Page 32 - june53

Basic HTML Version

๓๐
ส่
วนรู
ปร่
างของนางงามรวมทั้
งเอว แขน ขา ที่
ว่
กั
นว่
างามนั้
นก็
ต้
องสวยงามได้
สั
ดส่
วนค่
อนข้
างจะต้
องดู
อ้
อนแอ้
นอ่
อนช้
อย แต่
ที่
สำ
�คั
ญคื
อต้
องมี
ผิ
วเหลื
องนวลและ
เกลี้
ยงเกลา มิ
ใช่
ขาวเสี
ยที
เดี
ยว คงจะเป็
นเพราะคนไทยนั้
เป็
นพวกมี
ผิ
วคล้ำ
�อยู่
เป็
นปกติ
ที่
กล่
าวมาแล้
วนั้
น เป็
นความงามแบบที่
ได้
รั
บการ
ยกย่
องจากกวี
โวหารต่
างๆ แต่
หากสตรี
นางใดเกิ
ดมาแล้
ยั
งไม่
งามสมบู
รณ์
พร้
อมก็
ต้
องมี
การปรุ
งแต่
งเพิ่
มเติ
มเสริ
ความงามเช่
นเดี
ยวกั
นกั
บในสมั
ยนี้
เริ่
มกั
นที่
ผม เพื่
อจะให้
ผมดำ
�และจั
บเข้
ารู
ปเข้
าทรง ทั้
คุ
ณตาคุ
ณยายของเราในอดี
ตมี
ผลิ
ตภั
ณฑ์
ที่
เรี
ยกว่
มุ
หน่
าย
สำ
�หรั
บตกแต่
งจั
ดทรง มี
สรรพคุ
ณเหมื
อนน้ำ
�มั
นหรื
อครี
มใส่
ผม
และสี
ย้
อมผมผสมกั
นไป ส่
วนผสมของมุ
หน่
าย ประกอบด้
วย
เขม่
าละอองดำ
�ๆ ที่
เกิ
ดจากควั
นไฟผสมกั
บน้ำ
�มั
นตานี
หรื
น้ำ
�มั
นเหนี
ยวอื่
นๆ ที่
อบร่ำ
�มาจนหอม ผสมกั
บปู
นอี
กเล็
กน้
อย
มิ
ให้
ไหลเยิ้
มเวลาถู
กแดด เมื่
อใส่
มุ
หน่
ายหรื
อเรี
ยกกั
นว่
จั
บเขม่
าแล้
วก็
หวี
จั
ดทรงตั้
งขึ้
นเป็
นผมปี
กหรื
อผมทั
ดได้
เรี
ยบร้
อยดี
ทำ
�ให้
ผมดู
ดกดำ
�อี
กด้
วย ใช้
ทั้
งผู้
หญิ
งและผู้
ชาย
ชายศี
รษะล้
าน เช่
น ขุ
นช้
าง ก็
ยั
งใช้
มุ
หน่
าย เพราะกลอน
เสภาขุ
นช้
างขุ
นแผน บรรยายตอนขุ
นช้
างแต่
งตั
วเอาไว้
ว่
ควั
กเอามุ
หน่
ายขึ้
นป้
ายปี
ฉี
กผมปรกกบาลให้
ล้
านหาย
ยั
งโล่
งเลี่
ยนเตี
ยนกลางอย่
างแปลงควาย
หั
วกู
ฉิ
บหายน่
าอายใจ
ส่
วนหญิ
งสาวนั้
นต้
องมี
ผมปี
กคื
อตั
ดสั้
นช่
วงบนศี
รษะ
แล้
วปล่
อยด้
านหลั
งยางประบ่
ารอบๆ ผมปี
กนั้
นก็
ต้
องคอย
ดู
แลไรผมให้
อยู่
ในแนวที่
กั้
นไว้
หากมี
ลู
กผมพลั
ดออกนอก
รอยก็
ต้
องใส่
มุ
หน่
ายแล้
วใช้
ขนเม่
นสอยไรผมเก็
บให้
เข้
ารู
อั
นนี
ต้
องดู
จากความงามของนางแก้
วกิ
ริ
ยาในวรรณคดี
ขุ
นช้
าง
ขุ
นแผน อี
กเช่
นกั
น ขุ
นแผนเมื่
อเห็
นนางก็
นึ
กชมในใจว่
คิ้
วคางบางคมอ่
อนละไม
รอยไรเรี
ยบรั
บระดั
บดี
ผมเปลื
อยเลื้
อยประลงจนบ่
งอนปลายเกศาดู
สมศรี
ต่
อจากทำ
�ผมแล้
วก็
ต้
องผั
ดหน้
า แป้
งผั
ดหน้
าตำ
�รั
ไทยมี
หลายชนิ
ด ทุ
กชนิ
ดต้
องมี
ความหอมเป็
นหลั
ก ไม่
ว่
จะเป็
นแป้
งผงเป็
นเม็
ดเล็
กหรื
อที่
เรี
ยกว่
าแป้
งนวล และแป้
เม็
ดใหญ่
คื
อดิ
นสอพอง เวลาจะใช้
ก็
ละลายกั
บน้ำ
�อบน้ำ
�หอม
หรื
อเกสรดอกไม้
ที่
หามาเพิ่
มเติ
มซึ่
งอาจเป็
นหั
วน้ำ
�หอมจาก
ต่
างแดน เช่
น น้ำ
�มั
นกุ
หลาบ เป็
นต้
น และบางคนก็
ใส่
พิ
มเสน
เพื่
อบำ
�รุ
งผิ
วแก้
สิ
ว ผด ผื่
นคั
นลงไปด้
วยก็
ได้
แป้
งนี้
สาวๆ แต่
ละบ้
านหรื
อสาวชาววั
งจะผลิ
ตไว้
ใช้
เอง
ต่
างบ้
านก็
มี
สู
ตรแตกต่
างกั
นไป บดผสมกั
นจนเป็
นเนื้
อเดี
ยว
แล้
วผสมน้ำ
�ที่
มี
ส่
วนผสมของเครื่
องหอมอี
กเช่
นกั
น ต้
มเคี่
ยว
จนข้
น ผสมดิ
นแป้
งหรื
อแป้
งหิ
นลงไปก็
เหนี
ยวพอจะหยอด
เป็
นเม็
ดได้
จึ
งหยอดลงบนใบตองและใส่
ถาดผึ่
งในร่
ม ถ้
าผึ่
แดดกลิ่
นหอมระเหยหายไป เมื่
อแป้
งแห้
งดี
แล้
วก่
อนจะนำ
มาใช้
ต้
องใส่
ในโถ อบด้
วยไม้
หอม เช่
น มะลิ
กระดั
งงา และ
เที
ยนอบ อบจนหอมเข้
าเนื้