Page 27 - sep52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
25
เมื่
อถึ
งวั
นทำบุ
ญ ลู
กหลานทั้
งใกล้
ไกลก็
จะมาพร้
อมกั
เพื่
อร่
วมทำบุ
ญ โดยการนำอาหารคาวหวาน ผลไม้
(ซึ่
งกำลั
งออกผล
ในช่
วงนี้
) เช่
น ลองกอง ลางสุ
ก ลางสาด ทุ
เรี
ยน ฯลฯ รู
ปถ่
าย
ของบรรพบุ
รุ
ษ (ที่
เป็
นกรอบรู
ป) อั
ฐ และกระดาษที่
ได้
เขี
ยนชื่
ผู้
ล่
วงลั
บไปแล้
วตั้
งแต่
ปู่
ย่
า ตา ทวด ตลอดถึ
งวงศาคณาญาติ
ทั้
งหมด นำไปวั
ดที่
ครอบครั
วของตนและบรรพชนไปประกอบพิ
ธี
ทางศาสนา (ส่
วนใหญ่
เป็
นวั
ดใกล้
บ้
าน) เมื่
อมาถึ
งพร้
อมกั
นที่
วั
จะนั่
งรวมกลุ่
มกั
นเต็
มวิ
หารหรื
อศาลาโรงธรรม (แต่
ละคนก็
จะคุ
ยกั
อย่
างสนุ
กสนาน อบอุ่
น เพราะนี่
คื
อโอกาสที่
ได้
พบกั
น) ทำการ
แบ่
งอาหารสำหรั
บทำบุ
ญถวายพระ และสำหรั
บตั้
งเปรต
ถั
ดมาก็
เป็
นการประกอบพิ
ธี
พระ ไหว้
พระ รั
บศี
ล ทำบุ
ตั
กบาตร ถวายอาหารเพล ได้
เวลาตั้
งเปรต ลู
กหลานก็
จะรวมกั
เป็
นกลุ่
ม แต่
ละกลุ่
มก็
จะนำอาหารไปวางที่
หลาเปรต (ศาลา)
หรื
อนำไปวางบนพื้
นดิ
น โดยปู
เสื่
อ สาด ผ้
ายาง ใบตอง รองรั
แล้
ววงศาคณาญาติ
ก็
มานั่
งล้
อมเป็
นวงกลม ขณะนี้
ก็
จะมี
ผู้
อาวุ
โส
ของตระกู
ล นำกล่
าวบทสวดแล้
วจึ
งกรวดน้
ำอุ
ทิ
ศส่
วนบุ
ญส่
วนกุ
ศล
ให้
เปรตชนทั้
งหลายในการกล่
าวบทสวด บางกลุ่
มกล่
าวบทสวด
แบบสั้
น บางกลุ่
มกล่
าวบทสวดแบบยาว ขณะที่
ผู้
อาวุ
โสกล่
าว
บทสวด สมาชิ
กที่
นั่
งอยู่
ก็
จะระลึ
กถึ
งบรรพชนและอุ
ทิ
ศส่
วนกุ
ศล
ไปให้
ส่
วนเด็
ก ๆ ก็
จะจั
บจ้
องสิ่
งของที่
กองอยู่
ข้
างหน้
า และรอเวลา
ผู้
อาวุ
โส กล่
าวบทสวดเสร็
จก็
จะกรวดน้
ำร่
วมกั
หลั
งจากกรวดน้
ำภายในพริ
บตา ขนม เงิ
น อาหารคาวหวาน
ผลไม้
สิ่
งของที่
ตั้
งเปรต ก็
จะหายไป อยู่
ในกระเป๋
า ถุ
ง ที่
ทุ
กคน
เตรี
ยมมา เสร็
จการชิ
งเปรต ก็
จะมานั่
งร่
วมกั
นรั
บประทานอาหาร
แบ่
งกั
นรั
บประทานโดยไม่
ได้
คิ
ดเลยว่
าก่
อนหน้
านี้
ได้
แย่
งชิ
งกั
แบบสุ
ดตั
ว การชิ
งเปรตถื
อว่
าเป็
นมงคล อาหารที่
ได้
จากการ
ชิ
งเปรต เชื่
อว่
าใครได้
กิ
นก็
จะโชคดี
ต่
อจากนี้
ก็
จะนำอั
ฐิ
รู
ปถ่
าย
ของบรรพชนมาบั
งสุ
กุ
ลร่
วมกั
น เป็
นอั
นเสร็
จพิ
ธี
ในส่
วนของการส่
งเสริ
มประเพณี
งานเดื
อนสิ
บเมื
อง
นครศรี
ธรรมราช จั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช โดยนายภาณุ
อุ
ทั
ยรั
ตน์
ผู้
ว่
าราชการจั
งหวั
ดนครศรี
ธรรมราช ร่
วมกั
บหน่
วยงานภาครั
และเอกชน กำหนดจั
ดงานเทศกาลเดื
อนสิ
บเมื
องนครศรี
ธรรมราช
ขนมบ้
มี
ลั
กษณะคล้
ายลู
กสะบ้
า ใช้
นำไปเล่
นกี
ฬาสะบ้
ขนมดี
ซั
ลั
กษณะคล้
ายเหรี
ยญสตางค์
แดงในสมั
ยก่
อน
ใช้
แทนเงิ
ขนมกง หรื
อขนมไข่
ปลา
ลั
กษณะวงกลมรี
ใช้
เป็
เครื่
องประดั
หลั
งจากลู
กหลานทำขนมเสร็
จ ก็
จะนำไปแจกจ่
ายให้
กั
ญาติ
พี่
น้
อง ผู้
ที่
เคารพนั
บถื
อ เพื่
อนบ้
านใกล้
เคี
ยง และส่
วนหนึ่
แบ่
งไว้
สำหรั
บใส่
หฺ
มฺ
รั
บหรื
อสำรั
บ เพื่
อนำไปทำบุ
ญ หฺ
มฺ
รั
ทำจากไม้
ไผ่
สานลั
กษณะเหมื
อนกระเชอ ปั
จจุ
บั
นใช้
ถาดหรื
อกะละ
มั
งแทน (สมปราชญ์
อั
มมะพั
นธ์
, ๒๕๔๘ : ๔๗)
การจั
ดหฺ
มฺ
รั
บ ภายในหฺ
มฺ
รั
บด้
านล่
างรองพื้
นด้
วยข้
าวสาร
เกลื
อ กะปิ
พริ
ก หอม กระเที
ยม กล้
วย อ้
อย มะพร้
าว
ด้
าย เข็
มเย็
บผ้
า ฯลฯ ตามด้
วยขนมตายายและขนมต่
าง ๆ เช่
ข้
าวเหนี
ยวกวน (ข้
าวเหนี
ยวแดง) ยาหนม (กาละแม) ทุ
เรี
ยนกวน
และปิ
ดคลุ
มด้
วยขนมลา ตกแต่
งเป็
นรู
ปเจดี
ย์
พุ่
มเงิ
น หรื
อรู
ปอื่
ประดั
บประดาด้
วยขนมที่
มี
สี
สั
นให้
ดู
แล้
วสวยงาม
ขนมลา
ขนมกง
ขนมพอง
ขนมบ้
ขนมดี
ซำ