Page 12 - june52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
10
รâ
Õย‡ร◊Ë
Õßวั
นส”§ั
ทหารบก ต่
อมาพระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว ทรงจั
ดตั้
กระทรวงธรรมการ (มี
หน้
าที่
ดู
แลเกี่
ยวกั
บกิ
จการของสง¶์
และ
การศึ
กษาโดยทั่
วไป) พระองค์
ทรงได้
รั
บการแต่
งตั้
งให้
เป็
นอธิ
บดี
กระทรวงธรรมการ ทรงรั
บราชการเป็
นที่
พอพระทั
ย พระบาทสมเด็
พระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว จึ
งโปรดเกล้
าฯ ให้
ดำรงตำแหน่
งเสนาบดี
กระทรวงมหาดไทยเป็
นเวลานานถึ
ง ๒๓ ปี
จากนั้
นได้
ทรงลาออก
ด้
วยเหตุ
ประชวรจนพระวรกายทรุ
ดโทรม เมื่
อทรงรั
กษาพระวรกาย
จนหายเป็
นปกติ
แล้
ว จึ
งทรงกลั
บเข้
ารั
บราชการอี
กครั้
งในตำแหน่
เสนาบดี
กระทรวงมุ
รธาธร (มี
หน้
าที่
เกี่
ยวกั
บงานพระราชพิ
ธี
ต่
าง ๆ
ในพระราชสำนั
ก)
ในปี
พ.ศ. ๒๔๖๘ ในสมั
ยพระบาทสมเด็
จพระปกเกล้
เจ้
าอยู่
หั
ว (รั
ชกาลที่
๗) ทรงก่
อตั้
งราชบั
ณฑิ
ตยสภาขึ้
น จึ
งโปรดเกล้
าฯ
ให้
สมเด็
จพระเจ้
าบรมวงศ์
เธอ กรมพระยาดำรงราชานุ
ภาพ ดำรง
ตำแหน่
งนายกราชบั
ณฑิ
ตยสภาพระองค์
แรก โดยมี
หน้
าที่
เกี่
ยวกั
หอสมุ
ดพระนครและพิ
พิ
ธภั
ณฑสถาน
ต่
อมาพระองค์
ได้
รั
พระราชทานพระอิ
สริ
ยยศพระบรมวงศ์
เป็
“สมเดÁ
จพระเจ้
า-
บรมวงศ์
เธอ กรมพระยาดำรงราชานุ
ภาพ”
ในปี
พ.ศ. ๒๔๗๒
นั
บว่
าเป็
นตำแหน่
งที่
สู
งที่
สุ
ดสำหรั
บพระบรมวงศานุ
วงศ์
สมเด็
จพระเจ้
าบรมวงศ์
เธอ กรมพระยาดำรงราชานุ
ภาพ
ทรงประกอบพระราชกรณี
ยกิ
จในด้
านต่
าง ๆ ที่
สำคั
ญยิ่
งต่
อบ้
านเมื
อง
ทรงเป็
นกำลั
งสำคั
ญในการบริ
หารและพั
ฒนาประเทศหลายด้
าน
ทรงเป็
นที่
ไว้
วางพระราชหฤทั
ยในพระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล้
เจ้
าอยู่
หั
วเป็
นอย่
างมาก สามารถประจั
กษ์
ได้
จากพระราชกรณี
ยกิ
จในด้
าน
ต่
าง ๆ ของพระองค์
ที่
แสดงให้
เห็
นถึ
งพระอั
จฉริ
ยภาพอั
นสู
งส่
ง อาทิ
ด้
านการศึ
กษา
แม้
ว่
าพระองค์
จะทรงปฏิ
บั
ติ
หน้
าที่
ด้
าน
การศึ
กษาแค่
ช่
วงระยะเวลาสั้
น ๆ (ประมาณ ๓ ปี
) แต่
พระองค์
ทรงมี
พระดำริ
ริ
เริ่
มเป็
นเยี่
ยมในพระกรณี
ยกิ
จหลายประการ อาทิ
- ทรงเริ่
มงานจั
ดการศึ
กษาเป็
นครั้
งแรก โดยเปลี่
ยน
โรงเรี
ยนทหารมหาดเล็
ก ซึ่
งเป็
นโรงเรี
ยนฝñ
กสอนวิ
ชาทหารมาเป็
โรงเรี
ยนสำหรั
บพลเรื
อน คื
อ โรงเรี
ยนพระตำหนั
กสวนกุ
หลาบ
และพระองค์
ทรงดำรงตำแหน่
งผู้
จั
ดการโรงเรี
ยน
- ทรงวางระเบี
ยบการบริ
หารราชการของกรมและโรงเรี
ยน
อาทิ
ทรงวางระเบี
ยบข้
อบั
งคั
บตำแหน่
งหน้
าที่
เสมี
ยน พนั
กงานในการ
รั
บราชการ การเลื่
อนตำแหน่
ง ลาออก ลงโทษ เป็
นต้
- ทรงขยายการศึ
กษาโดยอาศั
“วั
ด”
เป็
นสถานที่
ถ่
ายทอดความรู้
และอบรมศี
ลธรรมให้
แก่
ราษฎร ทรงปรั
บปรุ
งหลั
กสู
ตร
๒๑ มิ
ถุ
นายน
วั
นดำรงราชานุ
ภาพ
ถุ
ขุ
นเอม...เรืË
อง
วั
นดำรงราชานุ
ภาพ
คื
อ วั
นที่
รำลึ
กถึ
งสมเด็
พระเจ้
าบรมวงศ์
เธอ กรมพระยาดำรงราชานุ
ภาพ ซึ่
เป็
นวั
นคล้
ายวั
นประสู
ติ
ของพระองค์
ตรงกั
บวั
นที่
๒๑
มิ
ถุ
นายน พ.ศ. ๒๔๐๕ เนื่
องจากทรงเป็
นกำลั
งสำคั
ของพระบาทสมเด็
จพระจุ
ลจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว (รั
ชกาลที่
๕)
ในการพั
ฒนาประเทศให้
ได้
รั
บความเจริ
ญก้
าวหน้
าในทุ
กด้
าน อาทิ
ด้
านการปกครอง การศึ
กษา และการสาธารณสุ
สมเด็
จพระเจ้
าบรมวงศ์
เธอ กรมพระยาดำรงราชานุ
ภาพ
ทรงเป็
นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็
จพระจอมเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
(รั
ชกาลที่
๔) และเจ้
าจอมมารดาชุ่
ม ธิ
ดาพระอั
พภั
นตริ
กามาตย์
(ดิ
ศ) ต้
นสกุ
ล “โรจนดิ
ศ” พระองค์
ทรงเริ่
มการศึ
กษาโดยเรี
ยน
ภาษาไทยชั้
นต้
นจากสำนั
กคุ
ณแสงและคุ
ณปาน ราชนิ
กุ
ล ในพระบรม-
มหาราชวั
ง ทรงศึ
กษาภาษาบาลี
ในสำนั
กพระยาปริ
ยั
ติ
ธรรมธาดา
(เปีò
ยม) และหลวงธรรมานุ
วั
ติ
จำนง (จุ้
ย) ทรงศึ
กษาภาษาอั
งกฤษ
ในโรงเรี
ยนหลวง ซึ่
งมี
มิ
สเตอร์
ฟรานซิ
น ยอร์
ช แพตเตอร์
สั
เป็
นพระอาจารย์
ต่
อมาทรงศึ
กษาวิ
ชาทหารในสำนั
กหลวงรั
ฐรณยุ
ทธ์
เมื่
อพระองค์
พระชนมายุ
ได้
๑๔ พรรษา ทรงเข้
ารั
บการศึ
กษาที่
โรงเรี
ยนนายร้
อย กรมทหารมหาดเล็
เมื่
อทรงสำเร็
จการศึ
กษาแล้
ว พระองค์
ทรงเข้
ารั
บราชการ
เป็
นทหารในตำแหน่
งนายร้
อยตรี
บั
งคั
บกองแตรวง กองทหาร
มหาดเล็
ก จากนั้
นทรงได้
รั
บการเลื่
อนตำแหน่
งเป็
นผู้
ช่
วยผู้
บั
ญชาการ