Page 30 - sep52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
28
การแผ่
เมตตา
การแผ่
เมตตาให้
สรรพสั
ตว์
ทั้
งหลาย มี
หลายแบบจะใช้
แบบใดก็
ได้
ขอเพี
ยงให้
มี
จิ
ตสงบเปี่
ยมด้
วยความเมตตาแล้
วแผ่
ไป
ก็
ใช้
ได้
สำหรั
บบทแผ่
เมตตา มี
ดั
งนี้
สั
พเพ สั
ตตา
สั
ตว์
ทั้
งหลายที่
เป็
นเพื่
อนทุ
กข์
เกิ
ด แก่
เจ็
บ ตาย ด้
วยกั
ทั้
งหมดทั้
งสิ้
อะเวรา
จงเป็
นสุ
ขเป็
นสุ
ขเถิ
ด อย่
าได้
มี
เวรแก่
กั
นและกั
นเลย
อั
พยาปั
ชฌา
จงเป็
นสุ
ขเป็
นสุ
ขเถิ
ด อย่
าได้
พยาบาทเบี
ยดเบี
ยนซึ่
งกั
และกั
นเลย
อะนี
ฆา
จงเป็
นสุ
ขเป็
นสุ
ขเถิ
ด อย่
าได้
มี
ความทุ
กข์
กายทุ
กใจเลย
สุ
ขี
อั
ตตานั
ง ปะริ
หะรั
นตุ
จงมี
ความสุ
ขกายสุ
ขใจ รั
กษาตนให้
พ้
นจากทุ
กข์
ภั
ยทั้
งสิ้
นเถิ
การน้
อมรำลึ
กถึ
งผู้
มี
พระคุ
เมื่
อแผ่
เมตตาแล้
ว พึ
งตั้
งใจระลึ
กถึ
งพระคุ
ณของบิ
ดามารดา
แล้
วกราบตั้
งมื
อ ๑ ครั้
ง จากนั้
นระลึ
กถึ
งพระคุ
ณของครู
บาอาจารย์
และผู้
มี
พระคุ
ณทั้
งหลาย แล้
วกราบตั้
งมื
ออี
กครั้
งหนึ่
ครั้
นแล้
วกราบพระรั
ตนตรั
ยแบบเบณจางคประดิ
ษฐ์
(ตามเพศ) ๓ ครั้
ง ขณะหมอบกราบพึ
งระลึ
กถึ
งคุ
ณพระรั
ตนตรั
เป็
นที่
พึ่
งดั
งกล่
าวแล้
ว เป็
นอั
นเสร็
จพิ
ธี
สวดมนต์
ประจำวั
นและ
ก่
อนนอน
การสวดมนต์
ก่
อนนอนนี้
ชาวพุ
ทธผู้
เคร่
งครั
ดใน
พระศาสนาจะสั่
งสอนบุ
ตรหลานของตนให้
ปฏิ
บั
ติ
เป็
นนิ
สั
ยในกิ
จวั
ตร
ประจำวั
น เพราะจะเป็
นผลให้
ลู
กหลานของตนเป็
นคนดี
มี
อารมณ์
เยื
อกเย็
นและกตั
ญญู
รู้
คุ
ณ เนื่
องจากมี
หลั
กยึ
ดเหนี่
ยวจิ
ตใจนั่
นเอง
ชาวพุ
ทธ นอกจากจะสวดมนต์
ประจำวั
นและก่
อนนอน
แล้
วบางคนอาจจะบู
ชาพระและสวดมนต์
เป็
นกรณี
พิ
เศษ เช่
ในขณะเกิ
ดความไม่
สบายใจหรื
อก่
อนจะตั
ดสิ
นใจในปั
ญหาสำคั
ญ ๆ
ทั้
งนี้
เพื่
อให้
จิ
ตใจสงบ ความไม่
สบายใจจะหายไป ทำให้
มี
สติ
สามารถตั
ดสิ
นใจได้
ดี
การทำบุ
ญใส่
บาตร
การตั
กบาตรหรื
อใส่
บาตร คื
อ การที่
พุ
ทธศาสนิ
กชน
นำอาหารที่
ปรุ
งสุ
กแล้
ว ผลไม้
และน้
ำหรื
ออาหารแห้
ง ใส่
ลงในบาตร
ของพระสงฆ์
ซึ่
งสามารถทำได้
ง่
ายโดยไม่
ต้
องมี
พิ
ธี
รี
ตองอะไร
ทุ
กคนสามารถทำได้
ทุ
กวั
น การทำบุ
ญใส่
บาตรพระสงฆ์
เป็
นหน้
าที่
ของพุ
ทธศาสนิ
กชนที่
ต้
องปฏิ
บั
ติ
เพื่
อเป็
นการทำนุ
บำรุ
งรั
กษา
พระพุ
ทธศาสนาไว้
เนื่
องจากพระสงฆ์
เป็
นพุ
ทธบุ
ตร เป็
นผู้
ควรแก่
สั
กการะที่
เขานำมาบู
ชา เป็
นผู้
ควรแก่
สั
กการะที่
เขาจั
ดไว้
ต้
อนรั
เป็
นผู้
ควรรั
บทั
กษิ
ณาทาน และเป็
นเนื้
อนาบุ
ญของโลก ไม่
มี
นาบุ
ญอื่
นยิ่
งกว่
า จะดำรงชี
พอยู่
ได้
ก็
ต้
องอาศั
ยความอุ
ปถั
มภ์
จาก
ญาติ
โยมที่
ถวายอาหารและปั
จจั
ยอื่
นแก่
ท่
าน
คำอธิ
ษฐานก่
อนใส่
บาตร
- ก่
อนจะใส่
บาตร นิ
ยมตั้
งจิ
ตอธิ
ษฐานก่
อน โดยถื
ขั
นข้
าวด้
วยมื
อทั้
งสองข้
าง นั่
งกระหย่
ง ยกขั
นข้
าวขึ้
นเสมอหน้
าผาก
พร้
อมกั
บกล่
าวคำอธิ
ษฐานก่
อนบริ
จาคทำบุ
ญด้
วยวั
ตถุ
สิ่
งของ
ทุ
กชนิ
ด ดั
งนี้
“สุ
ทิ
นนั
ง วะตะ เม ทานั
ง อาสะวั
กขะ ยาวะหั
ง โหตุ
ทานของเราให้
ดี
แล้
วหนอ ขอจงเป็
นเครื่
องนำมาซึ่
งความสิ้
นไป
แห่
งอาสวะกิ
เลสฯ
การกรวดน้
ำอุ
ทิ
ศส่
วนกุ
ศล
- เมื่
อใส่
บาตรเสร็
จแล้
ว นิ
ยมกรวดน้
ำอุ
ทิ
ศส่
วนกุ
ศล
ให้
แก่
บรรพบุ
รุ
ษ โดยกล่
าวคำกรวดน้
ำแบบย่
อ ว่
าดั
งนี้
“อิ
ทั
ง เม ญาตี
นั
ง โหตุ
สุ
ขิ
ตา โหนตุ
ญาตะโย”
ขอส่
วนบุ
ญนี้
จงสำเร็
จแก่
ญาติ
ทั้
งหลายของข้
าพเจ้
า ขอให้
ญาติ
ทั้
งหลายของข้
าพเจ้
าจงมี
ความสุ