๘
อภิ
นั
นท์
บั
วหภั
กดี
...เรื่
องและภาพ
ต้
นพุ
ทธศตวรรษที
่
๑๓ นั
กจดหมายเหตุ
จี
น สมั
ย
ราชวงศ์
เหลี
ยง ชื่
อเหลี
ยงชู
ได้
บั
นทึ
กเรื่
องราวอั
นน่
าสนใจ
ของ “รั
ฐลั
ง-ยา-สิ
่
ว” หรื
อลั
งกาสุ
กะ ไว้
ว่
า ตั
้
งขึ
้
นเมื่
อราว
พุ
ทธศตวรรษที
่
๗ อยู
่
ในบริ
เวณทะเลใต้
ห่
างจากเมื
องท่
า
กวางตุ
้
ง ๒๔,๐๐๐ ลี
้
“เมื
องมี
กำ
�แพงล้
อมรอบ มี
ประตู
และหอคอยคู่
พระราชา มี
พระนามว่
า ภคทั
ต (ยอเจี
ยต้
าตั
ว) เวลาจะเสด็
จไป
ที
่
แห่
งใด จะทรงช้
างเป็
นพาหนะ มี
ฉั
ตรสี
ขาวกั
้
น มี
ขบวนแห่
ประกอบด้
วยกลอง และทิ
วธงนำ
�หน้
า แวดล้
อมด้
วยทหารที
่
มี
หน้
าตาดุ
ร้
าย”
“ชาวเมื
องนิ
ยมไว้
ผมยาว ผู้
หญิ
งแต่
งกายด้
วยผ้
าฝ้
าย
มี
เครื่
องเพชรพลอยประดั
บตกแต่
งกาย ผู้
ชายมี
ผ้
าพาดไหล่
ทั้
งสอง มี
เชื
อกทองคาดต่
างเข็
มขั
ด และสวมตุ้
มหู
ทอง
รู
ปวงกลม”
เมื่
อปี
ที่
สิ
บแห่
งศั
กราชเถี
ยนเจี
ยน (ตรงกั
บปี
พ.ศ.
๑๐๕๘) กษั
ตริ
ย์
เมื
องนี้
ส่
งราชฑู
ตชื่
อ อชิ
ตะ (อาเช่
อตั
ว)
ไปเฝ้
าจั
กรพรรดิ
จี
น ทางจี
นให้
ช่
างเขี
ยน เขี
ยนภาพราชฑู
ตไว้
“เป็
นคนหั
วหยิ
กหยองน่
ากลั
ว นุ่
งผ้
าโจงกระเบน ห่
มสไบเฉี
ยง
สวมกำ
�ไลที่
ข้
อเท้
าทั้
งสอง ผิ
วค่
อนข้
างดำ
�” รู
ปลั
กษณะของ
ทู
ตลั
งกาสุ
กะนี้
เราจะพบเห็
น ได้
จาก ชาวชนบทในภู
มิ
ภาค
ทั
กษิ
ณของประเทศไทยได้
ทั่
วๆ ไป
และนี
่
น่
าจะเป็
นหลั
กฐานที
่
เชื่
อถื
อได้
ชิ
้
นหนึ
่
งที
่
กล่
าวถึ
ง
แคว้
นลั
งกาสุ
กะ หรื
อรั
ฐปั
ตตานี
ในอดี
ต ซึ
่
งในปี
ที
่
แล้
วถ้
าใครได้
ชมหนั
งไทยยิ
่
งใหญ่
เรื่
องปื
นใหญ่
จอมสลั
ด Lankasuka ก็
อาจ
จะเที
ยบเคี
ยงเพื
่
อจิ
นตนาการอั
นบรรเจิ
ดได้
แต่
จะไปเชื
่
อถื
อ
เสี
ยทั
้
งหมดก็
คงไม่
ได้
อี
กนั
่
นแหละ เพราะปื
นใหญ่
จอมสลั
ดนั
้
น
จริ
งๆ แล้
วก็
เป็
นเพี
ยงนิ
ยายที
่
แต่
งขึ
้
นใหม่
โดยเที
ยบเคี
ยงกั
บ
ประวั
ติ
ศาสตร์
อย่
างที
่
ฝรั
่
งนั
กสร้
างหนั
งย้
อนยุ
คสมั
ยใหม่
นิ
ยมใช้
คื
อ หยิ
บยื
มเรื่
องจริ
งในประวั
ติ
ศาสตร์
ส่
วนหนึ
่
งมาเป็
นฉากหลั
ง
ให้
กั
บเรื่
องไม่
จริ
งที
่
แต่
งขึ
้
นใหม่
เพื่
อให้
เรื่
องทั
้
งเรื่
องเกิ
ดความ
น่
าเชื่
อถื
อ เหมื
อนจะสื
บค้
นได้
แต่
ไหง พี
่
แกสื
บค้
นไปได้
ละเอี
ยด
ลึ
กซึ
้
งถึ
งเพี
ยงนั
้
น หนั
งฝรั
่
งย้
อนยุ
คดั
งๆ อย่
าง Kingdom of
Heaven Troy Gladiator และ Robinhood ก็
เป็
นอย่
างนี
้
รั
ฐลั
งกาสุ
กะ หรื
อรั
ฐปั
ตตานี
ดั
้
งเดิ
ม แรกก็
มิ
ได้
เป็
นรั
ฐ
อิ
สลาม หากแต่
เป็
นรั
ฐที
่
นั
บถื
อศาสนาที
่
ประสมประสานปนเป
ระหว่
างพุ
ทธและฮิ
นดู
ชาวเมื
องก็
ปะปนกั
นไป ทั
้
งชาวพื
้
นเมื
อง
มลายู
ชาวเสี
ยม และชาวจี
น เป็
นเช่
นเดี
ยวกั
บเมื
องต่
างๆอี
ก
มากมายในคาบสมุ
ทรมลายู
ไปจนถึ
งหมู
่
เกาะต่
างๆที
่
ปั
จจุ
บั
นเป็
น
ประเทศอิ
นโดนี
เซี
ย
รั
ฐลั
งกาสุ
กะ ได้
เข้
ามารวมเป็
นส่
วนหนึ
่
งของรั
ฐสยาม
ในสมั
ยกรุ
งสุ
โขทั
ย โดยผู
กติ
ดมากั
บเมื
องนครศรี
ธรรมราชใน
ฐานะเมื
องประเทศราช คื
อเจ้
าเมื
องมี
สิ
ทธิ
ในการบริ
หารเมื
อง
เต็
มที
่
จะเก็
บภาษี
มาใช้
เอง หรื
อจะสั
่
งฆ่
าใครก็
ได้
แต่
ในทุ
กสามปี
จะต้
องส่
งเครื่
องราชบรรณาการและดอกไม้
เงิ
นทองมาแสดง
ความสามิ
ภั
กดิ
์
ชื่
อของรั
ฐลั
งกาสุ
กะ อี
กหลายปี
ต่
อมา ก็
มี
การ
เปลี
่
ยนแปลงครั
้
งสำ
�คั
ญอี
กครั
้
งเป็
น โกตา มหลิ
ฆั
ย
เรื
อกอและ
จอดรอวั
นคลื่
นลมสงบที่
บ้
านทอน
สาวๆ มุ
สลิ
มแต่
งกายสวยงามมาร่
วมงานแต่
งงาน