๑๘
ผ้
ากาสาวพั
สตร์
ใช้
เรี
ยกรวมหมายถึ
งผ้
านุ่
งห่
มของ
พระภิ
กษุ
สงฆ์
ในพระพุ
ทธศาสนาอั
นได้
แก่
ผ้
า ๓ ผื
นหลั
กคื
อ
สบง จี
วร และสั
งฆาฏิ
หรื
อเรี
ยกในความหมายรวมกั
นว่
า
ผ้
าจี
วร ถ้
าจะแปรตามตั
วกาสาวพั
สตร์
แปลว่
าผ้
าย้
อมฝาด
ในสมั
ยพุ
ทธกาลไม่
ได้
กำ
�หนดชั
ดเจนว่
าผ้
าจี
วรเป็
นสี
อย่
างไร
แต่
กล่
าวว่
าเป็
นผ้
าย้
อมฝาด น้ำ
�ฝาดมาจากวั
สดุ
ธรรมชาติ
ที่
กำ
�หนดไว้
๖ อย่
างคื
อ เหง้
ารากไม้
ต้
นหรื
อแก่
นไม้
เปลื
อกไม้
ใบไม้
ดอกไม้
และผลไม้
ผ้
าที่
ย้
อมฝาดคงจะมี
สี
เหลื
องหม่
น
หรื
อสี
น้ำ
�ตาลอมแดงที่
เรี
ยกว่
า สี
กรั
ก สี
ดั
งกล่
าวเป็
นสี
ที่
ดู
สุ
ภาพเหมาะสำ
�หรั
บเป็
นผ้
านุ่
งห่
มของพระสมณะ
ในระยะแรกนั้
น พระพุ
ทธเจ้
าทรงยั
งไม่
อนุ
ญาตให้
พระภิ
กษุ
สงฆ์
รั
บจี
วรซึ่
งฆราวาสตั
ดเย็
บถวายพระภิ
กษุ
ต้
อง
แสวงหาผ้
ามาทำ
�จี
วรเอง ซึ่
งได้
แก่
ผ้
าที่
คนทั่
วไปทิ้
งแล้
วหรื
อ
ผ้
าไม่
มี
เจ้
าของ ทิ้
งอยู่
ตามถนนหนทางหรื
อได้
จากผ้
าห่
อศพ
ผ้
าเหล่
านี้
เรี
ยกว่
าผ้
าบั
งสุ
กุ
ล เมื่
อได้
ผ้
ามาแล้
วก็
นำ
�มาซั
ก
ล้
างให้
สะอาดย้
อมด้
วยฝาดและเย็
บต่
อกั
นเป็
นผื
น พระภิ
กษุ
ครั้
งพุ
ทธกาลจึ
งต้
องตั
ดเย็
บจี
วรเองเป็
น ทั้
งถื
อเป็
นกรณี
ยกิ
จ
สำ
�คั
ญที่
พระภิ
กษุ
จะต้
องช่
วยเหลื
อกั
นและกั
นในการตั
ดเย็
บ
จี
วร ขณะนั้
นแม้
พระพุ
ทธองค์
ก็
เคยประทั
บเป็
นประธานใน
การจั
ดทำ
�จี
วร และทรงใช้
ผ้
าจี
วรจากผ้
าบั
งสุ
กุ
ลเช่
นพระภิ
กษุ
อื่
น กาลต่
อมาจำ
�นวนพระภิ
กษุ
สงฆ์
เพิ่
มขึ้
น การแสวงหา
ผ้
าทำ
�จี
วรค่
อนข้
างลำ
�บาก พระพุ
ทธเจ้
าจึ
งทรงอนุ
ญาตให้
พระภิ
กษุ
สงฆ์
รั
บจี
วรซึ่
งมี
ผู้
จั
ดทำ
�ถวายได้
เรี
ยกว่
า คหบดี
จี
วร มี
เรื่
องเล่
าว่
า หมอชี
วกโกมารภั
จ หมอหลวงประจำ
�
ราชสำ
�นั
กของพระเจ้
าพิ
มพิ
สาร แห่
งแคว้
นมคธ ซึ่
งเป็
น
หมอประจำ
�พระพุ
ทธเจ้
าและพระสาวกด้
วย เป็
นผู้
ทู
ลขอ
อนุ
ญาต โดยทู
ลขอขณะเมื่
อเข้
าเฝ้
าพระพุ
ทธเจ้
า ณ ชี
วกั
มว
ราราม พระพุ
ทธเจ้
าได้
ทรงตริ
ตรองแล้
วไม่
เห็
นโทษก็
โปรด
ประธานอนุ
ญาต นั
บแต่
นั้
นมาคนทั้
งหลายก็
สามารถนำ
�
ผ้
าจี
วรมาถวายพระได้
โดยตรง ถื
อว่
าเป็
นคหบดี
จี
วร ผ้
าที่
พระวิ
นั
ยอนุ
ญาตให้
นำ
�มาตั
ดเย็
บเป็
นผ้
านุ่
งห่
มของ
พระภิ
กษุ
สงฆ์
มี
อยู่
๖ ประเภท ได้
แก่
ฉวี
งาม มาเจริ
ญ...เรื่
อง