Page 26 - sep52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
24
งานประเพณี
ทำบุ
ญเดื
อนสิ
บ นครศรี
ธรรมราช
เป็
นการ
ทำบุ
ญเพื่
ออุ
ทิ
ศส่
วนกุ
ศลให้
บรรพชนที่
ล่
วงลั
บไปแล้
ว ตามความเชื่
ที่
ว่
า บรรพชนที่
ล่
วงลั
บไปแล้
วนั้
น มี
ทั้
งที่
ไปเสวยสุ
ขบนทิ
พย์
วิ
มาน
(ขณะมี
ชี
วิ
ตอยู่
ทำกรรมดี
ไว้
มาก) และที่
ได้
รั
บความทุ
กข์
อดอยาก หิ
วโหย ถู
กทรมานอย่
างแสนสาหั
สจากพญายมบาล
(ขณะมี
ชี
วิ
ตอยู่
ทำกรรมชั่
วไว้
มาก) เป็
นผู้
มี
บาปหนาไปตกออยู่
ใน
อบายภู
มิ
เรี
ยกว่
“เปรต ”
เปรต (มี
หลายแบบ แต่
ส่
วนใหญ่
แล้
วมี
ลั
กษณะน่
าเกลี
ยด
น่
ากลั
ว ปากเท่
ารู
เข็
ม ตามตั
วจะมี
เลื
อดไหล (ถู
กลงโทษให้
ปี
ต้
นงิ้
ว และหนามต้
นงิ้
วแทง เชื่
อว่
าขณะมี
ชี
วิ
ตชอบผิ
ดลู
กเมี
ยผู้
อื่
น)
การรั
บโทษและการลงโทษขึ้
นอยู่
กั
บกรรมที่
ได้
ก่
อไว้
เช่
น การให้
กระโดดลงในกระทะทองแดงที่
มี
น้
ำเดื
อด ฯลฯ เปรตจะได้
รั
การปลดปล่
อยจากพญายมบาลให้
มาเยี่
ยมลู
กหลาน ตั้
งแต่
วั
นแรม
๑ ค่
ำ เดื
อน ๑๐ เรี
ยกว่
าวั
นรั
บตายาย และกลั
บยมโลกวั
นแรม
๑๕ ค่
ำ เดื
อน ๑๐ เรี
ยกว่
าวั
นส่
งตายาย การทำบุ
ญเริ่
มตั้
งแต่
วั
นแรม ๑๓ ค่
ำ วั
นแรม ๑๔ ค่
ำ และวั
นแรม ๑๕ ค่
ก่
อนถึ
งวั
นทำบุ
ญ ลู
กหลานเตรี
ยมทำขนมสำหรั
บใช้
ทำบุ
ญเดื
อนสิ
บโดยเฉพาะ มี
หลายอย่
าง แต่
ขนมที่
ขาดไม่
ได้
มี
๕ อย่
างด้
วยกั
น เรี
ยกว่
าขนมตายาย ประกอบด้
วย พอง ลา
ขนมบ้
า ขนมดี
ซำ ขนมกงหรื
อขนมไข่
ปลา การทำขนมตายาย
แสดงให้
เห็
นถึ
งวิ
ถี
ชี
วิ
ตของคนไทยที่
มี
นิ
สั
ยโอบอ้
อมอารี
มี
น้
ำใจ
ช่
วยเหลื
อซึ่
งกั
นและกั
น เพราะขนมแต่
ละอย่
างต้
องใช้
เวลา
ในการทำ (บางอย่
างหลายชั่
วโมง) และต้
องร่
วมกั
นทำหลายคน
เช่
น การเคี่
ยวน้
ำมั
นมะพร้
าวเพื่
อทอด (ส่
าย) พอง ต้
องทำตั้
งแต่
การปอกมะพร้
าว ขู
ดมะพร้
าวด้
วยกระต่
าย การใช้
ไม้
ฟื
น เคี่
ยวจน
ได้
เป็
นน้
ำมั
นมะพร้
าว ต้
องผ่
านหลายขั้
นตอน จึ
งจะเสร็
พอง
ทำจากข้
าวเหนี
ยว นำไปนึ่
งจนสุ
ก แล้
วนำมาอั
ในพิ
มพ์
รู
ปกลม สี่
เหลี่
ยมตามต้
องการ เสร็
จแล้
วถอดพิ
มพ์
ออก
แล้
วนำไปตากแดดให้
แห้
ง และนำไปทอด (ส่
าย) ในน้
ำมั
นร้
อน ๆ
เห็
นว่
ากรอบดี
แล้
วยกขึ้
นจากกระทะ
ลา
ทำด้
วยแป้
งข้
าวเจ้
ากั
บน้
ำตาล เอาไปใส่
ลงในกะลา
ที่
เจาะรู
ไว้
จำนวนมาก นำไปหยอดทอดในกระทะร้
อน ๆ จนได้
ที่
เห็
นว่
าสุ
ก จะได้
ขนมที่
มี
ลั
กษณะเป็
นเส้
น ๆ คล้
ายร่
างแหหรื
ตาข่
าย
ขนมบ้
ทำด้
วยแป้
งข้
าวเหนี
ยวผสมกั
บน้
ำตาล แผ่
เป็
แผ่
นกลม ๆ นำไปทอดในน้
ำมั
นร้
อน ๆ จะได้
ขนมมี
ลั
กษณะคล้
าย
ลู
กสะบ้
า (นำไปเล่
นกี
ฬาสะบ้
า)
ขนมดี
ซำ
ทำด้
วยแป้
งข้
าวเจ้
าและน้
ำตาลนวดให้
เข้
ากั
นำมาแผ่
ให้
มี
ลั
กษณะกลม ๆ เจาะรู
ตรงกลางนำไปทอดในน้
ำมั
ร้
อน ๆ จะสุ
ก ฟู
ลั
กษณะคล้
ายเหรี
ยญสตางค์
แดงสมั
ยก่
อน
ขนมกงหรื
อขนมไข่
ปลา
ทำจากแป้
งข้
าวเหนี
ยวผสมกั
หั
วกะทิ
และไข่
เล็
กน้
อย อี
กส่
วนหนึ่
งใช้
ถั่
วเขี
ยวนึ่
งจนสุ
โม่
ให้
ละเอี
ยด เอามาผสมกั
บน้
ำตาลที่
เคี่
ยวจนข้
นคลุ
กเคล้
าให้
เข้
ากั
แล้
วปั้
นเป็
นรู
ปกลมรี
ขนาดพองามนำไปชุ
บแป้
งที่
เตรี
ยมไว้
จนเข้
ากั
นดี
แล้
วทอดในน้
ำมั
นจนสุ
ก จะได้
ขนมกงคล้
ายรู
ปไข่
ปลา
(สมปราชญ์
อั
มมะพั
นธ์
, ๒๕๔๘ : ๔๗)
การทำขนมงานบุ
ญเดื
อนสิ
บ (ขนมตายาย) นอกจาก
ทำให้
เกิ
ดความผู
กพั
น ความรั
กสามั
คคี
เห็
นอกเห็
นใจกั
นแล้
ยั
งแสดงให้
เห็
นถึ
งการมี
ความคิ
ดสร้
างสรรค์
ของบรรพชนที่
ได้
สื่
ความหมายของขนมแต่
ละอย่
างให้
สอดคล้
องกั
บรู
ปลั
กษณ์
ของ
ขนมได้
อย่
างลงตั
ว ดั
งนี้
พอง
ลั
กษณะเป็
นแผ่
นกลม สี่
เหลี่
ยม มี
น้
ำหนั
กเบา
ใช้
แทนแพ เพื่
อลอยข้
ามทะเลกรรม
ลา
ลั
กษณะ เป็
นเส้
นคล้
ายร่
างแหหรื
อตาข่
าย ใช้
แทน
เสื้
อผ้
า เครื่
องนุ่
งห่
หฺ
มฺ
รั
วั
ดพระมหาธาตุ
วรมหาวิ
หาร