ความปลอดภั
ยมี
ความสำ
�คั
ญต่
อการดำ
�รงชี
วิ
ต
ของมนุ
ษย์
เพราะเหตุ
การณ์
ที่
ไม่
คาดคิ
ดอาจเกิ
ดขึ้
นได้
ทุ
กที่
ทุ
กเวลา โดยที่
เราไม่
สามารถห้
ามไม่
ให้
เกิ
ดขึ้
นได้
ดั
งจะเห็
นได้
จากอุ
บั
ติ
ภั
ย เช่
น ภั
ยจากการร่
วงหล่
นของ
วั
ตถุ
อั
คคี
ภั
ยที่
เกิ
ดในซาติ
ก้
าผั
บ อุ
บั
ติ
เหตุ
ตามท้
องถนน
อั
นเกิ
ดจากการขั
บรถเร็
วเกิ
นอั
ตราที่
กฎหมายกำ
�หนด
การเมาแล้
วขั
บ การง่
วงแล้
วขั
บ การไม่
สวมหมวกนิ
รภั
ย
การใช้
โทรศั
พท์
มื
อถื
อขณะขั
บรถ การไม่
คาดเข็
มขั
ด
นิ
รภั
ย รวมทั้
งภั
ยพิ
บั
ติ
ทางธรรมชาติ
เช่
น แผ่
นดิ
นไหว
สึ
นามิ
วาตภั
ย อุ
ทกภั
ย เป็
นต้
น ซึ่
งภั
ยต่
าง ๆ เหล่
านี้
ล้
วนสร้
างความสู
ญเสี
ยในตั
วบุ
คคลและครอบครั
ว ไม่
ว่
า
จะเป็
นทรั
พย์
สิ
น อวั
ยวะร่
างกาย และชี
วิ
ตที่
ประมาณค่
า
ไม่
ได้
รวมถึ
งความสู
ญเสี
ยทางด้
านจิ
ตใจที่
ยากจะเยี
ยวยา
ในระยะเวลาอั
นสั้
น ดั
งนั้
น มนุ
ษย์
จะต้
องหั
นมาใส่
ใจใน
เรื่
องของความปลอดภั
ย เพื่
อที่
จะป้
องกั
นและลดความ
สู
ญเสี
ยในทุ
กด้
านให้
น้
อยที่
สุ
ด
ความปลอดภั
ยไม่
ใช่
เป็
นเพี
ยงความคิ
ดหรื
อความ
รู้
สึ
ก แต่
เป็
นวิ
ถี
ชี
วิ
ตของคนในสั
งคม หรื
ออี
กนั
ยหนึ่
งเป็
น
“วั
ฒนธรรมความปลอดภั
ย” ของคนไทย ซึ่
งหมายถึ
ง
ความเชื่
อและพฤติ
กรรมของบุ
คคลที่
แสดงออกในเรื่
อง
การตระหนั
กและการป้
องกั
นความเสี่
ยงในสิ่
งที่
ทำ
� โดย
ไม่
จำ
�กั
ดเวลา และ สถานที่
เมื่
อบุ
คคลใดเห็
นสิ่
งที่
ตนเอง
กระทำ
�อยู่
มี
ความเสี่
ยงจะต้
องหยุ
ดคิ
ด หยุ
ดทำ
�ทั
นที
เพื่
อ
ลดโอกาสการเกิ
ดภั
ยและปกป้
องอั
นตรายจากภั
ยต่
างๆ
ได้
วั
ฒนธรรมความปลอดภั
ย นั
บเป็
นวิ
ถี
ชี
วิ
ตที่
อยู่
คู่
กั
บคนไทยมาช้
านาน สามารถพบได้
ในวั
ฒนธรรม
พื้
นบ้
านที่
ชาวบ้
านสร้
างขึ้
นมาเอง ถ่
ายทอดกั
นต่
อมาผ่
าน
คำ
�สั่
งสอนหรื
อการบอกกล่
าว ดั
งจะพบได้
จากความเชื่
อ
และแนวทางการปฏิ
บั
ติ
เพื่
อความปลอดภั
ยในการทำ
�งาน
อาทิ
เช่
น ไม่
ควรยกจอบสู
งและแรงเกิ
นไป เมื่
อเวลา
เหวี่
ยงลงอาจทำ
�ให้
เลยมาบาดเท้
าหรื
อหน้
าแข้
ง ไม่
ควร
หงายจอบหรื
อวางมี
ดที่
เปิ
ดคมไว้
ที่
พื้
นเพราะอาจทำ
�ให้
คนไม่
เห็
นเดิ
นมาเตะและบาดเจ็
บได้
ไม่
ให้
ยื
นอยู่
ทางด้
าน
หน้
าของผู้
ที่
กำ
�ลั
งจะขุ
ดดิ
น เพราะส่
วนหั
วของจอบที่
เป็
น
เหล็
กอาจไม่
แน่
นและหลุ
ดออกไปโดนผู้
ที่
ยื
นอยู่
ด้
านหน้
า
ได้
ห้
ามยื
นอยู่
ด้
านหน้
าหรื
อด้
านหลั
งของสั
ตว์
เพราะอาจ
ถู
กขวิ
ดหรื
อเตะเอาได้
เมื่
อออกไปล่
าสั
ตว์
ขณะอยู่
บนห้
าง
แล้
ว ต้
องไม่
ลงมาอี
กจนกระทั่
งพระอาทิ
ตย์
ขึ้
น ไม่
ขานรั
บ
เสี
ยงคนมาเรี
ยก เวลาโค่
นต้
นไม้
จะต้
องสั
งเกตว่
าต้
นไม้
จะ
ล้
มไปทางไหน นอกจากนี้
วั
ฒนธรรมความปลอดภั
ยยั
ง
อยู่
ในรู
ปของสุ
ภาษิ
ต สำ
�นวน และคำ
�พั
งเพย ซึ่
งแสดง
ถึ
งความเป็
นเจ้
าคารมและภู
มิ
ปั
ญญาของคนไทยในการ
เตื
อนสติ
ในการกระทำ
�ใด ๆ ก็
ตาม (วรวรรณ คงมานุ
สรณ์
.
๒๕๔๙; ศิ
วพร ไพลิ
น. ๒๕๕๑; อุ
ทั
ย ไชยานนท์
. ๒๕๔๖,
๒๕๕๐) โดยแบ่
งออกเป็
น ๔ ด้
าน ดั
งนี้
๑. การสอนเกี่
ยวกั
บกระทำ
�ที่
รอบคอบ อดทนและ
อดกลั้
น เช่
น ผ่
อนหนั
กเป็
นเบา ช้
า ๆ ได้
พร้
าเล่
มงาม ช้
า
เป็
นการนานเป็
นคุ
ณ แพ้
เป็
นพระชนะเป็
นมาร จะช้
าจะ
เร็
วก็
ถึ
งเหมื
อนกั
น
ดร.หทั
ยรั
ตน์
มาประณี
ต...เรื่
อง
๓๔
วั
ฒนธรรมวิ
พากษ์