วารสารวั
ฒนธรรมไทย
34
ระเพณี
พิ
ธี
กรรม มี
ส่
วนเกี่
ยวข้
องกั
บการดำเนิ
นชี
วิ
ต
ของคนมาช้
านานแล้
วตั้
งแต่
ได้
อยู่
รวมกั
นเป็
น
ครอบครั
ว เป็
นกลุ่
มสั
งคม เป็
นชุ
มชนขนาดใหญ่
ขึ้
น
และได้
ถ่
ายทอดจากคนรุ่
นหนึ่
งไปสู่
อี
กคนรุ่
นหนึ่
ง
มี
จุ
ดประสงค์
เพื่
อเป็
นแนวทางในการดำเนิ
นชี
วิ
ต ซึ่
งกลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
ผู้
ไทยเป็
นกลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
ที่
มี
วิ
ถี
ชี
วิ
ตคล้
ายกั
บชนเผ่
าไทยในภาคอี
สาน
ย่
อมมี
การทำบุ
ญในประเพณี
๑๒ เดื
อน จุ
ดมุ่
งหมายเพื่
อความ
อยู่
เย็
นเป็
นสุ
ขของคนในครอบครั
ว สั
งคม และชุ
มชน เป็
นการ
ดู
แลรั
กษาสุ
ขภาพวิ
ธี
หนึ่
ง โดยเฉพาะทางด้
านจิ
ตใจ ความรู้
สึ
ก
วิ
ญญาณ ให้
มี
ความเข้
มแข็
ง มี
ความสุ
ข ส่
งผลให้
ร่
างกายแข็
งแรง
ปราศจากโรคภั
ยไข้
เจ็
บด้
วย
สำหรั
บพิ
ธี
กรรมประจำกลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
ผู้
ไทยที่
ถื
อว่
า
เป็
นการดู
แลสุ
ขภาพโดยตรงที่
เรี
ยกว่
า
เหยา
หรื
อ
พิ
ธี
การเหยา
เป็
นพิ
ธี
กรรมของผู้
คนที่
ยั
งคงไว้
เพื่
อปฏิ
บั
ติ
อยู่
ในชุ
มชนจนเกิ
ดเป็
น
ประเพณี
สื
บต่
อกั
นมา
“เหยา”
เป็
นความเชื่
อและพิ
ธี
กรรมหนึ่
งในการรั
กษา
สุ
ขภาพของคนในชุ
มชนผู้
ไทยที่
สื
บทอดมาแต่
ครั้
งบรรพกาล
อั
นสื
บเนื่
องมาจากความเชื่
อดั้
งเดิ
มที่
นั
บถื
อผี
เป็
นการทำพิ
ธี
เพื่
อติ
ดต่
อระหว่
างผี
กั
บคน ให้
ผี
ช่
วยเหลื
อแก้
ปั
ญหาความเดื
อดร้
อน
โดยเฉพาะการเจ็
บไข้
ได้
ป่
วย มู
ลเหตุ
ที่
ต้
องมี
การเหยามาจาก
สภาพสั
งคมดั้
งเดิ
มของชาวไทยที่
ไม่
มี
สถานพยาบาลรั
บรอง
ความเจ็
บป่
วย ก่
อให้
เกิ
ดความจำเป็
นที่
ชาวไทยต้
องดิ้
นรนหาที่
พึ่
ง
ยามเจ็
บไข้
ได้
ป่
วย ส่
วนใหญ่
นั้
นใช้
สมุ
นไพรพื้
นบ้
านที่
มี
ในท้
องถิ่
น
ในการรั
กษาและดู
แลสุ
ขภาพ ในอดี
ตการรั
กษาโรคภั
ยไข้
เจ็
บ
จำเป็
นต้
องอาศั
ยผี
เป็
นผู้
วิ
นิ
จฉั
ยโรคบอกวิ
ธี
รั
กษา ในปั
จจุ
บั
นแม้
มี
การแพทย์
แผนใหม่
ที่
สามารถวิ
นิ
จฉั
ยโรคได้
ถู
กต้
อง แต่
โรคบางโรค
หรื
ออาการบางอย่
างรั
กษาไม่
หาย ผู้
ป่
วยที่
ไม่
มี
ที่
พึ่
งจึ
งจำเป็
นต้
อง
พึ่
งพิ
ธี
กรรม อย่
างน้
อยจะทำให้
จิ
ตใจผู้
ป่
วยดี
ขึ้
น จึ
งจั
ดเป็
น
พิ
ธี
กรรมที่
สร้
างขวั
ญและกำลั
งใจกั
บผู้
ป่
วยเป็
นหลั
ก เมื่
อผู้
ป่
วย
อยู่
ในวาระสุ
ดท้
ายของชี
วิ
ตหรื
อผู้
ป่
วยหายจากโรคและอาการ
เจ็
บป่
วยก็
จะทำพิ
ธี
การเหยา ผู้
ที่
ทำพิ
ธี
การเหยาเรี
ยกว่
า หมอเหยา
เป็
นผู้
ที่
สื
บทอดมาจากบรรพบุ
รุ
ษโดยปู่
ย่
า ตายาย แม่
เป็
นหมอเหยา
มาก่
อนลู
กก็
จะสื
บทอดการเป็
นหมอเหยา แต่
ในปั
จจุ
บั
นนี้
การสื
บทอดการเป็
นหมอเหยานั้
นได้
เลื
อนหายไปจากสั
งคมของ
กลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
ผู้
ไทยไปแล้
ว ยั
งเหลื
อแต่
หมอเหยาที่
เป็
นผู้
อาวุ
โส
ของชุ
มชนเท่
านั้
น และการประกอบพิ
ธี
กรรมเหยายั
งคงเหลื
อ
ให้
เห็
นเพี
ยงแต่
บางชุ
มชนเท่
านั้
น เนื่
องจากสั
งคมสมั
ยใหม่
ได้
เขามา
มี
บทบาทในการเปลี่
ยนแปลงขนบธรรมเนี
ยมประเพณี
บางอย่
าง
ของชาวผู้
ไทย ทั้
งนี้
การเหยาเป็
นการติ
ดต่
อสื่
อสารของมนุ
ษย์
และวิ
ญญาณ ซึ่
งการติ
ดต่
อสื่
อสารจะใช้
ท่
วงทำนองของดนตรี
หรื
อที่
ชาวผู้
ไทยเรี
ยกว่
า กลอนลำ (หมอลำ) มี
เครื่
องดนตรี
ประเภทแคนประกอบการให้
จั
งหวะ วิ
ธี
การติ
ดต่
อสื่
อสาร กลอนลำ
และทำนอง เรี
ยกว่
า การเหยา
วิ
จั
ยทางวั
ฒนธรรม
ทรงคุ
ณ จั
นทจร
วสุ
พล คะยอมดอก
อำภา คนซื่
อ
ป
พิ
ธี
เหยา
การดู
แลสุ
ขภาพของกลุ่
มชาติ
พั
นธ์ุ
ผู้
ไทยฯ