๒๓
ยุ่
งยากใจ (สลั
บซั
บซ้
อนสางออกยาก) ร้
าวรานใจ (ทำ
�ให้
เจ็
บ
ช้ำ
�น้ำ
�ใจ) ลำ
�บากใจ (ตั
ดสิ
นใจยาก) เสี
ยกำ
�ลั
งใจ (ทำ
�ให้
กำ
�ลั
ง
ใจตกหรื
อลดลง) ห่
อเหี่
ยวใจ (มี
ความรู้
สึ
กหดหู่
สลดใจ)
คำ
�ในกลุ่
มนี้
ถ้
าหากเป็
นพฤติ
กรรมปรากฏในสั
งคม
ใดก็
ตาม สั
งคมนั้
นย่
อมจะพบกั
บความเดื
อดร้
อนวุ่
นวาย
สั
บสน โดยเฉพาะคำ
�ว่
า “ใจแคบ” “ใจร้
อน” “ใจดำ
�” “ใจต่ำ
�”
“ใจหิ
น” “เจ็
บใจ”
“ท้
อใจ” “น้
อยใจ” “ผิ
ดใจ” “นอกใจ” ฯลฯ ทำ
�ให้
สั
งคม
เดื
อดร้
อนวุ่
นวายมานั
กต่
อนั
กแล้
ว
๓. คำ
�ที่
มี
ความหมายกลางๆ ไม่
แสดงความรู้
สึ
ก
นึ
กคิ
ดว่
าดี
หรื
อไม่
ดี
ได้
แก่
ใจกลาง (ศู
นย์
กลาง) ใจความ (ส่
วนสำ
�คั
ญของเรื่
อง)
ใจคอ (จิ
ตใจ อั
ธยาศั
ย อารมณ์
) ใจมื
อ (มาตราตวงตามวิ
ธี
ประเพณี
ของไทยโบราณ ๑๕๐ เมล็
ดข้
าว = ๑ ใจมื
อ ๔ ใจมื
อ=
๑ กำ
�มื
อ) ใจเมื
อง (ศู
นย์
กลางของเมื
อง) ตามใจ (แล้
วแต่
ใจ)
แปลกใจ (สงสั
ย) ดู
ใจ (ลองดู
น้ำ
�ใจ)
คำ
�ที่
ปรากฏในกลุ่
มนี้
มี
อยู่
น้
อยมาก เป็
นคำ
�ที่
มี
ความหมายเรี
ยบๆไม่
ให้
ความรู้
สึ
กเหมื
อนกั
บคำ
� ในกลุ่
มที่
๑
และกลุ่
มที่
๒ ดั
งที่
กล่
าวมาแล้
ว
จะเห็
นได้
ว่
าถ้
าหากสั
งคมใดมี
คำ
�ในกลุ่
มที่
๑ ปรากฏ
อยู่
มาก สภาพสั
งคมนั้
นก็
จะพบแต่
พฤติ
กรรมที่
แสดงออกใน
ทางที่
ดี
งาม และสามารถสร้
างสรรค์
สั
งคมให้
เจริ
ญก้
าวหน้
า
มี
ความสงบสุ
ข ร่
มเย็
น ในทำ
�นองเดี
ยวกั
นหากสภาพสั
งคม
ใดมี
คำ
�ที่
ปรากฏ ในกลุ่
มที่
๒ อยู่
มาก สภาพของสั
งคมนั้
นก็
จะพบแต่
ความเสื่
อมเสี
ยเดื
อดร้
อนวุ่
นวาย เพราะคำ
�เหล่
านี้
แสดงออกถึ
งพฤติ
กรรมในทางทำ
�ลายทั้
งสิ้
น ด้
วยเหตุ
นี้
ถ้
า
หากว่
าสั
งคมใดมี
ลั
กษณะดั
งคำ
�กลุ่
มที่
๒ มากเกิ
นไป ก็
ควร
ที่
จะใช้
คำ
�กลุ่
มที่
๑ เข้
ามาแก้
ไขหรื
อพยายามสร้
างพฤติ
กรรม
ของคำ
�กลุ่
มที่
๑ ให้
เกิ
ดขึ้
น เช่
น เมื่
อสั
งคมใดมี
ลั
กษณะ
“ใจแคบ” ก็
แก้
ไขด้
วย “ใจกว้
าง” “ใจร้
อน” ก็
แก้
ไขด้
วย
“ใจเย็
น” “ใจต่ำ
�” ก็
ควรแก้
ไขด้
วย “ใจสู
ง” “นอกใจ” ก็
แก้
ไข
ด้
วย “ใจหนั
กแน่
น” เป็
นต้
น แต่
อย่
างไรก็
ตามหากสภาพของ
สั
งคมใดถู
กเกาะกิ
นด้
วยพฤติ
กรรมของคำ
�ในกลุ่
มที่
๒ มาก
เกิ
นไป ก็
ยากนั
กที่
จะมี
หนทางแก้
ไขได้
จึ
งมี
ความจำ
�เป็
นอย่
าง
ยิ่
งที่
ทุ
กคนในครอบครั
ว โดยเฉพาะคุ
ณพ่
อคุ
ณแม่
ควรที่
จะ
ต้
องช่
วยกั
นปลู
กฝั
งให้
ลู
กหลานของตนปฏิ
บั
ติ
ตั
วในทางที่
ถู
กที่
ควร รู้
จั
ก บาป บุ
ญ คุ
ณโทษและเชื่
อมั่
นในหลั
กที่
ว่
า “ทำ
�ดี
ได้
ดี
ทำ
�ชั่
วได้
ชั่
ว” ซึ่
งเป็
นการ “กั
นดี
กว่
าแก้
” เพราะอย่
างน้
อย
ที่
สุ
ดอาจจะทำ
�ให้
สั
งคมเราสงบสุ
ขขึ้
นบ้
าง ใช่
มั้
ยครั
บ?
+-------------------------------------------+
หนั
งสื
ออ้
างอิ
ง : เปลื้
อง ณ นคร. ๒๕๔๖.
พจนะภาษา
.
พิ
มพ์
ครั้
งที่
๒. กรุ
งเทพฯ : ไทยวั
ฒนาพานิ
ช.
ราชบั
ณฑิ
ตยสถาน. ๒๕๔๖.
พจนานุ
กรม
ฉบั
บราชบั
ณฑิ
ตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒.
กรุ
งเทพฯ : นานมี
บุ๊
คส์
พั
บลิ
เคชั่
นส์
.