Page 34 - Jan53

Basic HTML Version

ใช่
มั้
ยฮะ?... นอนไม่
หลั
บนี่
แน่
อยู่
แล้
ว มั
นเป็
นของแปลกๆ
ที่
เราไม่
เคยทำ
� กลั
วนิ
ดๆ ไม่
ใช่
อะไร คื
อ กลั
วผิ
ด มี
ขึ้
นมา
แล้
วจะเสี
ยหายใหญ่
หลวงนั
ก แต่
ก็
ดี
ที่
มี
การซ้
อม กว่
จะถึ
งวั
นจริ
ง ที่
เค้
าให้
ซ้
อมย่
อย ซ้
อมใหญ่
ก็
เพื่
อเป็
นการ
เพิ่
มความมั่
นใจให้
คนที่
ประหม่
า กลั
วความผิ
ดพลาด คน
ที่
ใหม่
ต่
อการต่
อการทำ
�งาน โดยเฉพาะเห่
ผิ
ดนี่
จะยาก
เพราะว่
า จะกางตำ
�ราตลอด บางบทไม่
ต้
องการก็
ร้
อง
ได้
เพราะว่
าระยะเวลาในการซ้
อมต้
องหลายเดื
อน เรา
ก็
จำ
� แต่
เพื่
อป้
องกั
นความผิ
ดพลาด กางตำ
�ราด้
วยเห่
ไป
พลิ
กไป แล้
วรั
บรองไม่
พลาด ผมไม่
เคยพลาดเริ่
มตั้
งแต่
ปี
๒๕๒๕ เป็
นต้
นมา ไม่
มี
(หั
วเราะ) เพราะว่
าเรื่
องอั
กขระ
เรื่
องต่
างๆเกี่
ยวกั
บบทเห่
นั้
นจะไม่
ยอมให้
ผิ
ดเป็
นอั
นขาด”
นอกจากจะเป็
นครั้
งแรกที่
ได้
มี
การฟื้
นฟู
การจั
ดกระบวน
พยุ
หยาตราใหญ่
ขึ้
นมาแล้
ว ครู
มงคลยั
งเล่
าว่
าครั้
งนี้
ก็
เป็
นครั้
งแรกที่
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วทรงมี
รั
บสั่
ว่
า ให้
พนั
กงานเห่
ให้
ไปลงประจำ
�ในเรื
อทรงผ้
าไตร หรื
เรื
ออั
ญเชิ
ญพระพุ
ทธรู
ป และยึ
ดถื
อเป็
นแบบอย่
างตั้
งแต่
นั้
นเป็
นต้
นมา จากเดิ
มที่
โบราณราชประเพณี
ของกระบวน
พยุ
หยาตราใหญ่
ชลมารค กำ
�หนดว่
าพนั
กงานเห่
เรื
อจะ
ต้
องอยู่
ในเรื
อพระที่
นั่
งทรง
รวมถึ
งยั
งเป็
นครั้
งแรกที่
ท่
านได้
ริ
เริ่
มให้
มี
ของการ
ถ่
ายทอดเสี
ยงการเห่
เรื
อทางสถานี
วิ
ทยุ
เพื่
อให้
ฝี
พายทั้
กระบวนเรื
อได้
ยิ
นเสี
ยงอย่
างชั
ดเจน และสามารถพาย
เรื
อได้
พร้
อมเพรี
ยงกั
นอย่
างงดงามทั้
งกระบวน ท่
านเล่
ถึ
งเรื่
องนี้
ว่
า “เริ่
มแรกเลยตามที่
คุ
ณครู
ท่
านเห่
ในช่
วงนั้
ใช้
เครื่
องขยายเสี
ยงติ
ดในเรื
อเห่
แล้
วเสี
ยงก็
จะออกไป
รอบๆบริ
เวณเรื
อในกลุ่
มนั้
นเท่
านั้
นเองที่
จะได้
ยิ
น ที
นี้
พอ
มาถึ
งปี
๒๕๒๕ ผมก็
เอาแนวคิ
ดที่
เราได้
เห็
นมาตั้
งแต่
ปี
๒๕๐๐ – ๒๕๑๐ ที่
คุ
ณครู
ท่
านอยู่
รวมทั้
งการซ้
อม
ของเราด้
วยว่
า “เสี
ยงมั
นไม่
ได้
ยิ
น ที
นี้
เมื่
อเสี
ยงไม่
ได้
ยิ
กฎเกณฑ์
ที่
เราวางไว้
ว่
าฝี
พายนั้
นจะต้
องพายพร้
อมเพรี
ยง
กั
นทั้
งกระบวน มั
นก็
เป็
นไปไม่
ได้
นะฮะ เพราะความยาว
ของกระบวนกิ
โลกว่
า (หั
วเราะ) ต้
องใช้
สายตาดู
เรื
อลำ
หน้
า แกขึ้
นฉั
นขึ้
น แกลงฉั
นลง ก็
ค่
อยๆ เพี้
ยน ช้
ากว่
กั
นเรื่
อยไป (หั
วเราะ) ผมจึ
งเสนอผู้
บั
งคั
บบั
ญชาไปว่
“เราควรจะแบ่
งจุ
ดตามความยาวขอกระบวนเรื
อ แล้
นำ
�เครื่
องเสี
ยงไปวางไว้
จากนั้
นก็
ถ่
ายทอดเสี
ยงจากเรื
เห่
ไปที่
สถานี
วิ
ทยุ
แห่
งประเทศไทย แล้
วให้
สถานี
วิ
ทยุ
แห่
งประเทศไทยส่
งเสี
ยงไปยั
งเรื
อแต่
ละลำ
�ที่
มี
เครื่
องรั
วิ
ทยุ
อยู่
แล้
วเข้
าเครื่
องขยาย ก็
แก้
ปั
ญหาไปได้
ปั
จจุ
บั
นี้
จะเห็
นว่
าพายล้ำ
�กั
นก็
นิ
ดๆเท่
านั้
นเอง เพี
ยงแค่
การเดิ
ทางของเสี
ยง”
นั
บตั้
งแต่
ปี
๒๕๒๕ เป็
นต้
นมา ท่
านได้
สร้
างผล
งานอั
นมี
คุ
ณค่
าในการเป็
นผู้
เห่
เรื
อในกระบวนพยุ
หยาตรา
ชลมารคในพระราชพิ
ธี
สำ
�คั
ญ ๆ ได้
แก่
การอั
ญเชิ
ญพระ
พุ
ทธสิ
หิ
งค์
เมื่
อครั้
งสมโภชกรุ
งรั
ตนโกสิ
นทร์
๒๐๐ ปี
ต่
มาในปี
๒๕๓๐ เป็
นผู้
เห่
เรื
อในการเสด็
จพระราชดำ
�เนิ
ถวายผ้
าพระกฐิ
น ณ วั
ดอรุ
ณราชวราราม เนื่
องในพระ
ราชพิ
ธี
มหามงคลเฉลิ
มพระชนม์
พรรษา ๕ รอบ จากนั้
ปี
๒๕๓๙ เป็
นผู้
เห่
เรื
อในการเสด็
จพระราชดำ
�เนิ
นถวาย
ผ้
าพระกฐิ
น ณ วั
ดอรุ
ณราชวราราม เนื่
องในพระราชพิ
ธี
กาญจนาภิ
เษก และในปี
๒๕๔๖ ซึ่
งเป็
น โอกาสสำ
�คั
ญยิ่
ที่
ประเทศไทยเป็
นเจ้
าภาพในการจั
ดประชุ
มเอเปค ๒๐๐๓
โดยกองทั
พเรื
อได้
รั
บมอบหมายให้
จั
ดการแสดงกระบวน
พยุ
หยาตราชลมารค ที่
กล่
าวมาข้
างต้
นนี้
จึ
งส่
งผลให้
ท่
านได้
รั
บพระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณโปรดเกล้
าโปรด
กระหม่
อมพระราชทานยศ พล.ร.ต.เป็
นกรณี
พิ
เศษ
ซึ่
งนั
บเป็
นเกี
ยรติ
ประวั
ติ
และความภาคภู
มิ
ใจต่
พล.ร.ต.มงคล แสงสว่
าง
และวงศ์
ตระกู
ลตลอดไป
เกื
อบ ๓๐ ปี
ของการเห่
เรื
อที่
ครู
มงคลได้
สร้
าง
ความประทั
บใจไว้
แก่
ชาวไทยนั้
น ท่
านเล่
าว่
า “เอกลั
กษณ์
ของทหารเรื
อ เสี
ยงจะเน้
น จะหนั
ก ห้
าว แต่
ของศิ
ลปากร
จะหวาน เพื่
อให้
เข้
ากั
บบทละครต่
างๆ แล้
วเสี
ยงเขาจะ
ไม่
ปรู๊
ดปร๊
าด ไม่
หนั
ก ส่
วนทหารเรื
อของเรานี่
สู
งก็
สู
จริ
งๆ อย่
างครู
แจ้
ง คล้
ายสี
ทอง (ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
) ท่
าน
ก็
สามารถเห่
เรื
อได้
แต่
ท่
านก็
เห่
ไปในแนวทางของกรม
ศิ
ลปากร คื
อจะมี
จุ
ดต่
างกั
นอยู่
ก็
ไม่
มาก เพี
ยงแต่
ว่
ามา
แยกกั
นช่
วงหลั
งด้
วยลั
กษณะการใช้
งานของหน่
วยงาน
เท่
านั้
นเอง เพราะที่
มาจริ
งๆของการเห่
เรื
อก็
มาจากวั
งบาง
ขุ
นพรหม แล้
วจึ
งมาแยกกั
นตอนหลั
ง”
นอกจากนี้
ที่
สำ
�คั
ญท่
านมี
เคล็
ดลั
บวิ
ธี
การเพิ่
มเสน่
ห์
ให้
แก่
เสี
ยงมากมาย ซึ่
งท่
านแนะนำ
�ว่
า “จะใช้
วิ
ธี
การ
เอื้
อนเสี
ยง
อย่
างต่
อเนื่
องและนุ่
มนวล
มี
การกระแทก
เสี
ยง
คื
อ การลงเสี
ยงหนั
กบ้
างในจั
งหวะที่
ต้
องการ
มี
๓๒