�ไม้
ไผ่
สู
งตามต้
องการทำ
�เป็
นเสาสลากของต้
น
กั
ลปพฤกษ
๒. นำ
�ไม้
ไผ่
เหลาเป็
นวงกลมทำ
�เป็
นชั้
น ๆ อาจเป็
น
๓ ชั
้
น, ๕ ชั
้
น, ๗ ชั
้
น หรื
อ ๙ ชั
้
น แต่
ส่
วนมากนิ
ยมทำ
�เป็
น ๙ ชั
้
น
๓. นำ
�กระดาษย่
นสี
ต่
าง ๆ มาพั
นรอบเสาและชั้
น
ของต้
นกั
ลปพฤกษ์
๔. แต่
ละชั้
นก็
นำ
�เครื่
องไทยทานมาผู
กติ
ดให้
สวยงาม ปั
จจุ
บั
นจะนิ
ยมใส่
บะหมี่
กึ่
งสำ
�เร็
จรู
ป วุ้
นเส้
น ถ้
วย
จาน ขั
นน้ำ
� ขนม แปรงฟั
น ยาสี
ฟั
น กระดาษชำ
�ระ ผงซั
กฟอก
สบู่
แก้
วน้ำ
� แชมพู
สระผม
๕. ผ้
าเช็
ดหน้
า ผ้
าขนหนู
๖. ส่
วนชั้
นที่
๙ นำ
�สบงมาติ
ด
๗. ส่
วนชั้
นที่
๑ นำ
�เงิ
นที่
เป็
นเหรี
ยญมาห่
อด้
วย
กระดาษเงิ
น กระดาษทอง แล้
วนำ
�มาห้
อยไว้
๘. แล้
วนำ
�ร่
มคั
นเล็
กมาติ
ดปลายยอดสุ
ด แล้
วยั
งมี
การผู
กธนบั
ตรไว้
ที่
ขอบร่
มตามศรั
ทธา
เมื่
อเห็
นว่
าทุ
กคนทุ
กหลั
งคาเรื
อนนำ
�เอาเส้
นสลากมา
วางรวมกั
นหมดแล้
ว ทางคณะกรรมการผู้
เฒ่
าผู้
แก่
จึ
งทำ
�การ
สู
นเส้
นสลาก คื
อทำ
�บั
ญชี
รายชื่
อสลากทั้
งหลายให้
ปนกั
น โดย
ทุ
กคนนั่
งหรื
อยื
นรอบ ๆ กองเส้
นสลาก ต่
างคนต่
างหอบเอา
เส้
นขึ้
นโปรยไปรอบกอง บางครั้
งก็
จะเอาโปรยลงบนหั
วของ
กรรมการเป็
นที่
สนุ
กสนาน เมื่
อเห็
นว่
าคละเคล้
าปะปนกั
นแล้
ว
จึ
งช่
วยกั
นเอาตอกผู
กเส้
นสลากทำ
�เป็
นมั
ด ๆ ละ ๑๐ เส้
น ถึ
ง
ตอนนี้
ก็
จะรู้
ว่
าจำ
�นวนของเส้
นสลากแล้
วว่
าได้
จำ
�นวนเท่
าใด
แล้
วจึ
งคำ
�นวณหารจำ
�นวนพระภิ
กษุ
สามเณรที่
นิ
มนต์
มา ใน
สมั
ยโบราณมี
สู
ตรในการแบ่
งเส้
นสลาก ดั
งปรากฏในพั
บสา
ของวั
ดสั
นป่
าเลี
ยง อำ
�เภอเมื
อง จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
ว่
าจำ
�นวน
พระภิ
กษุ
มี
เท่
าใดเอาเป็
นเลขตั้
งไว้
เอา ๒ คู
ณ ได้
เท่
าใดเอา
จำ
�นวนของสามเณรมาบวก ได้
เท่
าใดแล้
วเอาหารกั
บเส้
น
สลาก ออกมาเท่
าใดก็
แบ่
งเป็
นจำ
�นวนเส้
นของสามเณรที่
จะรั
บสลากเส้
นที่
เหลื
อจากนั้
นก็
เอาจำ
�นวนพระภิ
กษุ
หารได้
เท่
าใดก็
เท่
านั้
น ก็
คงจะเป็
นพระภิ
กษุ
ได้
เส้
นสลากมากกว่
า
สามเณรครึ่
งหนึ่
งนั่
นเอง สมั
ยต่
อมาวั
ดที่
กิ
นสลากต้
องการ
เงิ
นเข้
าบำ
�รุ
งวั
ดจึ
งจั
ดเอาเข้
าเป็
นของพระเจ้
าครึ่
งหนึ่
ง
เหลื
อครึ่
งหนึ่
งเอามาหารกั
บจำ
�นวนพระภิ
กษุ
สามเณร ถ้
าได้