วารสารวั
ฒนธรรมไทย
27
ั
งามอย่
างไทย
ารไปวั
ด การไหว้
พระสวดมนต์
แผ่
เมตตา
เป็
นกิ
จกรรมที่
ชาวพุ
ทธเราปฏิ
บั
ติ
กั
นเป็
นประจำ
ในชี
วิ
ตประจำวั
น แต่
ปั
จจุ
บั
นสภาพสั
งคมที่
เปลี่
ยนไป
คนมี
เวลาน้
อยลงและสนใจทำกิ
จกรรมอื่
นกั
น
มากกว่
าการไหว้
พระสวดมนต์
หรื
อประกอบกิ
จกรรมทางศาสนา
บ้
านกั
บวั
ดเริ่
มห่
างกั
นเนื่
องจากบริ
บทของสั
งคม เศรษฐกิ
จ โดย
ภาพรวมของสั
งคมไทย มี
ชี
วิ
ตความเป็
นอยู่
เปลี่
ยนไปในทุ
กด้
าน
แต่
คุ
ณค่
าของศาสนา ยั
งเป็
นเรื่
องจำเป็
นควบคู่
กั
บการ
พั
ฒนาประเทศ เพราะศาสนาเป็
นเรื่
องของจิ
ตใจ เป็
นเรื่
องของ
ศี
ลธรรม คุ
ณธรรม และจริ
ยธรรม เป็
นพื้
นฐานที่
ดี
งามให้
กั
บ
สั
งคมไทยมาโดยตลอด ดั
งนั้
น การประกอบกิ
จกรรมทางศาสนา
เป็
นเรื่
องที่
พึ
งปฏิ
บั
ติ
และไม่
ใช่
เรื่
องไกลตั
ว กระทรวงวั
ฒนธรรม
ได้
ส่
งเสริ
มให้
ประชาชนทุ
กคนได้
มี
การปฏิ
บั
ติ
กิ
จกรรมทางศาสนา
ที่
สามารถปฏิ
บั
ติ
ได้
เป็
นประจำทุ
กวั
น เช่
น ทำบุ
ญตั
กบาตร
ร่
วมพิ
ธี
กรรมทางศาสนาในวั
นสำคั
ญทางศาสนา ทำสมาธิ
สวดมนต์
ไหว้
พระ ฟั
งเทศน์
ฟั
งธรรม เพื่
อเป็
นการพั
ฒนาคุ
ณภาพชี
วิ
ต
ของคนในชาติ
จากรายงานคุ
ณภาพชี
วิ
ตของคนไทย ข้
อมู
ลความจำเป็
น
พื้
นฐาน (จปฐ.) ของกระทรวงมหาดไทย เป็
นข้
อมู
ลในระดั
บ
ครั
วเรื
อนที่
แสดงถึ
งสภาพความจำเป็
นของคนในครั
วเรื
อนในด้
าน
ต่
าง ๆ เกี่
ยวกั
บคุ
ณภาพชี
วิ
ตที่
ได้
กำหนดมาตรฐานขั้
นต่
ำเอาไว้
ว่
า
คนควรจะมี
คุ
ณภาพชี
วิ
ตในเรื่
องนั้
น ๆ อย่
างไร เป็
นตั
วชี้
วั
ด
ในเรื่
องข้
อมู
ลในระดั
บครั
วเรื
อน โดยเฉพาะตั
วชี้
วั
ดที่
๓๕ คื
อ
คนอายุ
๖ ปี
ขึ้
นไป ทุ
กคนได้
ปฏิ
บั
ติ
กิ
จกรรมทางศาสนาอย่
างน้
อย
สั
ปดาห์
ละ ๑ ครั้
ง ด้
วยการส่
งเสริ
มให้
ประชาชนทุ
กคนได้
ปฏิ
บั
ติ
กิ
จกรรมทางศาสนา สามารถทำได้
เป็
นประจำทุ
กวั
น ชี
วิ
ตประจำวั
น
เป็
นกระบวนการส่
งเสริ
มคุ
ณธรรมจริ
ยธรรมโดยเป็
นเรื่
องใกล้
ตั
ว
ที่
ประชาชนทุ
กคนสามารถปฏิ
บั
ติ
ได้
ทุ
กสถานที่
และทุ
กแห่
ง
งามอย่
างไทยในฉบั
บนี้
จึ
งขอเสนอเรื่
องของการปฏิ
บั
ติ
ศาสนกิ
จ
ที่
พุ
ทธศาสนิ
กชนสามารถนำไปปฏิ
บั
ติ
กั
นได้
ในชี
วิ
ตประจำวั
น
ได้
แก่
การไหว้
พระสวดมนต์
การแผ่
เมตตา การทำบุ
ญใส่
บาตร
และการเข้
าวั
ดวั
นธรรมสวนะ หากประชาชนทุ
กคนได้
ปฏิ
บั
ติ
กิ
จกรรมทางศาสนาเบื้
องต้
นดั
งกล่
าว ก็
จะเป็
นการพั
ฒนาคุ
ณภาพ
ชี
วิ
ตของคนในชาติ
ให้
เป็
นคนดี
มี
คุ
ณธรรม จะเป็
นการพั
ฒนา
อย่
างยั่
งยื
นต่
อไป
การไหว้
พระสวดมนต์
พุ
ทธศาสนิ
กชนผู้
มี
ความเลื่
อมใสมั่
นคงในพระพุ
ทธศาสนา
ก่
อนจะออกจากบ้
านและก่
อนเข้
านอนนิ
ยมสวดมนต์
เพื่
อทำจิ
ตใจ
ให้
สงบ เพราะการสวดมนต์
เป็
นการสรรเสริ
ญคุ
ณพระรั
ตนตรั
ย
คื
อ พระพุ
ทธ พระธรรม พระสงฆ์
บทสวดมนต์
นำมาจาก
พระสู
ตรต่
าง ๆ ในพระไตรปิ
ฎกบ้
าง นั
กปราชญ์
ทางพระพุ
ทธศาสนา
แต่
งขึ้
นบ้
าง เพื่
อใช้
สวดในโอกาสต่
าง ๆ เป็
นอุ
บายฝึ
กจิ
ตและฝึ
ก
สมาธิ
ได้
เป็
นอย่
างดี
เพราะขณะสวดมนต์
จิ
ตของผู้
สวดจะต้
อง
จดจ่
ออยู่
ที่
บทสวดจึ
งจะสวดได้
อย่
างถู
กต้
อง ถ้
าจิ
ตฟุ้
งซ่
านแล้
ว
ก็
จะสวดผิ
ดบ่
อย ๆ ผู้
ที่
สวดมนต์
เป็
นประจำจะได้
รั
บอานิ
สงส์
ต่
าง ๆ
เช่
น ตั
ดความกั
งวลได้
เพราะขณะสวดจิ
ตระลึ
กถึ
งแต่
บทสวด
ปล่
อยวางความคิ
ดอย่
างอื่
น ได้
เจริ
ญพุ
ทธานุ
สสติ
เพราะขณะสวด
จิ
ตระลึ
กถึ
งพระพุ
ทธคุ
ณและคำสั่
งสอนของพระพุ
ทธองค์
และ
จิ
ตเป็
นสมาธิ
มั่
นคง จิ
ตจะแน่
วแน่
อยู่
ในอารมณ์
เดี
ยว เมื่
อสวด
เป็
นประจำจะทำให้
เป็
นคนมี
จิ
ตมั่
นคง เป็
นต้
น
ก
การปฏิ
บั
ติ
ศาสนกิ
จ
ของพุ
ทธศาสนิ
กชนในชี
วิ
ตประจำวั
น