Page 10 - aug53

Basic HTML Version

ร้
อยเรื่
องวั
นสำ
�คั
ในเดื
อนสิ
งหาคมนี้
มี
วั
นที่
สำ
�คั
ญสำ
�หรั
บลู
กๆ ทุ
กคน
คื
วั
นแม่
แห่
งชาติ
ซึ่
งตรงกั
บวั
นที่
๑๒ สิ
งหาคม ของทุ
กปี
เป็
นวั
นที่
ลู
กๆ จะแสดงความกตั
ญญู
ตอบแทนพระคุ
ณต่
ผู้
เป็
นแม่
วั
นแม่
แต่
เดิ
มได้
กำ
�หนดให้
วั
นที่
๑๕ เมษายนของทุ
กปี
เป็
นวั
นแม่
แห่
งชาติ
ตามมติ
ของคณะรั
ฐมนตรี
ที่
ได้
พิ
จารณา
เห็
นว่
าการจั
ดงานวั
นแม่
ของสำ
�นั
กวั
ฒนธรรมฝ่
ายหญิ
สภาวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
ผู้
รั
บมอบหมายให้
จั
ดงานวั
นแม่
มา
ตั้
งแต่
วั
นที่
๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็
นครั้
งแรกได้
รั
ความสำ
�เร็
จด้
วยดี
เนื่
องจากประชาชนให้
การสนั
บสนุ
นจน
สามารถขยายขอบข่
ายของงานให้
กว้
างขวางออกไปได้
การ
จั
ดงานไม่
เพี
ยงแต่
จั
ดพิ
ธี
กรรมทางพระพุ
ทธศาสนาเท่
านั้
แต่
ยั
งจั
ดให้
มี
การประกวดแม่
ของชาติ
ประกวดคำ
�ขวั
วั
นแม่
เพื่
อให้
เกี
ยรติ
แก่
แม่
ผู้
มี
พระคุ
ต่
อมาในปี
พ.ศ. ๒๕๑๙ รั
ฐบาลได้
เปลี่
ยนใหม่
โดยถื
เอาวั
นเสด็
จพระราชสมภพของสมเด็
จพระนางเจ้
าฯ พระบรม
ราชิ
นี
นาถ คื
วั
นที่
๑๒ สิ
งหาคม
เป็
วั
นแม่
แห่
งชาติ
โดยมี
วั
ตถุ
ประสงค์
เพื่
อเทิ
ดทู
นและเผยแพร่
พระเกี
ยรติ
คุ
ของสมเด็
จพระนางเจ้
าสิ
ริ
กิ
ติ์
พระบรมราชิ
นี
นาถ ในฐานะ
แม่
ของแผ่
นดิ
น ผู้
ทรงมี
พระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณต่
อปวงชน
ชาวไทย ตลอดจนให้
ผู้
เป็
นลู
กได้
สำ
�นึ
กถึ
งพระคุ
ณของแม่
และตระหนั
กถึ
งหน้
าที่
ของลู
กที่
พึ
งมี
ความกตั
ญญู
กตเวที
ต่
แม่
ดู
แลเอาใจใส่
ในสุ
ขภาพทั้
งกายใจของแม่
ให้
ครบถ้
วน
สมบู
รณ์
และให้
ผู้
ที่
เป็
นแม่
ได้
ตระหนั
กถึ
งหน้
าที่
ของตนที่
พึ
งมี
ต่
อบุ
ตร ธิ
ดา และครอบครั
ว พร้
อมทั้
งประกาศเกี
ยรติ
คุ
ณให้
สั
งคมได้
รั
บรู้
ถึ
งคุ
ณงามความดี
ของแม่
และลู
กที่
ปฏิ
บั
ติ
หน้
าที่
ของตนเป็
นแบบอย่
างที่
ดี
สมควรแก่
ความชื่
นชม ยกย่
อง
และรั
กษาประเพณี
วั
ฒนธรรมอั
นดี
งามของชาติ
ในเรื่
องความ
กตั
ญญู
ของลู
กที่
มี
ต่
อแม่
ให้
คงอยู่
ต่
อไป และยั
งได้
กำ
�หนด
สั
ญลั
กษณ์
ที่
ใช้
ในวั
นแม่
ของทุ
กปี
ก็
คื
ดอกมะลิ
ด้
วยเหตุ
ผล
ที่
ว่
“ดอกมะลิ
เป็
นดอกไม้
สี
ขาวบริ
สุ
ทธิ์
ส่
งกลิ่
นหอมไปไกล
และนาน อี
กทั้
งยั
งออกดอกได้
ตลอดทั้
งปี
เปรี
ยบได้
กั
บความรั
อั
นบริ
สุ
ทธิ์
ของแม่
ที่
มี
ต่
อลู
กไม่
มี
วั
นเสื่
อมคลาย”
แต่
เนื่
องจากในปั
จจุ
บั
นนี้
สั
งคมไทยของเรา คำ
�ว่
“ครอบครั
ว”
นั
บวั
นยิ่
งมี
แต่
ความห่
างเหิ
น ผู้
เป็
นลู
กไม่
มี
เวลา
เอาใจใส่
ดู
แลตอบแทนพ่
อแม่
อาจจะด้
วยเหตุ
ผลของสภาพ
เศรษฐกิ
จที่
ไม่
ดี
ทำ
�ให้
ลู
กๆ ต้
องละทิ้
งภู
มิ
ลำ
�เนาเดิ
ม และ
เข้
ามาใช้
ชี
วิ
ตอยู่
แต่
ในกรุ
งเทพเพื่
อหางานทำ
� และเวลาส่
วน
มากในแต่
ละวั
นก็
จะหมดไปกั
บการทำ
�งานหารายได้
ทำ
�ให้
ความรั
ก ความผู
กพั
น และความอบอุ่
นในครอบครั
วค่
อยๆ
เลื
อนหายไป ดั
งนั้
น เนื่
องในโอกาสวั
นแม่
แห่
งชาติ
ที่
จะถึ
งนี้
สำ
�นั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
กระทรวง
วั
ฒนธรรม จึ
งขอนำ
�ข้
อควรปฏิ
บั
ติ
จากการปาฐกถาธรรมของ
พระธรรมโกศาจารย์
หรื
อท่
านปั
ญญานั
นทภิ
กขุ
มาเป็
นข้
เตื
อนใจให้
ลู
กๆ ทุ
กคน พึ
งกระทำ
�เพื่
อตอบแทนพระคุ
ณอั
ยิ่
งใหญ่
ของแม่
อั
นได้
แก่
การระลึ
กถึ
งบุ
ญคุ
ณของท่
าน
คนที่
หมั่
นระลึ
กถึ
บุ
ญคุ
ณของแม่
จะไม่
ทำ
�ชั่
วเป็
นอั
นขาด เพราะกลั
วว่
าแม่
จะ
เดื
อดร้
อนใจและเป็
นทุ
กข์
สิ่
งนี้
คื
อความกตั
ญญู
กตเวที
ต่
อแม่
บั
งเกิ
ดเกล้
า เปรี
ยบดั่
งเกราะเพชร ๗ ชั้
นกั
นภั
ยก็
ว่
าได้
ที่
ไม่
ให้
เราเป็
นคนชั่
วร้
าย เพราะความรั
กที่
เรามี
ต่
อคุ
ณแม่
มั
นขวาง
ไว้
ไม่
ให้
เราคิ
ดผิ
ด พู
ดผิ
ด ทำ
�ผิ
ด และไปสู่
สถานที่
ที่
ผิ
ดได้
การตอบแทนบุ
ญคุ
ณของท่
าน
ลู
กๆ ทุ
กคนไม่
ว่
าจะ
อยู่
ในฐานะใดสามารถดู
แลแม่
ผู้
ให้
กำ
�เนิ
ดได้
ด้
วยการดู
แล
กายและดู
แลใจท่
าน
เรื่
องการดู
แลกาย
ในเมื่
อท่
านมี
ชี
วิ
ตอยู่
นั้
น เราดู
แล
ตามฐานะให้
ท่
านสบาย ให้
สบายด้
วยการกิ
นการอยู่
การนุ่
งห่
อย่
างนี้
เรี
ยกว่
าการดู
แลกาย เช่
น สร้
างที่
ให้
ท่
านอยู่
มี
ห้
องน้ำ
ห้
องส้
วมให้
ท่
านได้
ขั
บถ่
าย อาบน้ำ
�สะดวกสบาย อาหารการกิ
เราก็
จั
ดไปให้
ท่
าน แล้
วคอยสั
งเกตว่
าท่
านชอบอะไร ชอบจื
ชอบหวาน ชอบแกงชนิ
ดใด แกงประเภทใดท่
านทานได้
เราก็
ให้
ท่
านทานอย่
างนั้
น เวลาท่
านรั
บประทาน อาหารก็
เอาใจใส่
สิ
ริ
วิ
ภา ขุ
นเอม...เรี
ยบเรี
ยง