นอกจากนี้
กระทรวงวั
ฒนธรรมยั
งได้
จั
ดทำแผนแม่
บทเพื่
อขั
บเคลื่
อน
ยุ
ทธศาสตร์
การพั
ฒนาอุ
ตสาหกรรมภาพยนตร์
และวี
ดิ
ทั
ศน์
ซึ่
งคณะรั
ฐมนตรี
ได้
มี
มติ
เห็
นชอบเมื่
อวั
นที่
๓ มิ
ถุ
นายน ๒๕๕๒ เพื่
อให้
ประเทศไทยเป็
นแหล่
ง
อุ
ตสาหกรรมภาพยนตร์
และวี
ดิ
ทั
ศน์
ที่
สำคั
ญในตลาดโลก ซึ่
ง UNCTAD ให้
ความ
สำคั
ญในฐานะที่
เป็
นอุ
ตสาหกรรมแกนหลั
กของกลุ่
มอุ
ตสาหกรรมวั
ฒนธรรม
ทั้
งนี้
เนื่
องจาก อุ
ตสาหกรรมภาพยนตร์
และวี
ดิ
ทั
ศน์
ใช้
ทุ
นทางวั
ฒนธรรมตั้
งแต่
เนื้
อหาสาระ ภู
มิ
ปั
ญญา วิ
ถี
การดำรงชี
วิ
ต ขนบธรรมเนี
ยมประเพณี
ดนตรี
ภาษา
และโบราณสถานฯลฯ จึ
งเห็
นได้
ว่
าศิ
ลปวั
ฒนธรรมเป็
นปั
จจั
ยสำคั
ญในการผลิ
ต
และแข่
งขั
น นอกจากนั้
นอุ
ตสาหกรรมภาพยนตร์
และวี
ดิ
ทั
ศน์
ยั
งใช้
ทุ
นทางธุ
รกิ
จ
และทุ
นทางเทคโนโลยี
ในการพั
ฒนา จึ
งก่
อให้
เกิ
ดการสร้
างงานภายในประเทศ
หลากหลายสาขาอาชี
พ ซึ่
งจะเป็
นพลั
งในขั
บเคลื่
อนเศรษฐกิ
จให้
เติ
บโตได้
เป็
น
อย่
างดี
”
“จากทุ
นวั
ฒนธรรม สู่
เศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
”
เมื่
อวั
นที่
๔ กั
นยายนที่
ผ่
านมา กระทรวงวั
ฒนธรรมโดยสำนั
กงาน
คณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
ได้
จั
ดให้
มี
การประชุ
ม
“จากทุ
นวั
ฒนธรรม
สู่
เศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
”
โดยมี
วั
ตถุ
ประสงค์
เพื่
อจะเชื่
อมโยงองค์
ความรู้
ด้
าน
ศิ
ลปะเข้
ากั
บสิ
นค้
าและบริ
การของไทย ตลอดจนระดมข้
อคิ
ดเห็
นของศิ
ลปิ
น
ผู้
สร้
างสรรค์
งานศิ
ลปวั
ฒนธรรม ผู้
ประกอบการที่
เกี่
ยวข้
องกั
บงานศิ
ลปวั
ฒนธรรม
หน่
วยงานภาครั
ฐ ภาคเอกชน และองค์
กรภาคประชาชน ที่
ดำเนิ
นงานด้
านศิ
ลป-
วั
ฒนธรรม เพื่
อนำมาจั
ดทำแผนที่
นำทาง (Roadmap) การขั
บเคลื่
อนเศรษฐกิ
จ
สร้
างสรรค์
ของประเทศไทยบนฐานทุ
นวั
ฒนธรรม เพื่
อสนองนโยบายโครงการ
เศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
ของรั
ฐบาล ซึ่
งเป็
นแนวคิ
ดการขั
บเคลื่
อนเศรษฐกิ
จบน
พื้
นฐานของการใช้
องค์
ความรู้
การศึ
กษา การสร้
างสรรค์
งานและการใช้
ทรั
พย์
สิ
น
ทางปั
ญญา ที่
เชื่
อมโยงกั
บพื้
นฐานทางวั
ฒนธรรม การสั่
งสมความรู้
ของสั
งคมและ
เทคโนโลยี
นวั
ตกรรมสมั
ยใหม่
โดยในการประชุ
มสั
มมนา นายธานิ
นทร์
ผะเอม ที่
ปรึ
กษาด้
านนโยบาย
และแผนงาน สำนั
กงานคณะกรรมการพั
ฒนาเศรษฐกิ
จและสั
งคมแห่
งชาติ
ได้
บรรยาย
“นโยบายรั
ฐบาล โครงการเศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
ของประเทศไทย”
ต่
อจากนั้
นเป็
นการอภิ
ปรายเรื่
อง “การต่
อยอดทุ
นวั
ฒนธรรมสู่
เศรษฐกิ
จ
สร้
างสรรค์
ของประเทศไทย” โดย นายถวั
ลย์
ดั
ชนี
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาทั
ศน
ศิ
ลป์
นายเกรี
ยงไกร สั
มปั
ชชลิ
ต อธิ
บดี
กรมศิ
ลปากร นายบุ
ญชั
ย เบญจรงคกุ
ล
ประธานกรรมการ บริ
ษั
ท โทเทิ่
ล แอ็
คเซ็
ส คอมมู
นิ
เคชั่
น จำกั
ด (มหาชน) นาง
ศิ
ริ
นา ปวโรฬารวิ
ทยา ประธานกรรมการ บริ
ษั
ท บู
ติ
ก นิ
วซิ
ตี้
จำกั
ด (มหาชน)
นายสมชาย จงแสง ศิ
ลปิ
นศิ
ลปาธร และปิ
ดท้
ายด้
วยการแลกเปลี่
ยนและระดม
ความคิ
ดเห็
นจากผู้
เข้
าร่
วมสั
มมนา
“ข้
อคิ
ดเห็
นจากที่
ประชุ
มสำคั
ญมาก เพราะเป็
นการส่
งเสริ
ม
วั
ฒนธรรมประชาธิ
ปไตยให้
ผู้
มี
ส่
วนเกี่
ยวข้
องรั
บรู้
นโยบายรั
ฐบาลและเปิ
ดโอกาส
ให้
สามารถกำหนดทิ
ศทางบทบาทขององค์
กรและของตนเองให้
ตอบสนองการ
ขั
บเคลื่
อนเศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
ของประเทศไทย บนรากฐานทุ
นทางวั
ฒนธรรม
ได้
ต่
อไป ซึ่
งจะสอดคล้
องกั
บการพั
ฒนาประเทศไทยในระยะต่
อไป ตามแผน
พั
ฒนาเศรษฐกิ
จและสั
งคมแห่
งชาติ
ฉบั
บที่
๑๑ ที่
มุ่
งเชื่
อมโยงระหว่
างทุ
น ๖ ทุ
น
คื
อ ทุ
นธรรมชาติ
ทุ
นกายภาพ ทุ
นสั
งคม ทุ
นมนุ
ษย์
ทุ
นการเงิ
น และทุ
น
วั
ฒนธรรม เพื่
อปรั
บเปลี่
ยนโครงสร้
างเศรษฐกิ
จของประเทศไทยจากการพึ่
งพิ
ง
ปั
จจั
ยการผลิ
ตที่
มี
ราคาถู
กและใช้
ทรั
พยากรอย่
างสิ้
นเปลื
อง ไปสู่
การเพิ่
ม
ประสิ
ทธิ
ภาพและสร้
างนวั
ตกรรม ซึ่
งเป็
นยุ
ทธศาสตร์
การปรั
บโครงสร้
างการผลิ
ต
ให้
สมดุ
ลและยั่
งยื
น ที่
เรี
ยกว่
า เศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
หรื
อCreative Economy”
“วั
ฒนธรรมไทยสายใยชุ
มชนต้
นแบบ : พลั
งขั
บเคลื่
อนวิ
ถี
ไทยอย่
างยั่
งยื
น”
นอกจากนี้
กระทรวงวั
ฒนธรรม ยั
งได้
จั
ดงาน
“วั
ฒนธรรมไทยสายใย
ชุ
มชนต้
นแบบ : พลั
งขั
บเคลื่
อนวิ
ถี
ไทยอย่
างยั่
งยื
น”
เมื่
อวั
นที่
๗ กั
นยายน
เพื่
อต่
อยอดและขยายผลการขั
บเคลื่
อนเศรษฐกิ
จของประเทศไทยบนรากฐาน
ของทุ
นทางวั
ฒนธรรม รวมถึ
งการมอบรางวั
ลเพื่
อยกย่
องชมเชย เป็
นขวั
ญกำลั
ง
ใจแก่
ชุ
มชนที่
ดำเนิ
นการดี
อยู่
แล้
ว และเป็
นแบบอย่
างแก่
ชุ
มชนที่
ยั
งไม่
เข้
มแข็
งให้
ได้
เห็
นเป็
นแบบอย่
าง ซึ่
งจะก่
อให้
เกิ
ดการแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู้
พั
ฒนาและต่
อยอด
ซึ่
งชุ
มชนเหล่
านี้
จะเป็
นต้
นน้
ำและเป็
นแหล่
งทุ
นทางวั
ฒนธรรมที่
แท้
จริ
ง
นอกจากนี้
ยั
งจั
ดให้
มี
การอบรมให้
ความรู้
เพื่
อพั
ฒนาต่
อยอด
ภู
มิ
ปั
ญญาไทยเพื่
อเพิ่
มมู
ลค่
าทางเศรษฐกิ
จของชุ
มชน” ในหั
วข้
อ “ทั
กษะการ
ประกอบการสิ
นค้
าและบริ
การทางวั
ฒนธรรม : การเพิ่
มมู
ลค่
าให้
กั
บสิ
นค้
าและ
บริ
การอย่
างสร้
างสรรค์
” โดยวิ
ทยากรผู้
ทรงคุ
ณวุ
ฒิ
เพื่
อเสริ
มสร้
างองค์
ความรู้
ที่
เหมาะสมสำหรั
บกลุ่
มอาชี
พศิ
ลปะและวั
ฒนธรรมในโครงการวั
ฒนธรรมไทย
สายใยชุ
มชนดี
เด่
น ซึ่
งถื
อเป็
นผู้
ประกอบการด้
านผลิ
ตภั
ณฑ์
วั
ฒนธรรมในท้
องถิ่
น
ทั่
วทุ
กภู
มิ
ภาค โดยมุ่
งหวั
งให้
ได้
รั
บการพั
ฒนาศั
กยภาพ ด้
านการประกอบธุ
รกิ
จ
ทางวั
ฒนธรรมอย่
างเข้
มแข็
ง และสามารถสร้
างสรรค์
ผลิ
ตภั
ณฑ์
ที่
มี
คุ
ณค่
าทาง
สั
งคมวั
ฒนธรรม และมี
มู
ลค่
าเพิ่
มทางเศรษฐกิ
จอย่
างยั่
งยื
นสื
บต่
อไป
ก้
าวต่
อไปของกระทรวงวั
ฒนธรรม กั
บเป้
าหมายการใช้
ทุ
นวั
ฒนธรรม
สร้
างเศรษฐกิ
จสร้
างสรรค์
นายธี
ระ สลั
กเพชร รั
ฐมนตรี
ว่
าการกระทรวงวั
ฒนธรรม ได้
กล่
าวทิ้
ง
ท้
ายว่
า “กระทรวงวั
ฒนธรรมซึ่
งเป็
นหน่
วยงานต้
นน้
ำพร้
อมที่
จะสนั
บสนุ
น
ส่
งเสริ
ม ทุ
กองค์
กรให้
มี
การใช้
ทุ
นวั
ฒนธรรม ซึ่
งเป็
นทรั
พยากรอั
นทรงคุ
ณค่
า
ในการสร้
างเศรษฐกิ
จเชิ
งสร้
างสรรค์
เศรษฐกิ
จของประเทศจะแข็
งแกร่
งและยั่
งยื
น
จะต้
องนำเศรษฐกิ
จชุ
มชน ซึ่
งอุ
ดมไปด้
วยทุ
นวั
ฒนธรรม มาเชื่
อมโยงกั
บ
เศรษฐกิ
จมหภาคให้
สามารถเกื้
อกู
ลกั
น เพื่
อก้
าวสู่
ความเป็
นหนึ่
งในอาเซี่
ยน
ทั้
งในเรื่
องของการสร้
างฐานข้
อมู
ลทางวั
ฒนธรรมจากในระดั
บชุ
มชนสู่
โครงข่
าย
ระดั
บประเทศ เพื่
อก้
าวสู่
การเป็
นCreative Community ในการพั
ฒนาเศรษฐกิ
จ
สร้
างสรรค์
รวมถึ
งการประชาสั
มพั
นธ์
แหล่
งท่
องเที่
ยวทางวั
ฒนธรรมให้
เป็
นที่
รู้
จั
กอย่
างกว้
างขวาง และที่
สำคั
ญคื
อ การเป็
นหนึ่
งในเรื่
องของศิ
ลปวั
ฒนธรรมซึ่
ง
มี
ความเป็
นเอกลั
กษณ์
บ่
งบอกถึ
งความเป็
นชาติ
ไทย และพร้
อมที่
จะก้
าวออกสู่
สากลอย่
างสง่
างามและมั่
นคง
หลายประเทศ ที่
แม้
วั
ฒนธรรมจะไม่
หลากหลายและงดงามเท่
ากั
บ
ประเทศไทย แต่
ประเทศเหล่
านั้
นก็
ยั
งใช้
วั
ฒนธรรมในการสร้
างชาติ
และพลิ
กฟื้
น
เศรษฐกิ
จมาแล้
ว ดั
งนั้
น
การใช้
ทุ
นวั
ฒนธรรมเพื่
อสร้
างเศรษฐกิ
จ
จึ
งไม่
ใช่
เรื่
องยาก
หากแต่
เราคนไทยต้
องใช้
อย่
าง
เหมาะสม สร้
างสรรค์
และ
สมดุ
ล
เช่
นนั้
นแล้
ว เศรษฐกิ
จไทยก็
จะพลิ
กฟื้
น คนไทยก็
จะอยู่
ดี
มี
สุ
ข อย่
างยั่
งยื
น...
วารสารวั
ฒนธรรมไทย