Page 13 - aug53

Basic HTML Version

๑๑
กล่
องโฟม เนื่
องจากความเร่
งรี
บในการดำ
�เนิ
นชี
วิ
ตของคนในเมื
อง
ใหญ่
เวลาในการเตรี
ยมอาหารด้
วยวิ
ธี
การดั้
งเดิ
มจึ
งได้
เลื
อนหายไป
หากแต่
เมื่
อมี
วาระพิ
เศษ เช่
นการทำ
�บุ
ญวั
นเกิ
ด ทำ
�บุ
ญครบรอบเนื่
องใน
โอกาศเฉพาะ ก็
จะมี
การเตรี
ยมสำ
�รั
บเพื่
อการใส่
บาตรเป็
นพิ
เศษ
บาตรพระใช้
สำ
�หรั
บใส่
อาหารเท่
านั้
น โดยเฉพาะ “พระป่
า”
จะฉั
นอาหารในบาตร จึ
งไม่
ควรใส่
ของอื่
น เช่
น สบู่
ยาสี
ฟั
แปรงสี
ฟั
น และของใช้
อื่
นๆ ในบาตรพระ
เมื่
อพุ
ทธศาสนิ
กชนใส่
บาตรเสร็
จแล้
ว พระสงฆ์
ที่
รั
บบาตรจะ
สวดให้
พร “สามั
ญญานุ
โมทนาคาถา” แก่
ญาติ
โยมที่
มาใส่
บาตร ซึ่
บทสวดดั
งกล่
าวมี
ความหมายดั
งนี้
สามั
ญญานุ
โมทนาคาถาแปล
สั
พพี
ติ
โย วิ
วั
ชชั
นตุ
ความจั
ญไรทั้
งปวง จงบำ
�ราศไป
สั
พพะโรโค วิ
นั
สสะตุ
โรคทั้
งปวง(ของท่
าน) จงหาย
มา เต ภะวั
ตวั
นตะราโย
อั
นตรายอย่
ามี
แก่
ท่
าน
สุ
ขี
ที
ฆายุ
โก ภะวะ
ท่
านจงเป็
นผู้
มี
ความสุ
ขมี
อายุ
ยื
อะภิ
วาทะนะสี
ลิ
สสะ
นิ
จจั
ง วุ
ฑฒาปะจายิ
โน,
จั
ตตาโร ธั
มมาวั
ฑฒั
นติ
,
อายุ
วั
ณโณ สุ
ขั
ง พะลั
ธรรมสี่
ประการ คื
อ อายุ
วรรณะ สุ
ขะ พละ,
ย่
อมเจริ
ญแก่
บุ
คคล ผู้
มี
ปรกติ
ไหว้
กราบ,
มี
ปรกติ
อ่
อนน้
อม (ต่
อผู้
ใหญ่
) เป็
นนิ
ตย์
นอกเหนื
อจากการตั
กบาตรด้
วยอาหารคาวหวานและดอกไม้
สดแล้
ว ยั
งมี
การตั
กบาตรด้
วยสิ่
งอื่
นๆ
เช่
น ประเพณี
ตั
กบาตรดอกไม้
ในพุ
ทธตำ
�นานได้
กล่
าวไว้
ว่
า วั
นหนึ
งขณะที
สมเด็
จพระสั
มมาสั
มพุ
ทธเจ้
กำ
�ลั
งเสด็
จออกบิ
ณฑบาตพร้
อมด้
วยพระภิ
กษุ
นายมาลาการมองเห็
รั
ศมี
ขององค์
สมเด็
จพระสั
มมาสั
มพุ
ทธเจ้
าเปล่
งอยู่
รอบๆ พระวรกาย
เป็
น ๖ สี
ด้
วยกั
น ที่
เรี
ยกว่
า ฉั
พพรรณรั
งสี
คื
อ สี
นิ
ล สี
ปิ
ต สี
โลหิ
สี
โอทาต สี
มั
นเชฐหงษ์
บาท สี
ประภั
สสร นายมาลาการจึ
งเกิ
ความเลื่
อมใสศรั
ทธาต่
อพระพุ
ทธองค์
ได้
ใช้
ดอกมะลิ
โปรยไปยั
พระพุ
ทธองค์
๒ กำ
�มื
อ เกิ
ดอภิ
นิ
หารดอกมะลิ
ลอยวนอยู่
ตรงเหนื
เศี
ยรของพระพุ
ทธองค์
๓ รอบ แล้
วรวมกั
นเป็
นเพดานลอยเป็
นแพ
คุ้
มกั
นแดดแก่
พระพุ
ทธองค์
เมื่
อโปรยอี
ก ๒ กำ
�มื
อ ดอกมะลิ
ก็
ลอยวน
๓ รอบอี
ก แล้
วไปรวมเป็
นเพดานอยู่
ทางด้
านปฤษฎางค์
ของ
พระพุ
ทธองค์
นายมาลาการได้
โปรยดอกมะลิ
อี
ก ๒ กำ
�มื
อสุ
ดท้
าย
ดอกมะลิ
ก็
ลอยวนเวี
ยน ๓ รอบอี
กเช่
นเดี
ยวกั
น แล้
วไปรวมเป็
นแพ
อยู่
ทางด้
านซ้
ายพระหั
ตถ์
ของพระพุ
ทธองค์
แล้
วดอกมะลิ
ทั้
งหมดก็
หั
นขั้
วเข้
าหาพระวรกายของสมเด็
พระสั
มมาสั
มพุ
ทธเจ้
าและหั
นกลี
บออกภายนอก เว้
นเป็
นช่
องไว้
ทาง
ด้
านหน้
าสำ
�หรั
บพุ
ทธดำ
�เนิ
นเท่
านั้
น หลั
งจากนั้
นนายมาลาการก็
ได้
นำ
ดอกมะลิ
หว่
านโปรยบู
ชาพระพุ
ทธองค์
แล้
วก็
ได้
เดิ
นตามพระองค์
เป็
ไปด้
วยปิ
ติ
นายมาลาการจึ
งมี
แต่
ความร่
มเย็
นเป็
นสุ
ขด้
วยอานิ
สงฆ์
ที่
ได้
ถวายดอกไม้
แด่
สมเด็
จพระสั
มมาสั
มพุ
ทธเจ้
เรื่
องราวจากพุ
ทธตำ
�นานดั
งกล่
าวทำ
�ให้
เกิ
ด ประเพณี
ตั
กบาตรดอกไม้
เป็
นประจำ
�ทุ
กปี
ในวั
นเข้
าพรรษาในวั
ดหลายแห่
ในภาคกลางตลอดมาจนกระทั่
งถึ
งปั
จจุ
บั
นนี้
เช่
นที่
วั
ดบวรนิ
เวศวิ
หาร
กรุ
งเทพมหานคร วั
ดพระพุ
ทธบาทวรมหาวิ
หาร จั
งหวั
ดสระบุ
รี
ในช่
วงฤดู
กาลเข้
าพรรษานี้
ขอเชิ
ญชวนพุ
ทธศาสนิ
กชนทุ
คนร่
วมทำ
�บุ
ญตั
กบาตรถวายแด่
พระภิ
กษุ
สงฆ์
เพื่
อเป็
นการบำ
�รุ
พระพุ
ทธศาสนาและอานิ
สงฆ์
จากการทำ
�บุ
ญย่
อมส่
งผลให้
ผู้
ทำ
�มี
จิ
ตใจ
ที่
เบิ
กบานผ่
องใสและพบแต่
ความสุ
ข แม้
จะอยู่
ในยามที่
สั
งคมไทยยั
คงเต็
มไปด้
วยเรื่
องราวความวุ่
นวาย และความไม่
เข้
าใจต่
อกั
นก็
ตาม
ข้
อมู
ลอ้
างอิ
ง สารานุ
กรมวั
ฒนธรรมไทยภาคกลาง เล่
ม ๕
หนั
งสื
อมนต์
พิ
ธี
การตั
กบาตรดอกไม้
ดอกเข้
าพรรษา