Page 41 - june52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
39
มี
อะไรบ้
างในพระราชบั
ญญั
ติ
นี้
?
เจตนารมณ์
สำคั
ญของกฎหมายที่
ควรทราบไว้
เป็
ประการแรก ปรากฏอยู่
ที่
หมายเหตุ
ท้
ายพระราชบั
ญญั
ติ
ซึ่
งระบุ
ข้
อความ (ที่
ผมขออนุ
ญาตจั
ดวรรคตอนใหม่
ให้
ง่
าย
ต่
อการอ่
านมากขึ้
น) ดั
งต่
อไปนี้
“เหตุ
ผลในการประกาศใช้
พระราชบั
ญญั
ติ
ฉบั
บนี้
คื
โดยที่
พระราชบั
ญญั
ติ
ภาพยนตร์
พุ
ทธศั
กราช
๒๔๗๓ ได้
บั
งคั
บใช้
มาเป็
นเวลานาน บทบั
ญญั
ติ
บางประการ
จึ
งไม่
เหมาะสมกั
บสถานการณ์
ในปั
จจุ
บั
น ซึ่
งเทคโนโลยี
ได้
มี
การพั
ฒนาไปอย่
างรวดเร็
ประกอบกั
บการตรวจพิ
จารณาภาพยนตร์
ในปั
จจุ
บั
อยู่
ในความรั
บผิ
ดชอบของหลายองค์
กร และมี
ความซ้
ำซ้
อน
กั
บพระราชบั
ญญั
ติ
ควบคุ
มกิ
จการเทปและวั
สดุ
โทรทั
ศน์
พ.ศ. ๒๕๓๐
ดั
งนั้
น เพื่
อปรั
บปรุ
งบทบั
ญญั
ติ
ตามกฎหมายว่
าด้
วย
ภาพยนตร์
และกฎหมายว่
าด้
วยการควบคุ
มกิ
จการเทป
และวั
สดุ
โทรทั
ศน์
ให้
สอดคล้
องกั
บสถานการณ์
ในปั
จจุ
บั
รวมทั้
งปรั
บปรุ
งระบบการตรวจพิ
จารณาภาพยนตร์
ให้
อยู่
ในความรั
บผิ
ดชอบขององค์
กรเดี
ยวเพื่
อลดความซ้
ำซ้
อน
ของการตรวจพิ
จารณา
ประกอบกั
บกิ
จการภาพยนตร์
ในปั
จจุ
บั
น มี
บทบาท
สำคั
ญต่
อการพั
ฒนาเศรษฐกิ
จและสั
งคมของประเทศ จำเป็
ต้
องได้
รั
บการส่
งเสริ
มอย่
างเป็
นรู
ปธรรม
จึ
งจำเป็
นต้
องตราพระราชบั
ญญั
ติ
นี้
เมื่
อรู้
เหตุ
ผลหรื
อที่
มาของพระราชบั
ญญั
ติ
นี้
แล้
สิ่
งที่
ควรรู้
ต่
อไปก็
คื
อ สาระในพระราชบั
ญญั
ติ
ซึ่
งปรากฏอยู่
ใน
หมวดที่
๑ ของพระราชบั
ญญั
ติ
ว่
า กฎหมายฉบั
บนี้
กำหนดให้
มี
“คณะกรรมการภาพยนตร์
และวี
ดิ
ทั
ศน์
แห่
งชาติ
ขึ้
นหนึ่
งคณะ
นี่
คื
“กรรมการหนั
ง”
ชุ
ดที่
หนึ่
กรรมการหนั
ง ชุ
ดนี้
เรี
ยกได้
ว่
าเป็
น คณะกรรมการ
ชุ
ดใหญ่
เพราะมี
นายกรั
ฐมนตรี
เป็
นประธานกรรมการ
และมี
รั
ฐมนตรี
อี
ก ๒ กระทรวง เป็
นรองประธาน จากนั้
มี
ปลั
ดสำนั
กนายกรั
ฐมนตรี
และปลั
ดกระทรวงอี
ก ๖ กระทรวง
ผู้
บั
ญชาการตำรวจแห่
งชาติ
เลขาธิ
การคณะกรรมการ
คุ้
มครองผู้
บริ
โภค เลขาธิ
การคณะกรรมการส่
งเสริ
มการ
ลงทุ
น ผู้
แทนกระทรวงกลาโหม ผู้
แทนกระทรวงเทคโนโลยี
œ
และผู้
ทรงคุ
ณวุ
ฒิ
ที่
รั
ฐมนตรี
แต่
งตั้
งอี
ก ๑๑ คน ซึ่
งมี
ที่
มาจาก
ทั้
งภาครั
ฐและเอกชน รวมทั้
งชุ
ดเป็
นคนใหญ่
คนโตเกื
อบ ๓๐
คน เป็
นคณะกรรมการชุ
ดนี้
ผมเป็
นหนึ่
งใน
“กรรมการผู้
ทรงคุ
ณวุ
ฒิ
ที่
ได้
รั
การแต่
งตั้
งโดยรั
ฐมนตรี
ในฐานะที่
เคยร่
วมคิ
ด ร่
วมทำ ร่
วมรู้
ร่
วมเห็
นในความพยายามที่
จะปรั
บปรุ
งกฎหมายหนั
งนี้
มาก่
อน
เมื่
อ ๒๐ ปี
ที่
แล้
ว ซึ่
งโชคดี
ที่
ยั
งมี
ผู้
ใหญ่
รู้
ประวั
ติ
และเห็
นผลงาน
ผมจึ
งได้
รั
บการเสนอชื่
อ และผ่
านการพิ
จารณา
มี
“กรรมการหนั
ง”
ชุ
ดใหญ่
นี้
แล้
ว พระราชบั
ญญั
ติ
ฉบั
บนี้
ยั
งห่
วงใยว่
าการส่
งเสริ
มและกำกั
บดู
แลอุ
ตสาหกรรม
หนั
งของประเทศไทยยั
งไม่
แน่
นหนาพอ พระราชบั
ญญั
ติ
นี้
จึ
งกำหนดให้
มี
กรรมการอี
กสองชุ
ด เรี
ยกว่
“กรรมการ
พิ
จารณาภาพยนตร์
และวี
ดิ
ทั
ศน์
ซึ่
งรั
ฐมนตรี
แต่
งตั้
ตามข้
อเสนอของคณะกรรมการหนั
งชุ
ดใหญ่
ให้
มาร่
วมกั
ทำงาน