วารสารวั
ฒนธรรมไทย
18
วั
ฒนธรรม¿า…า
ศาสตราจารยå
ดร.รืË
นƒ∑ั
ย สั
จจพั
น∏ุå
...เรืË
อง
µ—È
ß™◊Ë
ÕÀπ—
ß ◊
Õ
ารตั้
งชื่
อหนั
งสื
อนั
บว่
าเป็
นศิ
ลปะอย่
างหนึ่
ง เพราะ
ชื่
อหนั
งสื
อควรจะต้
องบอกทิ
ศทางของหนั
งสื
อไว้
เป็
นนั
ย ๆ ว่
าเป็
นเรื่
องเกี่
ยวกั
บอะไร นอกจากนี้
ควรจะเป็
นชื่
อที่
สะดุ
ดความสนใจใคร่
รู้
จนอยากเปิ
ดอ่
านเนื้
อใน
วรรณคดี
ไทยสมั
ยก่
อนมั
กตั้
งชื่
อตามชื่
อตั
วละครเอกฝ่
ายชาย
เช่
น
รามเกี
ยรติÏ
อิ
เหนา พระอภั
ยมณี
สั
งขå
∑อง ขุ
นช้
างขุ
นแºน
ลิ
ลิ
ตพระลอ
ฯลฯ นาน ๆ จะมี
ชื่
อเรื่
องที่
ตั้
งตามชื่
อนางเอก เช่
น
ม‚นหå
รา แก้
วหน้
าม้
า ‚สนน้
อยเรื
อนงาม ศกุ
นตลา สาวิ
ตรี
ฯลฯ
ซึ่
งเป็
นที่
เข้
าใจได้
ว่
าเพราะตั
วละครผู้
หญิ
งไม่
มี
บทบาทเด่
นเท่
า
ตั
วละครผู้
ชาย เนื่
องมาจากสั
งคมไทยสมั
ยก่
อนยั
งไม่
เห็
นคุ
ณค่
า
ของผู้
หญิ
งเท่
ากั
บผู้
ชาย
ั้
ื่
ั
ื
ั
่
็
ิ
่
ึ่
ื่
ั
ื
้
ิ
ั
ื
้
็
ั
่
็
ื่
ี่
ั
ี้
็
ื่
ี่
ุ
่
ู้
ิ
่
ื้
°
ในสมั
ยรั
ชกาลพระบาทสมเด็
จพระมงกุ
ฎเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว
ซึ่
งรั
บวั
ฒนธรรมหนั
งสื
อจากตะวั
นตกเข้
ามาแล้
ว มี
การตั้
งชื่
อเรื่
อง
ที่
แสดงแก่
นเรื่
องมากขึ้
น เช่
น พระราชนิ
พนธ์
เรื่
อง
มั
∑นะพา∏า
เห็
นแกà
ลู
ก หั
ว„จนั
กร∫ เมื
อง‰∑ยจงตืË
นเ∂ิ
ด ‚§ลนติ
ดล้
อ
ฯลฯ
เมื่
อมี
ความนิ
ยมในการแต่
งและอ่
านบั
นเทิ
งคดี
สมั
ยใหม่
คื
อ
เรื่
องสั้
น นวนิ
ยายมากขึ้
น ผู้
ประพั
นธ์
ได้
คิ
ดตั้
งชื่
อเรื่
องที่
บอกนั
ย
เกี่
ยวกั
บเนื้
อเรื่
องหรื
อแก่
นเรื่
อง ซึ่
งเชิ
ญชวนให้
ผู้
อ่
านสนใจอย่
างยิ่
ง
เช่
น
ละ§รแหà
งชี
วิ
ต ºิ
วเหลื
องหรื
อºิ
วขาว
ของ หม่
อมเจ้
าอากาศ
ดำเกิ
ง รพี
พั
ฒน์
ºู้
ดี
หน÷Ë
ง„นร้
อย ศั
ตรู
ของเจ้
าหลà
อน ชั
ยชนะ
ของหลวงนƒ∫าล
ของ ดอกไม้
สด
ห≠ิ
ง§นชัË
ว ∫้
าน∑ราย∑อง
ของ
ก.สุ
รางคนางค์
ลู
กºู้
ชาย ข้
างหลั
งภาพ จนกวà
าเราจะพ∫กั
นอี
ก
แล‰ปข้
างหน้
า
ของ ศรี
บู
รพา
ºู้
ชนะสิ
∫∑ิ
ศ
ของ ยาขอบ
ขุ
นศ÷
ก
แºลเกà
า ∫างระจั
น
ของ ไม้
เมื
องเดิ
ม เป็
นต้
น
นั
กประพั
นธ์
บางคนตั้
งใจเลื
อกใช้
ถ้
อยคำที่
มี
ซั
บซ้
อน
เพื่
อบอกนั
ยเกี่
ยวกั
บแนวคิ
ดสำคั
ญของเรื่
อง กฤษณา อโศกสิ
น
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
สาขาวรรณศิ
ลปá
พ.ศ. ๒๕๓๑ พิ
ถี
พิ
ถั
นกั
บการ
ตั้
งชื่
อเรื่
องอย่
างยิ่
ง นวนิ
ยายหลายเรื่
องมี
ชื่
อเรื่
องที่
มี
ลั
กษณะ
เป็
นคำประสมแบบปฏิ
พจน์
(oxymoron) คื
อนำคำที่
มี
ความหมาย
ตรงกั
นข้
ามมาประสมเป็
นคำเดี
ยวกั
น ทำให้
มี
ความหมายแย้
งกั
น
ขณะเดี
ยวกั
นก็
ขยายความเสริ
มรั
บกั
นและกั
น เช่
น เรื่
อง
‰øหนาว
คำว่
า
‰ø
แสดงถึ
งความร้
อน ตรงกั
นข้
ามกั
บคำว่
า
หนาว
เมื่
อประสมกั
นเป็
นคำว่
า
‰øหนาว
มี
ความหมายว่
ากิ
เลสร้
อนแรง
ที่
เผาผลาญทำลายจนโดดเดี่
ยวและเหน็
บหนาว เรื่
อง
นÈ
ำº÷È
งขม
คำว่
า
นÈ
ำº÷È
ง
แสดงความหวาน ขั
ดแย้
งกั
บคำว่
า
ขม
เมื่
อนำมา