วารสารวั
ฒนธรรมไทย
31
(Grand Prince Agasaka) ซึ่
งเป็
นโรงแรมใหญ่
ระดั
บห้
าดาว กลางกรุ
ง
โตเกี
ยว เมื่
อถึ
งโรงแรม ผู้
บริ
หารและเจ้
าหน้
าที่
จากไจ้
ซ์
ได้
ให้
การต้
อนรั
บ และจั
ดพิ
ธี
เลี้
ยงรั
บทุ
กคณะที่
ชั้
น ๔๕ ของโรงแรม ซึ่
งสู
งจน
มองเห็
นทิ
วทั
ศน์
ที่
สวยงามได้
โดยรอบ พร้
อมกั
นนั้
นก็
ได้
มี
การแจกอุ
ปกรณ์
กั
นหนาวต่
าง ๆ ให้
เนื่
องจากพวกเราไปในเดื
อนมกราคม ซึ่
งยั
งเป็
น
ฤดู
หนาวของเขาอยู่
อุ
ปกรณ์
ที่
ว่
านี้
มี
ทั้
งถุ
งมื
อ ถุ
งเท้
า เสื้
อยื
ดที
เชิ้
ต
เสื้
อลองจอห์
นไว้
ใส่
ข้
างใน รวมถึ
งเสื้
อกั
นหนาวสี
ส้
มแช้
ด (ที่
เห็
นเด่
นชั
ด
แต่
ไกล คงเผื่
อว่
า หากใครหลงออกจากกลุ่
มไปจะสั
งเกตเห็
นได้
ง่
าย
กระมั
ง) หลั
งจากงานเลี้
ยงรั
บแล้
ว ในช่
วงเย็
นวั
นเดี
ยวกั
น คณะทั้
งหมด
ทุ
กประเทศก็
ได้
ไปเยี่
ยมคารวะนายมิ
โนริ
กาวา โนบุ
ฮิ
เดะ รั
ฐมนตรี
ช่
วยว่
าการกระทรวงการต่
างประเทศ ซึ่
งท่
านก็
ได้
กล่
าวปราศรั
ยและให้
การต้
อนรั
บในฐานะเจ้
าภาพ จากนั้
นก็
ให้
หั
วหน้
าคณะแต่
ละประเทศ
กล่
าวแนะนำการแสดงและคณะนั
กแสดงจากประเทศของตนเป็
น
ภาษาอั
งกฤษสั้
น ๆ หลั
งจากช่
วงพิ
ธี
การเสร็
จสิ้
น เจ้
าหน้
าที่
ประสานงาน
แต่
ละคณะก็
พาคณะของตนไปที่
“โอไดบะ” (Odaiba) อั
นแหล่
ง
ช้
อปปิ้
งแห่
งใหม่
ที่
เกิ
ดจากการถมทะเลในอ่
าวโตเกี
ยวขึ้
นมา ที่
แปลกคื
อ
จะมี
รู
ปปั้
นเทพี
สั
นติ
ภาพยื
นเด่
นเป็
นสง่
าอยู่
ด้
วย ได้
ถ่
ายรู
ปมาให้
ดู
ปรากฏว่
าหลายคนคิ
ดว่
าเป็
นอเมริ
กา ที่
นี่
มี
ของให้
เลื
อกซื้
อมากพอ
สมควร แต่
ราคาก็
ไม่
ถู
กนั
ก ถึ
งกระนั้
นก็
ยั
งเห็
นเยาวชนของ
แต่
ละประเทศหิ้
วกั
นมาคนละสองสามถุ
ง ส่
วนใหญ่
ก็
ซื้
อมาจากร้
าน
๑๐๐ เยน (คื
อร้
านที่
ของทุ
กอย่
างในร้
านราคา ๑๐๐ เยน) ตอนที่
คณะเราไป อั
ตราแลกเปลี่
ยนเงิ
นเยนค่
อนข้
างจะแข็
ง คื
อ ๑๐๐ เยน
ประมาณ ๓๘-๓๙ บาท หลั
งจากกิ
นอาหารเย็
นที่
แห่
งเดี
ยวกั
นนี้
แล้
ว
ทุ
กคณะก็
กลั
บไปพั
กผ่
อนที่
โรงแรม เพื่
อเตรี
ยมตั
วแยกย้
ายไปแสดง
ตามแต่
ละเมื
องที่
เจ้
าภาพได้
กำหนดในวั
นต่
อไป ซึ่
งบางคณะอย่
างลาว
และเวี
ยดนามก็
ไปโดยรถไฟชิ
นคั
งเซน แต่
ไทย กั
มพู
ชา และพม่
าต้
อง
เดิ
นทางไปโดยสารการบิ
นภายในประเทศ เพราะสถานที่
ที่
จะไปแสดง
อยู่
ไกลกว่
า
วั
นที่
สองในประเทศญี่
ปุ่
น คื
อ วั
นที่
๑๖ มกราคม คณะของเรา
ได้
เดิ
นทางไปที่
สนามบิ
นฮาเนดะ (Haneda) ซึ่
งเป็
นสนามบิ
น
ภายในประเทศ เพื่
อขึ้
นเครื่
องไปยั
งจั
งหวั
ดชิ
มาเนะ (Shimane) ซึ่
งใช้
เวลาบิ
นประมาณ ๑ ชม. ๒๐ นาที
ก็
ถึ
ง และก่
อนที่
เครื่
องจะร่
อนลง
ทุ
กคนก็
ได้
เห็
นทั้
งเมื
องขาวโพลนไปด้
วยหิ
มะ มองดู
งดงามเหมื
อน
ภาพวาด ทำให้
ตื่
นเต้
นกั
นมาก เพราะตอนไปถึ
งกรุ
งโตเกี
ยว แม้
อากาศ
จะหนาวเย็
นแต่
กลั
บไม่
เห็
นหิ
มะสั
กก้
อน ดั
งนั้
น พอมาเห็
นที่
นี่
เราจึ
ง
รู้
สึ
กประทั
บใจ ยิ่
งไปกว่
านั้
น เจ้
าภาพยั
งพาคณะของเราไปกิ
นอาหาร
กลางวั
นที่
Yuushien ซึ่
งเป็
นร้
านอาหารท่
ามกลางสวนดอกไม้
ที่
สวยงาม แถมยั
งมี
หิ
มะที่
จั
บตั
วแข็
งอยู่
บริ
เวณรอบ ๆ สวน ทำให้
เยาวชนของเราเพลิ
ดเพลิ
นกั
บการแอ๊
กชั่
นถ่
ายรู
ปตามมุ
มโน้
นมุ
มนี้
จนล่
วงเลยเวลานั
ดหมายไปเกื
อบ ๑๐ นาที
ด้
วยเหตุ
นี้
โปรแกรมต่
อไป
ซึ่
งเขาจั
ดให้
พวกเราไปเยี่
ยมชม “ปราสาทมั
ตซิ
เอะ” (Matsue) อั
นเป็
น
ปราสาทเก่
าแก่
ของเมื
องนี้
เราจึ
งต้
องวิ่
งดู
อย่
างรี
บเร่
ง เพราะมี
เวลา
ไม่
ถึ
ง ๑๕ นาที
ในการดู
ปราสาทให้
ครบทั้
ง ๕ ชั้
น และผู้
ประสานงาน
ไม่
ยอมให้
เราได้
โอ้
เอ้
เหมื
อนตอนอยู่
ที่
สวนอี
กแล้
ว เพราะรายการต่
อไป
คื
อ การเยี่
ยมคารวะนายอิ
โต ทาดาชิ
รองนายกเทศบาลเมื
องมั
ตซิ
เอะ
ซึ่
งเป็
นเจ้
าภาพรั
บรองคณะของเรา ณ จั
งหวั
ดนี้
และตรงนี้
เองที่
ทำให้
พวกเราได้
ประจั
กษ์
ถึ
งความตรงต่
อเวลาของคนญี่
ปุ่
น เพราะไม่
ว่
า
โปรแกรมจะเป็
นพิ
ธี
การหรื
อไม่
ก็
ตาม เขาจะพยายามให้
ตรงตามเวลา
ที่
กำหนดเสมอ ดั
งนั้
น พวกเราที่
เคยตามสบาย คิ
ดว่
าสายนิ
ด
สายหน่
อยไม่
เป็
นไร จึ
งต้
องปรั
บตั
ว และต้
องรู้
จั
กบริ
หารเวลาใหม่
กล่
าวคื
อ
ถ้
าเขาพาไปไหน ๆ ก็
จะต้
องกะเวลาในการดู
สถานที่
นั้
น ๆ พร้
อมกั
บ
ถ่
ายรู
ป ซื้
อของ เข้
าห้
องน้
ำ หรื
อทำอย่
างอื่
น ๆ ไปด้
วยให้
เสร็
จทั
นเวลา
ทั้
งนี้
เพื่
อมิ
ให้
เสี
ยชื่
อ เพราะไปแบบนี้
ก็
ถื
อว่
าไปในฐานะตั
วแทน
ประเทศด้
วยเช่
นกั
น
การไปเยี่
ยมคารวะท่
านรองนายกเทศบาลเมื
องมั
ตซิ
เอะ
ครั้
งนี้
ท่
านได้
สรุ
ปให้
ฟั
งถึ
งเมื
องมั
ตซิ
เอะ และได้
พู
ดถึ
ง
“ดอกโบตั๋
น”
ว่
าเป็
นสั
ญลั
กษณ์
ของที่
นี่
ทั้
งยั
งเป็
นสิ
นค้
าที่
ลู
กค้
าสามารถกำหนดเวลา
ที่
จะให้
บาน ตอนไปส่
งตอนไหนก็
ได้
เพราะที่
นี่
เขามี
เทคนิ
คพิ
เศษ
ในการควบคุ
มให้
บานได้
ในเวลาที่
ต้
องการ ซึ่
งก็
น่
าทึ่
งดี
นอกจากนี้
เขายั
งมี
“เทศกาลแห่
เรื
อโฮรั
นเอนยะ”
ซึ่
งเป็
นการแห่
เรื
อบวงสรวง
เทพเจ้
าที่
จั
ดขึ้
นทุ
ก ๑๒ ปี
ซึ่
งครั้
งต่
อไปจะมี
ขึ้
นในเดื
อนพฤษภาคม
ปี
๒๕๕๓ และเทศกาลนี้
ถื
อเป็
นหนึ่
งในสามเทศกาลสำคั
ญ
ของประเทศญี่
ปุ่
น แต่
ที่
เยาวชนบ่
นเสี
ยดาย คื
อ ที่
จั
งหวั
ดชิ
มาเนะนี้
มี
ศาลเจ้
าแห่
งหนึ่
งมี
ชื่
อเสี
ยงในด้
านการขอให้
“ความรั
ก”
สมปรารถนา