Page 31 - june53

๒๙
งามอย่างไทย
ราศี บุรุษรั ตนพันธ์ุ...เรื่อง
ยุ คนี้ เป็นยุ คที่ ธุ รกิ จโฆษณามีความเฟื่ องฟู เป็ น
อย่ า ง ยิ่ ง แล ะ สิ นค้ า กลุ่ มที่ ทุ่ มทุ นกั บก า ร โ ฆษณา
ประชาสั มพันธ์มากที่สุดเห็นจะได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อประทิน
ความงามและบำ �รุงร่างกายซึ่งล้ วนพยายามที่จะนำ�เสนอ
สรรพคุณวิเศษต่ างๆเพื่อเรียกร้ องความสนใจจากผู้ ใช้ ทุก
เพศทุกวัย สินค้าต่างๆเหล่านี้ผลิตมาเพื่อความงามทุ กส่วน
ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ทุกอย่างล้วนมีสูตรลับ และส่วน
ผสมอันวิเศษเป็นภาษาต่างประเทศ และดู เหมือนว่าพวก
เราทุกคนต้องซื้ อผลิตภั ณฑ์เหล่ านี้มาใช้กันทั้งนั้ นมากบ้าง
น้อยบ้าง ถูกบ้าง แพงบ้างก็ ตามแต่ความพอใจทำ�ให้ต้องคิด
ต่อไปว่าคนไทยในอดีต เมื่อครั้งที่ ยังไม่รู้จักโปรตีนสูตรต่างๆ
เอ็ นไซม์ ไวตามิน ทั้ งหลายเหล่านี้แล้วไซร้ คุณทวด คุณตา
คุณยาย ของเรานั้ นอยู่กันมาได้ อย่างไรและใช้อะไรกั นบ้าง
เพื่ อการบำ�รุงความงาม
อันที่จริ งแล้วก็ ไม่มีหลั กฐานแน่นอนระบุว่าคนไทย
รู้จักใช้ เครื่องสำ �อางกันมาตั้งแต่ยุคใด แต่ คนไทยมีเครื่อง
หอม เครื่องสำ�อาง เครื่องบำ�รุงผิ ว ใช้กันมาด้วยสูตรพิเศษ
แบบไทยๆ กันมานานนักหนาแล้วสรรพคุณก็ มิได้น้อยหน้ า
ผลิตภั ณฑ์ชั้นนำ �จากต่างประเทศเลยเช่นกัน
ก่อนอื่นต้องดูกันก่อนว่าความนิยมในเรื่องความสวย
ความงามของคนไทยเราในอดีตมี อย่างไร เห็นจะต้องนำ�
นางงามในวรรณคดีไทยมาพิจารณากัน
วรรณคดี ไทยบรรยายใบหน้าหญิ งงามว่ าเหมือน
ดวงจันทร์เต็มดวง เช่น พักตร์ผ่องสีฉวีวรรณ พิศเพี้ยนเจียน
จันทร์บุ หลันลอย นั่นก็คือ ต้องมีใบหน้านวลผ่องไร้ สิวฝ้ าร่อง
รอยใดๆส่วนผมก็ต้องดำ�ขลั บ และสามารถจัดได้เข้ารูปทรง
ตามความนิ ยมในแต่ละยุคแต่ละสมัย ส่วนนัยน์ตาก็ต้องดำ�
ขลับดังนิลและดำ�แจ่มใสเหมือนลูกกวาง
คิ้วนางที่ว่างามก็ต้ องดกดำ�โก่งโค้งเหมื อนคันศร หรือ
เหมื อนเดือนเสี้ยว ปากนั้นก็ ต้องได้รูปงามมี สีแดงระเรื่อ
คล้ายสีลูกทับทิมบ้ าง ลูกมะพลับ หรือแก้วประพาฬ จะมี ที่
แปลกไปกว่ายุคสมั ยนี้ก็คื อฟัน เพราะสาวงามในอดีตต้ อง
ฟันเรียบสวยแต่ ต้องเป็นสีดำ �เพราะกินหมาก ฟั นดำ�ที่ว่ านี้
ต้องดำ�สนิทจะเป็นเงาแวววาวดังคำ�ชมนางที่ว่า เจ้างามทนต์
กลนิลช่างเจียระไน
อีกส่ วนหนึ่งกวีมั กจะบรรยายความงามไว้มากคื อ
คอ ว่าต้องงามระหง แต่ หากเราดูจากภาพนางในจิตรกรรม
ฝาผนังนั้ นจะเห็นว่าหญิงงามสูงศักดิ์ มั กจะมีคออวบและ
เป็นปล้องคือ มีริ้วนั บได้สามเส้ นจึงมีคำ�พรรณนาคองามไว้
ทั้งสองแบบคือ เจ้างามศอเหมือนดั่งคอสุวรรณหงส์ คงจะ
หมายถึง คอหงส์ที่ปิดทอง และอีกอย่างหนึ่ งคือ คางคอนิ่ม
อนงค์เป็นวงปล้อง ดั่งสร้อยทองรองรับกับไหล่ผาย อันนี้เป็น
แบบคอปล้องอย่างที่กล่าวไปแล้ว