วารสารวั
ฒนธรรมไทย
33
ทั้
งทางด้
านศาสนาและความเชื่
อทำให้
เกิ
ดการเสื่
อมถอยลง เช่
น
ในบางพื้
นที่
ทำเพื่
อขอฝนจริ
ง ๆ แต่
ในบางพื้
นที่
ก็
ทำเพื่
อดึ
งดู
ด
นั
กท่
องเที่
ยวทั้
งชาวไทยและชาวต่
างชาติ
ให้
มาท่
องเที่
ยว มี
ขบวนแห่
ประกอบด้
วยนางรำและการละเล่
นต่
าง ๆ ซึ่
งผิ
ดจากในอดี
ตที่
ทำขึ้
น
เพื่
อขอฝนจริ
ง ๆ ส่
วนรู
ปแบบการจั
ดงานก็
มี
การเปลี่
ยนแปลงไป
จากอดี
ตอย่
างมาก เช่
น วั
สดุ
อุ
ปกรณ์
ที่
ใช้
การตกแต่
ง การจุ
ดบั้
งไฟ
กิ
จกรรมการแสดง และกฎเกณ±์
ต่
าง ๆ เนื่
องจากวั
ตถุ
ดิ
บและวั
สดุ
ในท้
องถิ่
นหายาก จึ
งหั
นมาใช้
เทคโนโลยี
สมั
ยใหม่
แทนวิ
ธี
การทำแบบ
ดั้
งเดิ
ม นอกจากนี้
ผลของการเปลี่
ยนแปลงจากยุ
คโลกาภิ
วั
ตน์
ยั
งเป็
น
สิ่
งที่
ชี้
ให้
เห็
นถึ
งแนวโน้
มการดำรงอยู่
ที่
มี
ความจำเป็
นและมี
ความสำคั
ญ
มากก็
คื
อ
การพนั
นขั
นแข่
ง
ที่
นั
บวั
นจะกลายเป็
นการแข่
งขั
น
เพื่
อชิ
งดี
ชิ
งเด่
นกั
น เพื่
อให้
สามารถครองความเป็
นหนึ่
งได้
หลายสมั
ย
ยิ่
งมากเท่
าไหร่
ก็
ทำให้
เกิ
ดความภาคภู
มิ
ใจมากขึ้
นเท่
านั้
น ด้
านความเชื่
อ
ความศรั
ทธา ค่
านิ
ยมของชุ
มชนที่
มี
ผลกระทบในด้
านบวกและ
ด้
านลบนั้
น ซึ่
งปั
จจั
ยทางด้
านลบจะเห็
นได้
ว่
าการทำบั้
งไฟเป็
นการลงทุ
น
บางครั้
งทุ
นที่
เกิ
ดจากการเรี่
ยไรเงิ
นของชาวบ้
านเป็
นจำนวนมาก
เอามาทำบั้
งไฟเพื่
อการแข่
งขั
น แต่
ถ้
ามองถึ
งประโยชน์
ที่
จะได้
รั
บ ถื
อว่
า
ไม่
ได้
ประโยชน์
เลย แถมสิ่
งที่
แอบแฝงอยู่
ในประเพณี
นี้
ในปั
จจุ
บั
นคื
อ
การเล่
นพนั
นแข่
งขั
น การชิ
งดี
ชิ
งเด่
นของชาวบ้
านแต่
ละกลุ่
ม ส่
วนผล
กระทบทางด้
านบวกนั้
น คื
อ สามารถดำรงประเพณี
ให้
คงอยู่
กั
บท้
องถิ่
น
เพื่
อเป็
นศู
นย์
รวมจิ
ตใจของชาวบ้
านในชุ
มชนต่
อไป นอกจากนี้
ยั
งส่
งผล
ให้
เกิ
ดการท่
องเที่
ยวทำให้
เศรษฐกิ
จในชุ
มชนนั้
น ๆ มี
สภาพที่
ดี
ขึ้
น
ประเพณี
แซนโดนตา
เป็
นประเพณี
การเซ่
นผี
บรรพบุ
รุ
ษ
ของชนชาวเขมรในเขตพื้
นที่
อี
สานใต้
ได้
แก่
จั
งหวั
ดศรี
สะเกษ จั
งหวั
ด
สุ
ริ
นทร์
และบุ
รี
รั
มย์
ในช่
วงเดื
อน ๑๐ ของทุ
กปี
ในสมั
ยก่
อนเชื่
อว่
า
ลู
กหลานจะต้
องทำบุ
ญในวั
นแซนโดนตาเพื่
อให้
บรรพบุ
รุ
ษผู้
ล่
วงลั
บ
ได้
กิ
น ถ้
าไม่
ทำบรรพบุ
รุ
ษจะไม่
ได้
กิ
นและจะต้
องดู
ผู้
อื่
นที่
ลู
กหลาน
ทำบุ
ญไปให้
และจะถู
กสาปแช่
ง แต่
ถ้
าทำทุ
กขั้
นตอนอย่
างถู
กต้
อง
ก็
จะได้
รั
บการอวยพร ทำให้
มี
ความสุ
ขความเจริ
ญรุ่
งเรื
องในชี
วิ
ตต่
อไป
ซึ่
งความเชื่
อเหล่
านี้
จะได้
รั
บการปลู
กฝั
งจากพ่
อแม่
ปู่
ย่
า ตายายของตน
มาตั้
งแต่
เด็
ก ๆ จึ
งเป็
นการซึ
มซั
บเข้
าไปในจิ
ตใจ ซึ่
งทุ
กคนมี
ความเชื่
อว่
า
การประกอบพิ
ธี
กรรมแซนโดนตา เป็
นการแสดงความกตั
ญêู
กตเวที
ต่
อบรรพบุ
รุ
ษผู้
มี
พระคุ
ณ ด้
วยเหตุ
นี้
จึ
งทำให้
ประเพณี
แซนโดนตา
ในปั
จจุ
บั
น มี
แนวโน้
มการดำรงอยู่
ทั้
งในด้
านความเชื่
อ ความศรั
ทธา
ค่
านิ
ยม องค์
ประกอบพิ
ธี
กรรม และขั้
นตอนในการประกอบพิ
ธี
กรรม
จึ
งสรุ
ปได้
ว่
า ชาวบ้
านภู
มิ
ขนุ
น ตำบลโสน อำเภอขุ
ขั
นธ์
จั
งหวั
ด
ศรี
สะเกษ ยั
งมี
การปฏิ
บั
ติ
สื
บทอดประเพณี
แซนโดนตาอย่
างมี
ความ
สมบู
รณ์
ครบถ้
วนทุ
กประการ ถู
กต้
องตามพิ
ธี
กรรมที่
มี
มาเนิ่
นนาน
ตั้
งแต่
โบราณกาล ซึ่
งเป็
นความเชื่
อที่
เก่
าแก่
และปฏิ
บั
ติ
ต่
อกั
นมา
จนถึ
งปั
จจุ
บั
น ชาวบ้
านเชื่
อว่
าประโยชน์
ที่
ได้
รั
บจากการปฏิ
บั
ติ
ตาม
ประเพณี
นี้
ทำให้
ชนรุ่
นหลั
งมี
ความกตั
ญêู
ต่
อผู้
มี
พระคุ
ณ มี
การสื
บสาน
พระพุ
ทธศาสนา มี
จารี
ตประเพณี
และวั
ฒนธรรมที่
ดี
งาม เครื่
อง
เซ่
นไหว้
หลั
ก คื
อ ข้
าวต้
มมั
ด ซึ่
งทำมาจากผลิ
ตภั
ณ±์
จากต้
นกล้
วย
ในเทศกาลนี้
จะมี
การใช้
กล้
วยเป็
นจำนวนมากจนทำให้
ส่
วนราชการของ
อำเภอขุ
ขั
นธ์
ได้
จั
ดงานประเพณี
กล้
วยแสนหวี
ประเพณี
แซนโดนตาขึ้
น
ส่
วน
ประเพณี
บุ
ญบั้
งไฟ
สรุ
ปได้
ว่
าในยุ
คสมั
ยปั
จจุ
บั
น
มี
แนวโน้
มในการดำรงอยู่
เพราะว่
าประเพณี
บุ
ญบั้
งไฟเป็
นมรดก
ของแผ่
นดิ
นที่
บรรพบุ
รุ
ษชาวอี
สานสร้
างขึ้
นเพื่
อช่
วยแก้
ไขปั
ญหา
ด้
านเศรษฐกิ
จและสั
งคมให้
แก่
ชาวบ้
านมาตั้
งแต่
สมั
ยโบราณจนกระทั่
ง
ถึ
งปั
จจุ
บั
นอย่
างปฏิ
เสธไม่
ได้
เพราะถ้
าหากว่
าท้
องถิ่
นมี
ความ
อุ
ดมสมบู
รณ์
มี
เศรษฐกิ
จที่
ดี
ความเป็
นปñ
กแผ่
นก็
จะเกิ
ดขึ้
นในสั
งคม
เพราะเป็
นการสร้
างความรั
กความสามั
คคี
ให้
เกิ
ดขึ้
นในหมู่
บ้
าน การที่
ชาวบ้
านได้
มาช่
วยกั
นทำบุ
ญบั้
งไฟ นอกจากจะเกิ
ดความสนุ
กสนาน
รื่
นเริ
งแล้
ว ยั
งเกิ
ดความร่
วมแรงร่
วมใจในการทำงานร่
วมกั
น ถื
อได้
ว่
า
ประเพณี
บุ
ญบั้
งไฟเป็
นศู
นย์
รวมจิ
ตใจของชาวบ้
าน และเป็
นศู
นย์
กลาง
เชื่
อมโยงระหว่
างประเพณี
พิ
ธี
กรรมกั
บพุ
ทธศาสนาอี
กด้
วย
ดั
งนั้
นการศึ
กษาวิ
จั
ยเรื่
องผลกระทบการเปลี่
ยนแปลง
ของสั
งคมไทยที่
มี
ต่
อประเพณี
ท้
องถิ่
นในเขตอี
สานใต้
ทำให้
เราได้
พบว่
า
การเปลี่
ยนแปลงของโลกยุ
คโลกาภิ
วั
ตน์
หรื
อยุ
คข้
อมู
ลข่
าวสารนั้
น
มี
ผลกระทบทั้
งด้
านบวกและด้
านลบ ถึ
งแม้
ว่
าสั
งคมไทยของเรานั้
น
จะได้
รั
บผลกระทบจากการเปลี่
ยนแปลงของโลกอย่
างหลี
กเลี่
ยงไม่
ได้
แต่
เราก็
พยายามที่
จะผสมผสาน ปรั
บปรุ
งให้
เหมาะสมกั
บสภาพ
แวดล้
อม และวิ
ถี
ชี
วิ
ตของคนในสั
งคม ซึ่
งทุ
กภาคส่
วนในสั
งคมจะต้
อง
ร่
วมมื
อกั
นวางรากฐานแนวทางของการนำมาปรั
บใช้
ให้
เหมาะสม
โดยเฉพาะหน่
วยงานราชการที่
เกี่
ยวข้
องจะต้
องให้
ความรู้
และแนวทาง
การรั
บมื
อต่
อการเปลี่
ยนแปลงของโลกแก่
ประชาชนด้
วย โดยเฉพาะ
เยาวชนรุ่
นหลั
งที่
เราจะต้
องปลู
กฝั
งให้
ตระหนั
กในคุ
ณค่
า และสร้
าง
ความภาคภู
มิ
ใจในการหวงแหน อนุ
รั
กษ์
และสื
บทอดขนบธรรมเนี
ยม
ประเพณี
วั
ฒนธรรมไทยที่
ดี
งามของเราไว้
ให้
สามารถดำรงอยู่
ได้
ต่
อไป
ในอนาคต
ข้
อมู
ลจากรายงานการวิ
จั
ย เรื่
อง ผลกระ∑บ
การเปลี่
ยน·ปลงของสั
งคมไ∑ย∑ี่
มี
ต่
อประเพณี
∑้
องถิ่
นในเขตอี
สานใต้
‚ดย...ผู้
ช่
วย»าสตราจารย์
ดร.»ิ
ราณี
จÿ
‚±ปะมา
·ละ ดร.»ÿ
¿มา» »รี
วง»์
พÿ
ก
รายงานการวิ
จั
ยนีÈ
ได้
รั
บ∑ÿ
นอÿ
ดหนÿ
นการวิ
จั
ย
จากสำนั
กงานคณะกรรมการวั
≤น∏รรม·ห่
งชาติ