Page 53 - aug53

๕๑
การออกร้านจำ �หน่ายอาหารไทย ผลไม้ ไทยและของที่ระลึกจาก
ประเทศไทยแล้ ว ยังได้ จั ดให้ มี การแสดงคอนเสิร์ตจากคณะ
ขุนอิน ซึ่งบินตรงจากประเทศไทย โดยการสนับสนุนของสำ�นักงาน
คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งทุ กเวทีที่ไปแสดงได้ รับเสียง
ปรบมืออย่ างกึ กก้อง เป็นที่ ชื่นชอบและชื่นชมในการผสมผสาน
การแสดงดนตรี โดยมี ระนาดเอกซึ่ งเป็นเครื่ องดนตรีไทยเป็ น
ตัวชู โรงเล่นโดยครูณรงค์ฤทธิ์ โตสง่า หรื อขุนอินจากภาพยนตร์
เรื่ องโหมโรง ไม่ว่าจะเป็นการเล่นที่ Daely Plaza สถานที่จัดงาน
เทศกาลไทย, Gary and Laura Maurer Concert Hall, Old
Town School of Folk Music ซึ่งเป็ นโรงเรียนดนตรีพื้ นบ้าน
และศาลาเฉลิมพระเกี ยรติ วัดธัมมาราม นครชิคาโก นอกจากนี้ใน
งานสัปดาห์ ไทยในชิคาโก ยังได้จั ดให้มีการฉายภาพยนตร์ไทย เรื่อง
โหมโรง และWonderful Town ที่ Cassidy Theater, Chicago
Cultural Center อีกด้วย ซึ่งได้รับความสนใจมีผู้เข้ าชมอย่างมาก
เช่นกัน
นอกจากการได้ไปร่วมงานดังกล่าวแล้ว ท่านกงสุลใหญ่ (ณรงค์
ศศิ ธร) ยังได้กรุ ณานำ�คณะไปเยี่ยมชม และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
ด้านวัฒนธรรม ที่ Chicago Cultural Center ซึ่งเป็นที่ ตั้งของ
กรมวั ฒนธรรมชิคาโก โดย Ms.Caroline O’Boyle รองหัวหน้า
กรมการวัฒนธรรม ศู นย์วัฒนธรรมแห่งเมืองชิคาโก ได้ให้การต้อนรับ
และบรรยายว่ า “ศิ ลปะไม่เพียงทำ�ให้เมืองชิคาโกดู สวยงาม แต่
เขาเชื่อว่าศิลปะ เป็ นสิ่งที่ สร้างความสุข สุ นทรียะ และช่วย
พั ฒนาคน ให้มี ความคิดสร้างสรรค์ และเป็ นแรงบันดาลใจ
ในการพัฒนาเมืองชิ คาโก ให้มี ความก้าวหน้ ายิ่งๆ ขึ้นไป โดย
ภาครั ฐ พึ งมี หน้าที่ ในการให้การศึ กษา และนำ �วัฒนธรรม
มาสร้ างความสุขให้ กั บประชาชน” และนี่ คื อคำ�ตอบเกริ่ น
ไว้ ในตอนต้ นที่ ว่ า “ชิคาโกใช้ ยุ ทธศาสตร์ ใดในการพั ฒนาจาก
เมืองทุ่งนา ในปี พ.ศ.๒๓๗๖ กลายมาเป็นศูนย์ กลางความเจริญ
แห่ งหนึ่งของโลก” คำ �ตอบก็คื อ ใช้ ศิ ลปวั ฒนธรรม นี่แหละ
ในการสร้ างความรู้ ความเข้าใจ ความคิดสร้างสรรค์ ด้วยการเปิ ด
พื้นที่ทางวัฒนธรรม ทั้งหอศิลปะในที่ต่างๆ สวนสาธารณะมิลเลเนี่ยม
ซึ่งมีทั้ งลานน้ำ�พุคราวน์ สำ�หรับมาพักผ่อนหย่อนใจ ลานสร้างสรรค์
ผลงานทางศิลปะสำ�หรับมือสมัครเล่น ลานเต้ นรำ� และเวทีกลางแจ้ง
สำ�หรับแสดงดนตรี ซึ่งมีกิจกรรมตลอดทั้งปีและยังเข้ าชมฟรี
น่าเสียดายพื้นที่มีไม่มากพอ ที่จะสาธยายเรื่องราวน่าสนใจอีก
หลายอย่างในชิคาโก จึงขอสรุปสั้นๆ ถึงสถานที่น่าสนใจอื่นๆ อย่างเช่น
สถาบั นด้านศิ ลปะของนครชิคาโก (The Art Institute of
Chacigo) บนถนนมิ ชิแกน เป็ นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีชื่อเสียงเป็น
อันดับ ๒ ของสหรัฐ รองจากพิพิธภัณฑ์ ในนครนิวยอร์ก มีผลงาน
ภาพเขียนของศิลปิ นที่มี ชื่อเสียงโด่ งดังหลายคน และยังมีห้ องจัด
แสดงผลงานศิลปะชั้นยอดจากประเทศต่างๆ
พิ พิธภั ณฑ์ประวัติ ศาสตร์ชิคาโก (Chicago History
Museum) ซึ่งมิได้มีแต่ การจัดแสดงโบราณวัตถุของชิคาโกเท่านั้น
แต่ ยังจัดแสดงโบราณวั ตถุ จากประเทศทางแถบเอเชียอี กด้ วย
ซึ่งรวมทั้งของประเทศไทย โดยมีผู้ เข้าชมมากพอสมควร และที่น่ า
ประทับใจอย่ างยิ่งก็คือ ไม่ว่าจะเป็นดู งานที่ใดจะเห็นครู นำ�นักเรียน
ตั้งแต่ระดับอนุบาล ไปเรียนรู้จากของจริงที่จั ดแสดง รวมถึงพ่อแม่
ก็จะพาบุตรหลานของตนไปดู พิพิธภัณฑ์ หอศิ ลป์ต่างๆ ในวันหยุด
ผิดกับบ้านเราที่นิ ยมพาไปห้างสรรพสินค้ า พอโตขึ้นเด็กๆ ก็มักจะไป
จับกลุ่มรวมตัวกันในห้ างสรรพสินค้า มากกว่ าจะไปดูงานศิลปะ ชม
ดนตรี หรือไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ ดังนั้น ความภาคภูมิใจในความเป็น
คนไทยจึงไม่ถูกปลูกฝัง ซ้ำ�ร้าย ความคิดในเชิงสร้างสรรค์ก็ไม่เกิด
เนื่องจากขาดแรงบันดาลใจ ขาดการกระตุ้นในสิ่งที่ ควรจะเป็น การ
พัฒนาคนเพื่อไปมุ่งสู่การพั ฒนาประเทศจึงกระท่อนกระแท่นเต็มที
เนื่ องจากทรัพยากรบุคคลที่จะเป็นกำ�ลั งสำ�คัญของประเทศชาติ
ไม่ได้รับการปลูกฝั งและพัฒนาอย่างเป็นระบบ แต่กลับไปมุ่งเน้น
พัฒนาวัตถุมากว่าตัวคน
การเดินทางครั้งนี้ ได้มุ มมองในหลายสิ่งทั้งประโยชน์ จาก
การนำ�วัฒนธรรมไปเชื่อมความสั มพันธ์ระหว่างประเทศ และการ
สร้างภาพลักษณ์ ให้กับประเทศไทย การใช้วัฒนธรรมเป็นกลไกใน
การสร้างความเป็นน้ำ �หนึ่งใจเดียวของคนไทยที่แม้จะอยู่ ต่างถิ่นแต่
เมื่อได้สื่ อสารทางภาษา การแต่งกาย เราก็รับรู้ ได้ โดยปริยายว่ า
พวกเราเป็นคนไทยเหมือนกัน ความเป็นพี่เป็นน้อง ความเอาใจใส่
ไต่ ถามสารทุกข์สุกดิ บ ก็เกิดขึ้ นในบัดดล นี่ แหละอัตลักษณ์ ของ
คนไทย ที่แม้จะห่างบ้านจากเมืองไปนานแค่ไหน ก็ยังมีความเป็ น
ห่วงเป็นใยถึงชาติบ้ านเมือง และยั งได้ร่วมกันเปล่งเสียงร้องเพลง
ชาติไทยอย่างกึกก้อง ด้วยความภาคภู มิใจ ณ ใจกลางเมืองชิคาโก
ที่เรี ยกกันว่า นครแห่งศิลปวัฒนธรรม อันเป็นภาพที่ น่าประทับใจ
มิรู้ลืม
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ ชิคาโก
สวนสาธารณะมิลเลเนี่ยม