Page 11 - june52

Basic HTML Version

วารสารวั
ฒนธรรมไทย
พร ะบาทสม เ ด็
จพร ะปร เ มนทรมหา อ านั
นทมหิ
ดล
ทรงปฏิ
บั
ติ
พระราชกรณี
ยกิ
จในฐานะพระมหากษั
ตริ
ย์
ในระบอบ
ประชาธิ
ปไตยภายใต้
บทบั
ญญั
ติ
แห่
งรั
ฐธรรมนู
ญ พระองค์
โปรด
ที่
จะเสด็
จฯ เยี่
ยมเยี
ยนราษฎรพร้
อมด้
วยสมเด็
จพระอนุ
ชา ทรงเอา
พระทั
ยใส่
ประชาชน โดยทรงมี
พระราชดำรั
สถามถึ
งทุ
กข์
สุ
ขความ
เป็
นอยู่
การทำมาหากิ
นด้
วยพระราชปิ
ยวาจาและสี
พระพั
กตร์
ที่
เปี่
ยม
ด้
วยพระเมตตา ทรงเป็
นกั
นเอง และทรงเรี
ยกประชาชนที่
มาเฝ้
าว่
ลุ
ง ป้
า น้
า อา ทำให้
ราษฎรที่
มี
โอกาสได้
เข้
าเฝ้
าอย่
างใกล้
ชิ
ด และมี
พระราชปฏิ
สั
นถารด้
วย พากั
นปลื้
มปี
ติ
เป็
นล้
นพ้
น สำหรั
บพระราชกรณี
ยกิ
ที่
สำคั
ญของพระบาทสมเด็
จพระปรเมนทรมหาอานั
นทมหิ
ดล อาทิ
ด้
านการทำนุ
บำรุ
งประเทศ
พระองค์
ทรงพระกรุ
ณา
โปรดเกล้
าฯ ให้
เริ่
มงานชลประทานในภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
พร้
อมกั
น ๘ โครงการ เมื่
อ พ.ศ. ๒๔๘๒ ตลอดจนมี
การสร้
างโครงการ
แม่
แฝก โครงการปิ
งเก่
าขึ้
นในจั
งหวั
ดลำพู
น และโครงการนครนายก
ในภาคกลาง มี
การตั
ดถนนเพื่
อประโยชน์
ทางคมนาคมและขนส่
ไปยั
งจั
งหวั
ดต่
าง ๆ การก่
อสร้
างอาคารสำหรั
บกระทรวง ทบวง กรม
การขยายกิ
จการรถไฟและการคมนาคมทางอากาศ การส่
งเสริ
มอาชี
ต่
าง ๆ ของราษฎร
ด้
านการศึ
กษา
ได้
มี
การขยายกิ
จการทางการศึ
กษาใน
จุ
ฬาลงกรณ์
มหาวิ
ทยาลั
ย ให้
มี
วิ
ชาชี
พชั้
นสู
งหลายสาขาขึ้
น การจั
ดตั้
โรงเรี
ยนคนหู
หนวกและตาบอด การเปิ
ดมหาวิ
ทยาลั
ยศิ
ลปากร
มหาวิ
ทยาลั
ยเกษตรศาสตร์
การจั
ดตั้
งวิ
ทยาลั
ยเทคนิ
ค การจั
ดตั้
โรงเรี
ยนทดลองอบรมวิ
ชาการศึ
กษาแผนใหม่
การสนั
บสนุ
นโครงการ
และนโยบายขององค์
การศึ
กษาของสหประชาชาติ
การขยายการศึ
กษา
ขั้
นสามั
ญศึ
กษา วิ
สามั
ญศึ
กษา และอาชี
พศึ
กษาออกไปทั่
วประเทศ
ด้
านการรั
กษาความสงบเรี
ยบร้
อย
ทั้
งภายในและ
ภายนอกประเทศได้
มี
การปรั
บปรุ
งกิ
จการตำรวจให้
มี
ความเจริ
ญก้
าวหน้
และทั
นสมั
ย พร้
อมทั้
งได้
ส่
งเสริ
มบำรุ
งกำลั
งรบทั้
งกองทั
พบก กองทั
เรื
อ และกองทั
พอากาศ การจั
ดหาเครื่
องอาวุ
ธยุ
ทโธปกรณ์
ที่
ทั
นสมั
ย การจั
ดตั้
งหน่
วยฝึ
กยุ
วชนทหาร การขยายกิ
จการ
ทางด้
านโรงเรี
ยนนายทหารให้
มี
สมรรถภาพและกว้
างขวางยิ่
งขึ้
การพระราชทานวิ
นิ
จฉั
ยรั
ฐธรรมนู
ญแห่
งราชอาณาจั
กรไทย ฉบั
บวั
นที่
๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๙ ที่
ใช้
เป็
นหลั
กในการปกครองประเทศและ
การแก้
ไขปั
ญหาความขั
ดแย้
งระหว่
างชาวไทยและชาวจี
นในย่
านสำเพ็
ด้
านกิ
จการต่
างประเทศ
ได้
มี
การเจรจาแก้
ไขสนธิ
สั
ญญา
กั
บนานาชาติ
ให้
มี
เอกราชในทางศาสนาสมบู
รณ์
ขึ้
น จากเดิ
มที่
ต้
อง
เสี
ยเปรี
ยบชาติ
อื่
น ๆ ต่
อมาได้
ทำสนธิ
สั
ญญาทางไมตรี
การพาณิ
ชย์
และ
การเดิ
นเรื
อกั
บนานาชาติ
ซึ่
งต่
างมี
การถ้
อยที
ถ้
อยอาศั
ยกั
นเป็
นอย่
างดี
และได้
ดำเนิ
นการเจรจาปรั
บปรุ
งเส้
นเขตแดนให้
เป็
นที่
ชั
ดแจ้
งกั
นานาชาติ
ที่
อยู่
ติ
ดต่
อใกล้
เคี
ยงกั
บดิ
นแดนไทยได้
เป็
นที่
เรี
ยบร้
อย
พระบาทสมเด็
จพระปรเมนทรมหาอานั
นทมหิ
ดล รั
ชกาลที่
ได้
ทรงปฏิ
บั
ติ
พระราชกรณี
ยกิ
จอย่
างเหน็
ดเหนื่
อยตรากตรำจนไม่
ค่
อย
มี
เวลาได้
ทรงพั
กผ่
อน จนถึ
งกั
บทรงพระประชวรเกี่
ยวกั
บพระนาภี
อาหารไม่
ย่
อย จึ
งต้
องทรงงดพระราชกรณี
ยกิ
จต่
าง ๆ ในเวลาต่
อมา
พระบาทสมเด็
จพระปรเมนทรมหาอานั
นทมหิ
ดล ทรง
ครองราชสมบั
ติ
ตั้
งแต่
ปี
พ.ศ. ๒๔๗๗ และสวรรคตในปี
พ.ศ. ๒๔๘๙
ขณะพระองค์
มี
พระชนมพรรษาได้
๑๙ พรรษา สิ
ริ
ครองราชย์
ได้
๑๒ ปี
สมเด็
จพระอนุ
ชาธิ
ราชได้
เสด็
จเถลิ
งถวั
ลยราชสมบั
ติ
สื
บต่
อ โดยทรง
พระนามว่
พระบาทสมเด็
จพระเจ้
าอยู่
หั
วภู
มิ
พลอดุ
ลยเดช
มหาราช รั
ชกาลที่
(รั
ชกาลปั
จจุ
บั
น) และพระองค์
ทรงเห็
นว่
พระบาทสมเด็
จพระปรเมนทรมหาอานั
นทมหิ
ดล รั
ชกาลที่
๘ ยั
งไม่
ได้
ประกอบพระราชพิ
ธี
บรมราชาภิ
เษก จึ
งเฉลิ
มพระปรมาภิ
ไธย
ถวายพระเกี
ยรติ
แด่
พระบรมศพเป็
“พระบาทสมเด็
จพระปรเมนทร-
มหาอานั
นทมหิ
ดล อดุ
ลยเดชวิ
มลรามาธิ
บดี
จั
กรี
นฤบดิ
นทร-
สยามิ
นทราธิ
ราช พระมหากษั
ตริ
ย์
แห่
งประเทศไทย”
เนื่
องในวโรกาสวั
นคล้
ายวั
นสวรรคตแห่
งพระบาทสมเด็
พระปรเมนทรมหาอานั
นทมหิ
ดล รั
ชกาลที่
๘ ที่
จะเวี
ยนมาถึ
ในวั
นที่
๙ มิ
ถุ
นายน ๒๕๕๒ นี้
ด้
วยสำนึ
กในพระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ที่
ทรงประกอบพระราชกรณี
ยกิ
จต่
าง ๆ อย่
างไม่
ทรงคำนึ
งถึ
ความเหนื่
อยยาก โดยเฉพาะช่
วงที่
เสด็
จครองสิ
ริ
ราชสมบั
ติ
นั้
น เป็
นช่
วง
ที่
ประเทศไทยประสบกั
บปั
ญหานานั
ปการทั้
งภายในและภายนอก
ประเทศ แต่
ด้
วยพระราชจริ
ยาวั
ตรและพระปรี
ชาสามารถของพระองค์
ที่
ได้
ทรงใช้
หลั
กทศพิ
ธราชธรรมในการปกครองประเทศ ทำให้
เกิ
ความรั
ก ความสามั
คคี
ของคนในชาติ
ประเทศชาติ
กลั
บคื
นสู่
ความสงบ
ร่
มเย็
นภายใต้
พระบารมี
อี
กครั้
ง สำนั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรม
แห่
งชาติ
กระทรวงวั
ฒนธรรม จึ
งขอเชิ
ญชวนหน่
วยงานทั้
งภาครั
เอกชน และประชาชนชาวไทยทุ
กคน ได้
แสดงความจงรั
กภั
กดี
และ
น้
อมรำลึ
กในพระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณของพระองค์
ท่
าน โดยนำพวงมาลา
มาน้
อมเกล้
าฯ ถวายสั
กการะ ณ พระบรมราชานุ
สาวรี
ย์
ณ วั
ดสุ
ทั
ศน์
เทพวรารามราชวรมหาวิ
หาร ที่
ทรงพั
ฒนาชาติ
ไทยของเราให้
มี
ความ
เจริ
ญรุ่
งเรื
องและรั
กษาความเป็
นชาติ
ไทยเอาไว้
ได้
สื
บต่
อไป
ข้
อมู
ลอ้
างอิ
งจากหนั
งสื
อ ๕๓ พระมหากษั
ตริ
ย์
ไทย
ธ ทรงครองใจไทยทั้
งชาติ
ฝ่
ายวิ
ชาการ สำนั
กพิ
มพ์
โอเดี
ยนสโตร์