Page 23 - may52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
21
พาเข้
าบ้
านเลย เพราะตระกู
ลนี้
สนิ
ทกั
บพ่
อตั้
งแต่
ครั้
งยั
งเล่
นดนตรี
พอมาเป็
นหมอ พ่
อก็
รั
กษาหมด ทั้
งบางลำพู
ทั้
งกรมศิ
ลป์
ครู
โชติ
ถามว่
า “อยากร้
องกั
บคนไหนล่
ะ” ก็
บอกว่
าชอบครู
เหนี่
ยวมาก ๆ
ชอบมาก ก ก ก็
พาไปหา
ครู
เหนี่
ยว ดุ
ริ
ยพั
นธุ์
บอกนี่
ลู
กฟุ้
ครู
เหนี่
ยวก็
ดี
ใจฝึ
กให้
โดยที่
พ่
อไม่
รู้
สั
กนิ
ดเดี
ยว ไปฝึ
กเกื
อบทุ
กวั
พอฝึ
กได้
๓ เดื
อน ครู
เหนี่
ยวก็
ถู
กรถชนเสี
ยชี
วิ
ต คณะของ
ครู
เหนี่
ยวก็
ขาดนั
กร้
องชาย ครู
จึ
งไปช่
วยร้
อง พ่
อก็
ไม่
รู้
แต่
พ่
อฟั
ทางวิ
ทยุ
“ตั
บจู
ล่
ง”
ก็
ชม อื้
อหื
อ! นายเหนี่
ยวนี่
เสี
ยงดี
ฟั
งจบโฆษก
ก็
ประกาศผู้
ที่
ร้
องจบไปนั้
นคื
อ ศิ
ริ
วิ
ชเวช พ่
อตกตะลึ
ง ไปต่
อว่
ถึ
งที่
สถานี
เลย เอาลู
กผมมาทำอะไร แต่
ก็
ช้
าไปซะแล้
ว ห้
ามไม่
ได้
จากนั้
นก็
เลยต้
องยอม เพราะว่
าพ่
อนิ
ยมเสี
ยงครู
เหนี่
ยวเหลื
อเกิ
น…
ด้
วยความที่
เป็
นลู
กของพ่
อฟุ้
ง ซึ่
งเป็
นผู้
กว้
างขวาง เคารพรั
ของคนในวงการดนตรี
ไทย บวกกั
บความมี
พรสวรรค์
ทางด้
าน
ดนตรี
ของครู
ศิ
ริ
จึ
งทำให้
ครู
ได้
รั
บการถ่
ายทอดวิ
ชาการดนตรี
ทั้
งขั
บร้
องและบรรเลงครู
บาอาจารย์
จากหลายสำนั
ก และที่
พิ
เศษ
คื
อ ครู
ศิ
ริ
บอกกั
บพ่
อว่
าอยากเรี
ยนกรั
บ พ่
อจึ
งพาไปหา
ครู
เจื
นาคมาลั
หลาน
หมื่
นขั
บคำหวาน
และได้
เรี
ยนตั้
งแต่
ขั้
นพื้
นฐาน
จนจบขั้
นสู
งสุ
ด พร้
อมทั้
งยั
งได้
รั
บมอบกรั
บคู่
มื
อของหมื่
นขั
บคำหวาน
จากครู
เจื
อด้
วย เพราะหมื่
นขั
บฯ สั่
งไว้
ว่
า “ถึ
งลู
กก็
ไม่
ให้
ถ้
าตี
ไม่
เป็
น ไม่
ใช่
ลู
ก ถ้
าเป็
นลู
กศิ
ษย์
รั
บวิ
ชาได้
ให้
เขาไปเลย”
เมื่
อเรี
ยนจบเริ่
มทำงานเมื่
อปี
๒๕๐๖ ครู
ศิ
ริ
ก็
หยุ
และแทบจะหายไปจากวงการดนตรี
เลย ทำแต่
งานบั
ญชี
อย่
างเดี
ยว
จนเมื่
อปี
๒๕๒๘ ได้
พบกั
หมอพู
นพิ
ศ (ศ.เกี
ยรติ
คุ
ณ น.พ.พู
นพิ
อมาตยกุ
ล)
ในงานวั
นระลึ
กถึ
งครู
เหนี่
ยวที่
ช่
อง ๔ บางขุ
นพรหม
ก็
สนิ
ทกั
น ครู
ก็
เลยสอนกรั
บให้
หมอเป็
นคนแรก
ไม่
นานต่
อมา
สมเด็
จพระเทพรั
ตนราชสุ
ดาฯ สยาม
บรมราชกุ
มารี
ได้
รั
บสั่
งกั
บหมอพู
นพิ
ศว่
า “ในประเทศไทยมี
ครู
แจ้
งกั
บนฤพลหลานครู
เหนี่
ยวเท่
านั้
นที่
ตี
กรั
บ แล้
วมี
ใคร
อี
กมั้
ย?” หมอก็
ทู
ลว่
า “มี
อี
กคนนึ
ง ชื่
อ ศิ
ริ
” พระองค์
อาจเห็
นว่
ครู
ศิ
ริ
อาวุ
โสกว่
าเพื่
อน” จึ
งรั
บสั่
งให้
เข้
าเฝ้
า พอหมอโทรมาบอกครู
ก็
ตกใจใหญ่
มะรื
นนี้
เข้
าเฝ้
าที่
หั
วหิ
น นอนไม่
หลั
บ ๓ วั
น แต่
พอไป
เฝ้
าแล้
วกลั
บดี
ได้
ตี
กรั
บถวาย พระองค์
ก็
โปรดเรี
ยกครู
เลย
ตรั
สว่
า “ถ้
าครู
ตายก็
สู
ญซิ
งั้
นสอนได้
มั้
ย” ครู
จึ
งรั
บว่
า “สอนได้
พุ
ทธเจ้
าค่
ะ” พอถวายงานเสร็
จเรี
ยบร้
อย ด้
วยความที่
อดนอนมา
หลายวั
น เลยเป็
นลม คลานออกมานอกห้
องเป็
นลมหงายท้
องเลย
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วทรงเสวยพระกระยาหารว่
างอยู่
ก็
ทรงทราบ จึ
งให้
ตามหมอ แป๊
บเดี
ยวมากั
นเป็
นกระบวนเลย
เครื่
องช่
วยหายใจอะไรต่
อมิ
อะไรพร้
อม ครู
นอนเป็
นลมอยู่
พอเห็
รถมาหายเป็
นปลิ
ดทิ้
งเลย (หั
วเราะ) เป็
นความรู้
สึ
กที่
ประทั
บใจ
ทรงโปรดผลงานของเรา ทรงทราบว่
าเราเป็
นกรั
บจริ
ง จึ
งทรงมี
พระเมตตา”
หลั
งจากนั้
นครู
จึ
งได้
เป็
นอาจารย์
พิ
เศษสอนวิ
ชาขยั
บกรั
ขั
บเสภา ตามพระราชดำริ
ในสมเด็
จพระเทพรั
ตนราชสุ
ดาฯ
สยามบรมราชกุ
มารี
ที่
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย นานถึ
ง ๑๗ ปี
พร้
อมกั
นนี้
ครู
ก็
ได้
ใช้
เวลานานถึ
ง ๑๐ ปี
ในการค้
นพบความลั
ของวิ
ธี
ขยั
บกรั
บให้
เป็
นแบบแผน พร้
อมทั้
งประดิ
ษฐ์
วิ
ธี
การ
ขยั
บกรั
บเสภาขั้
นพื้
นฐานสำหรั
บผู้
ฝึ
กหั
ดเบื้
องต้
นชื่
“ชมธรรมชาติ
ทำให้
การฝึ
กหั
ดตี
ได้
ง่
ายขึ้
น อี
กทั้
งคิ
ดค้
นวิ
ธี
ทำไม้
กรั
บให้
มี
เสี
ยง
ไพเราะด้
วย