Page 22 - may52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
20
วั
ฒนธรรมนอกตำรา
ารตี
กรั
บ”
ในสมั
ยโบราณถื
อว่
าเป็
นการขั
บเสนี
ยด
จั
ญไร ขณะเดี
ยวกั
นก็
นำความเป็
นมงคลมาสู่
ในสถานที่
นั้
น เช่
น เวลาพระเจ้
าอยู่
หั
วจะเสด็
จออก
ว่
าราชการ พนั
กงานจะไขพระวิ
สู
ตร (ม่
าน) แล้
วรั
วกรั
บ หรื
อเวลา
จะออกไปรบข้
าศึ
กก็
ตี
กรั
บ เพราะนอกจากจะเชื่
อว่
าเป็
นมงคลแล้
ยั
งพ้
องกั
บความหมายที่
ว่
“ไปตี
แล้
วกลั
บ”
ด้
วย สมั
ยก่
อน
ครู
บาอาจารย์
จะหวงวิ
ชานี้
มาก ส่
งผลให้
ปั
จจุ
บั
นวิ
ชาตี
กรั
บจึ
งแทบ
หายสาบสู
ญ แต่
ก็
ยั
งนั
บเป็
นโชคดี
ที่
ขณะนี้
เรามี
ครู
ศิ
ริ
วิ
ชเวช
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาศิ
ลปะการแสดง (คี
ตศิ
ลป์
) และนี่
จึ
งเป็
ที่
มาของการมาเยื
อนบ้
านท่
าน เพื่
อสั
มผั
สจิ
ตวิ
ญญาณของ
ดนตรี
ไทยที่
เก่
าแก่
และสื
บทอดกั
นมายาวนานจากบรรพบุ
รุ
พร้
อมเรี
ยนรู้
วิ
ธี
การที่
ครู
ศิ
ริ
ถ่
ายทอดภู
มิ
ปั
ญญานี้
สู่
ลู
กหลานไทย
เพื่
อให้
ดำรงอยู่
เป็
นมรดกของชาติ
สื
บไป…
ครู
ศิ
ริ
วิ
ชเวช
ปั
จจุ
บั
นอายุ
๗๖ ปี
เป็
นชาวกรุ
งเทพฯ
แต่
กำเนิ
ด ครู
เล่
าให้
ฟั
งถึ
งที่
มาของความหลงใหลในการร้
องและ
เล่
นดนตรี
ไทยว่
“ได้
ยิ
นมาตั้
งแต่
เกิ
ด เพราะคุ
ณพ่
อ (ฟุ้
ง วิ
ชเวช)
ซึ่
งแม้
เป็
นแพทย์
แผนโบราณ แต่
ว่
านิ
ยมการร้
องและเล่
นเพลงไทยเดิ
จนกระทั่
งมี
สงครามโลก โรงเรี
ยนปิ
ดไป ๒ ปี
ครอบครั
วต้
องไปอยู่
สื
บสานตำนานแห่
งการตี
กรั
บและขั
บเสภา
ตามแบบแผนโบราณ ณ บ้
านครู
ศิ
ริ
วิ
ชเวช
เยาวนิ
ศ เต็
งไตรรั
ตน์
...เรื่
อง
ชุ
มศั
กดิ์
หรั่
งฉายา...ภาพ
“ก
บ้
านสวนที่
บางโคล่
ละแวกนั้
นมี
วงปี่
พาทย์
พอรู้
ว่
าคุ
ณพ่
อเป็
ดนตรี
ไทยเค้
าก็
มาหา ขอเรี
ยน พ่
อก็
สอนให้
เขา เราก็
เลยต่
อด้
วย
ถึ
งเป็
นตั้
งแต่
อายุ
๑๒ ขวบ หั
ดจนสงครามเลิ
กพ่
อก็
ให้
หยุ
ดเล่
ดนตรี
เพราะพ่
อเห็
นว่
าเราชั
กเก่
งเกิ
นไป เอาระนาดทุ้
มมาผ่
าหมด
เลย...ก็
พ่
อเคยลำบากมาก่
อน ทั้
งตอนแอบไปเรี
ยนดนตรี
และตอน
ไปทำมาหากิ
น กลั
บมาดึ
กดื่
น ๒ ยาม ตี
๒ ไม่
อยากให้
เราลำบาก
อย่
างนั้
น…”
พ่
อของครู
เล่
าให้
ฟั
งว่
า “สมั
ยนั้
นที่
พ่
อไปหั
ดดนตรี
ปู่
ไม่
ให้
เข้
าบ้
านเลย เพราะปู่
จะให้
ลู
กทุ
กคนต้
องเรี
ยนทางแพทย์
แผนโบราณกั
บปู่
หมด วั
นนึ
พระยารามราฆพ
อยู่
กรมมหรสพ
หลวง สมั
ยรั
ชกาลที่
๖ มารั
กษากั
บปู่
พ่
อก็
แอบไปบอกอยากเรี
ยน
ปี่
พาทย์
ท่
านถามว่
า “ลู
กคุ
ณหมอบอกคุ
ณพ่
อหรื
อยั
ง?”
พ่
อรี
บบอก “อย่
าบอก อย่
าบอกผมแอบไปเรี
ยน” พอไปเรี
ยนก็
เก่
ตอนหลั
งปู่
รู้
ไล่
ออกจากบ้
านเลย พอดี
บ้
านเป็
นเรื
อนไทย ใต้
ถุ
สู
ง ปู่
อยู่
ข้
างบน ตอนดึ
ก ๆ พ่
อก็
แอบเข้
ามา (หั
วเราะ)
ครู
มนตรี
ตราโมท
เป็
นเพื่
อนรั
กของพ่
อ ตอนเช้
าก็
ถี
บจั
กรยาน
ครู
มนตรี
ซ้
อนท้
ายไปกรมมหรสพหลวงด้
วยกั
น ครู
มนตรี
ตี
ระนาด
พ่
อตี
ทุ้
ม ตี
ฆ้
อง เก่
งระดั
บนั้
น… มาตอนหลั
งจึ
งได้
ทิ้
งดนตรี
ไปเป็
นแพทย์
แผนโบราณตามที่
ปู่
อยากให้
เป็
…พอสงครามโลกจบ ครู
ก็
หยุ
ดเล่
นดนตรี
ไทยเลย ก็
กลั
มาเรี
ยน ม.๒ ที่
เทพศิ
ริ
นทร์
ต่
อ จนเข้
าธรรมศาสตร์
ซึ่
งก็
จะมี
การแสดงงิ้
วไทย ซึ่
งใช้
เพลงและวงดนตรี
ไทยเดิ
ม ทุ
กอย่
างพร้
อม
ขาดแต่
คนร้
อง ครู
เลยอาสาจะเป็
นนั
กร้
อง อาจารย์
ก็
ทำหนั
งสื
ไปถึ
งอธิ
บดี
กรมศิ
ลป์
ขอให้
ทางแผนกดนตรี
ไทยฝึ
กเด็
กคนนี้
และ
จึ
งได้
ถู
กส่
งตั
วไปหา
ครู
โชติ
ดุ
ริ
ยประณี
พอเห็
นนามสกุ
ลก็
ถาม
“เอ๊
ะ หนู
เป็
นอะไรกั
บพี่
ฟุ้
ง” ครู
ก็
ตอบว่
า “เป็
นลู
กครั
บ” เท่
านั้
นเอง