Page 45 - aug53

Basic HTML Version

๔๓
แต่
ภาพยนตร์
ได้
เปรี
ยบกว่
าภาพเขี
ยนหรื
อภาพถ่
ายซึ่
งเป็
ภาพนิ่
ง ตรงที่
ภาพยนตร์
สามารถแสดงเวลาได้
“เวลา” จึ
งเป็
นธาตุ
ประกอบในภาษาของภาพยนตร์
อี
กธาตุ
หนึ่
ง ซึ่
งผู้
กำ
�กั
บการแสดงที่
ฉลาด สามารถจะใช้
เวลาเป็
นเครื่
องมื
อที่
จะเข้
าถึ
งใจของผู้
ดู
หนั
งได้
โดยเน้
นถึ
งความสำ
�คั
ญของเหตุ
การณ์
ที่
เกิ
ดขึ้
นแต่
ละอย่
างให้
ผู้
ดู
เกิ
ความรู้
สึ
กได้
ด้
วยการใช้
เวลา
เหตุ
การณ์
ใดๆ ในเรื่
องที่
ไม่
สำ
�คั
ญนั
ก ผู้
กำ
�กั
บการแสดงก็
จะผ่
านภาพเหล่
านั
นไปอย่
างรวดเร็
ว แต่
เหตุ
การณ์
ใดที
ผู
กำ
�กั
บการแสดง
ต้
องการที่
จะให้
ฝั
งลึ
กลงไปในใจของคนดู
หนั
ง ผู้
กำ
�กั
บก็
จะให้
เวลา
แก่
ภาพที่
แสดงเหตุ
การณ์
นั้
น มาก หรื
อ นาน พอที่
จะทำ
�ให้
ฝั
งลง
ไปในใจของคนดู
นอกจากนั้
น ผู้
กำ
�กั
บการแสดงอาจเน้
นให้
คนดู
ได้
เห็
นถึ
งความ
รวดเร็
วของเหตุ
การณ์
บางอย่
างหรื
อความล่
าช้
าของเหตุ
การณ์
บาง
อย่
าง ได้
ด้
วยการใช้
เวลา อี
กเช่
นเดี
ยวกั
ในกรณี
ที่
มี
การฆ่
ากั
นโดยกะทั
นหั
นในหนั
ง ผู้
กำ
�กั
บอาจฉาย
ภาพการฆ่
ากั
นนั้
นให้
คนดู
เห็
นแต่
เพี
ยงแวบเดี
ยว แต่
พอถึ
งตอนที่
ผู้
กำ
�กั
บต้
องการจะให้
คนดู
เข้
าถึ
งความรู้
สึ
กอั
นทุ
กข์
ทรมานของ
ตั
วละครบางตั
ว ผู้
กำ
�กั
บ ก็
อาจเน้
นความรู้
สึ
กนั้
นได้
ด้
วยการฉายภาพ
นั้
นให้
นานๆ ขึ้
น ยิ่
งนานเท่
าใด คนดู
ก็
จะยิ่
งรู้
สึ
กว่
าตั
วละครนั้
นต้
อง
ได้
รั
บความทนทุ
กข์
ทรมานมากไปตามระยะเวลา
ด้
วยวิ
ธี
เร่
งความเร็
วของกล้
องถ่
ายภาพ หรื
อด้
วยวิ
ธี
ถ่
ายภาพ
ด้
วยความเร็
วช้
ากว่
าปกติ
ผู้
สร้
างภาพยนตร์
อาจทำ
�ให้
เหตุ
การณ์
ที่
เกิ
ขึ้
นตามธรรมชาติ
นั้
น ช้
าลงหรื
อเร็
วขึ้
นได้
เช่
น เม็
ดฝนที่
ตกลงมาจาก
อากาศ หรื
อดอกไม้
ที่
ค่
อยๆ แย้
มบาน ซึ่
งคนดู
ไม่
สามารถเห็
นเองได้
จากสายตาปกติ
ธรรมดาทั่
วไป
การใช้
เวลาในภาพยนตร์
จึ
งเหมื
อนกั
บการใช้
เวลาในการ
แต่
งหนั
งสื
อ ผู้
แต่
งหนั
งสื
ออาจพู
ดถึ
งเหตุ
การณ์
ที่
เกิ
ดขึ้
นในปั
จจุ
บั
แล้
วย้
อนกลั
บไปถึ
งเหตุ
การณ์
ที่
เกิ
ดขึ้
นในอดี
ต และจากอดี
ตก็
อาจจะ
พู
ดต่
อไปถึ
งเหตุ
การณ์
ซึ่
งอาจเกิ
ดขึ้
นในอนาคตต่
อไปได้
อี
ก ผู้
สร้
าง
ภาพยนตร์
ก็
อยู่
ในฐานะเช่
นเดี
ยวกั
น”
ถึ
งตรงนี้
ผมจะขออนุ
ญาตแทรกข้
อคิ
ดเห็
นว่
า อาจารย์
ม.ร.ว.
คึ
กฤทธิ์
ปราโมช ครู
ทางด้
านศิ
ลปวั
ฒนธรรม (หลายอย่
าง) ของผม
ท่
านนี้
นั้
น ในความคิ
ดเห็
นของผม ผมเห็
นว่
า ท่
านเป็
นครู
ผู้
มี
ความสามารถทางด้
านการเขี
ยน เด่
นชั
ดกว่
าความสามารถด้
าน
อื่
นๆ มาก และด้
วยความสามารถนี้
ท่
านจึ
งเปรี
ยบเที
ยบได้
โดย
บริ
สุ
ทธิ์
ใจว่
า ความสามารถของ “ผู้
กำ
�กั
บภาพยนตร์
” ที่
สามารถจะ
ใช้
“เวลา” ทำ
�ให้
คนดู
เกิ
ดความรู้
สึ
กความเข้
าใจได้
มากกว่
าการนำ
เสนอด้
วยวิ
ธี
อื่
นๆ นั้
น ก็
เปรี
ยบได้
กั
บการที่
“ผู้
เขี
ยนหนั
งสื
อ” ที่
เก่
งๆ
ซึ่
งสามารถจะใช้
“เวลา” ทำ
�ให้
คนอ่
านหนั
งสื
อเกิ
ดความรู้
สึ
กความ
เข้
าใจได้
มากกว่
าการนำ
�เสนอด้
วยวิ
ธี
อื่
นๆ เช่
นเดี
ยวกั
อาจารย์
คึ
กฤทธิ์
พู
ดเช่
นนี้
ได้
ก็
เพราะท่
านเป็
นนั
กเขี
ยนที่
มี
ความสามารถ
แต่
ความสามารถในการที่
จะใช้
“ธาตุ
เรื่
องเวลา” มาทำ
�ให้
เกิ
ดประโยชน์
ได้
นั้
น ก็
ไม่
ใช่
ของที่
จะทำ
�กั
นได้
ง่
ายๆ เหมื
อนปากพู
โดยเฉพาะอย่
างยิ่
ง ถ้
าเป็
นปากที่
ขยั
นพู
ดของคนธรรมดาทั่
วไปเพราะ
ผู้
กำ
�กั
บภาพยนตร์
ที่
เก่
งๆ กั
บนั
กเขี
ยนที่
เก่
งๆ จริ
ง นั้
น ไม่
ใช่
ของที่
จะหาได้
ง่
ายๆ นั
ก ไม่
ว่
าจะเป็
นในต่
างประเทศหรื
อในเมื
องไทยด้
วย
เหตุ
ผลนี้
เอง ในโลกทั้
งหลายทั้
งปวงทุ
กวั
นนี้
ซึ่
งไม่
ว่
าจะเป็
นโลกของ
หนั
ง หรื
อโลกของหนั
งสื
อ จึ
งต้
องประกอบไปด้
วย หนั
งหรื
อหนั
งสื
ที่
มี
ทั้
งดี
และไม่
ดี
และแม้
แต่
ผู้
กำ
�กั
บหนั
งหรื
อผู้
เขี
ยนหนั
งสื
อ ซึ่
งแม้
ว่
าครั้
งหนึ่
งในชี
วิ
ตอาจจะเคยได้
รั
บยกย่
องว่
าเป็
นผู้
กำ
�กั
บหนั
งที่
ดี
เด่
หรื
อนั
กเขี
ยนที่
โด่
งดั
งมาบ้
างแล้
ว ก็
อาจจะไม่
สามารถทำ
�ให้
หนั
งทุ
เรื่
องหรื
อหนั
งสื
อทุ
กเล่
มที่
เขาเป็
นผู้
ผลิ
ต ดี
เด่
นได้
ทุ
กชิ้
นเสมอไป
โลกของหนั
ง จึ
งมี
ข้
อสั
งเกต ข้
อคิ
ด หรื
อข้
อโต้
แย้
งต่
าง
มุ
มมอง ซึ่
งน่
าสนใจ น่
าพู
ด น่
าคิ
ด ได้
อี
กเยอะ ถ้
าเราอยากจะพู
หรื
ออยากจะคิ
ดกั
น เพื่
อการสร้
างสรรค์
หรื
อเพื่
อประเทื
องปั
ญญา
แต่
สำ
�หรั
บในโอกาสนี้
เราคงคาดหมายเอาแค่
การเรี
ยนรู้
กั
นไปก่
อน
เพราะฉะนั้
น เราก็
จะทำ
�ความรู้
จั
กกั
นต่
อไป
ใน
ธาตุ
ที่
สี่
ที่
เรี
ยกว่
า Space
หรื
อที่
อาจารย์
คึ
กฤทธิ์
เรี
ยกว่
อากาศ
ในภาษาไทย
“คำ
�ว่
าอากาศในที่
นี้
ผู้
เขี
ยนขอใช้
ในความหมายที่
ตรงกั
บศั
พท์
ภาษาอั
งกฤษว่
า Space จะใช้
อวกาศ อย่
างที่
ใช้
กั
นอยู่
แพร่
หลายใน
ขณะนี้
ก็
รู้
สึ
กจะไม่
ตรงกั
บความหมายนั
ก เพราะความหมายของคำ
ว่
าอวกาศนั้
นเป็
นเรื่
องที่
อยู่
นอกโลก ส่
วนคำ
�ว่
าอากาศที่
นำ
�มาใช้
ในที่
นี้
ตรงกั
บความหมายในพระบาลี
ดั
งที่
มี
ในพระบาลี
ว่
า มนุ
ษย์
นั้
ประกอบไปด้
วยธาตุ
ทั้
งหก คื
อ ดิ
น น้ำ
� ลม ไฟ อากาศ และวิ
ญญาณ
อากาศในที่
นี้
จึ
งหมายถึ
งช่
องว่
าง ภาพยนตร์
เป็
นศิ
ลปอย่
างหนึ่
ง ซึ่
สามารถใช้
อากาศในความหมายเช่
นนี้
ให้
เกิ
ดผลทางใจแก่
ผู้
ดู
ได้
มาก
อย่
างที่
เรี
ยกได้
ว่
า ไม่
มี
ศิ
ลปชนิ
ดใดนอกจากภาพยนตร์
ที่
สามารถจะ
ยกเอาตั
วหรื
อใจของผู้
ดู
ไปใส่
ไว้
ในช่
องว่
างต่
างๆ ได้
เป็
นต้
นว่
า ทำ
�ให้
ผู้
ดู
รู้
สึ
กว่
า ตนนั้
นไปนั่
งดู
เหตุ
การณ์
อยู่
ในห้
อง หรื
อเดิ
นไปอยู่
กลาง
ทะเลทรายที่
ร้
อนจั
ด หรื
อลงไปอยู่
ใต้
น้ำ
� หรื
อในถ้ำ
� สุ
ดแล้
วแต่
ว่
ผู้
กำ
�กั
บภาพยนตร์
จะบั
นดาลให้
เป็
นไป
เช่
น ภาพผู้
ร้
ายคนหนึ่
ง โผล่
หน้
าขึ้
นมาจากหลุ
มที่
ซ่
อนตั
วอยู่
ทั
นใดนั้
น คนดู
ก็
จะเห็
นภาพโคลสอั
พอั
นใหญ่
โตของรองเท้
าตำ
�รวจ
ซึ่
งยื
นคอยอยู่
แล้
ว การลำ
�ดั
บภาพเช่
นนี้
เป็
นการใช้
อากาศ โดยแท้
เพราะทำ
�ให้
คนดู
รู้
สึ
กตั
วว่
า ลงไปอยู่
ในหลุ
มเดี
ยวกั
บผู้
ร้
าย แล้
วโผล่
ขึ้
นมาพร้
อมกั
บผู้
ร้
าย และได้
เห็
นสิ่
งที่
ผู้
ร้
ายมองเห็
นในระดั
บใกล้
ชิ
คื
อ รองเท้
าตำ
�รวจคู่
หนึ่
งซึ่
งมี
ขนาดใหญ่
เต็
มจอภาพยนตร์