วารสารวั
ฒนธรรมไทย
34
นข้
อเขี
ยนตอนที่
แล้
ว ผมได้
แนะนำ
“คณะ
กรรมการหนั
ง”
สามชุ
ดที่
มี
อยู่
ใน
“พ.ร.บ.
หนั
งฉบั
บล่
าสุ
ด”
หรื
อ
“พระราชบั
ญญั
ติ
ภาพยนตร์
และวี
ดิ
ทั
ศน์
ฉบั
บ พ.ศ. ๒๕๕๑”
ไปแล้
ว ต่
อไปนี้
เราก็
จะมาทำความรู้
จั
กกั
บ
“กรรมการหนั
ง”
ที่
มี
อยู่
ใน
ความรั
บผิ
ดชอบของสำนั
กงานวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
หรื
อ สวช. กั
นต่
อไป
ในมาตรา ๑๖ ของพระราชบั
ญญั
ติ
ฉบั
บล่
าสุ
ด
มี
ข้
อความระบุ
ไว้
ว่
า
“ให้
มี
คณะกรรมการพิ
จารณาภาพยนตร์
และวี
ดิ
ทั
ศน์
คณะหนึ่
งหรื
อหลายคณะ โดยแต่
ละคณะให้
ประกอบด้
วยบุ
คคล
ซึ่
งรั
ฐมนตรี
แต่
งตั้
งตามข้
อเสนอของคณะกรรมการ”
คณะกรรมการชุ
ดนี้
กฎหมายระบุ
ว่
า
“มี
จำนวนไม่
เกิ
น
๗ คน”
โดยมี
“เจ้
าหน้
าที่
ของรั
ฐไม่
เกิ
น ๔ คน และจาก
ภาคเอกชนไม่
เกิ
น ๓ คน”
คนทั้
งเจ็
ดคนนี้
ต้
องทำหน้
าที่
๕ อย่
าง
ดั
งต่
อไปนี้
คื
อ
๑. ตรวจพิ
จารณาและกำหนดประเภทภาพยนตร์
ที่
จะนำออกฉาย ให้
เช่
า แลกเปลี่
ยน หรื
อจำหน่
ายในราชอาณาจั
กร
๒. อนุ
ญาตการนำวี
ดิ
ทั
ศน์
ออกฉาย ให้
เช่
า แลกเปลี่
ยน
หรื
อจำหน่
ายในราชอาณาจั
กร
๓. อนุ
ญาตกา รนำสื่
อ โฆษณาออก โฆษณาหรื
อ
ประชาสั
มพั
นธ์
ในราชอาณาจั
กร
๔. อนุ
ญาตการส่
งภาพยนตร์
หรื
อวี
ดิ
ทั
ศน์
ออกไป
นอกราชอาณาจั
กร
๕. ปฏิ
บั
ติ
การอื่
นตามที่
กฎหมายกำหนดให้
เป็
นอำนาจ
หน้
าที่
ของคณะกรรมการพิ
จารณาภาพยนตร์
และวี
ดิ
ทั
ศน์
หรื
อตามที่
รั
ฐมนตรี
หรื
อคณะกรรมการ (ภาพยนตร์
แห่
งชาติ
) มอบหมาย
ปั
จจุ
บั
นคณะกรรมการหนั
งที่
อยู่
ในความรั
บผิ
ดชอบ
ของ สวช. คื
อ คณะบุ
คคลผู้
มี
รายนามดั
งต่
อไปนี้
๑. นางฉวี
รั
ตน์
เกษตรสุ
นทร
๒. นายสงขลา วิ
ชั
ยขั
ทคะ
๓. นายอำนาจ บั
วศิ
ริ
๔. นายชั
ยวั
ฒน์
ทวี
วงศ์
แสงทอง
๕. นายสมบั
ติ
ภู่
กาญจน์
๖. พลเอกธั
นวาคม ทิ
พยจั
นทร์
๗. นางนพพร มุ
กดามณี
มี
คำอธิ
บายรายละเอี
ยดของกรรมการแต่
ละท่
านดั
งต่
อไปนี้
หมายเลข ๑ นั้
น เป็
นประธานคณะกรรมการชุ
ดนี้
ซึ่
งปกติ
แล้
ว เนื่
องจากกรรมการชุ
ดนี้
อยู่
ในความรั
บผิ
ดชอบของ
สำนั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
หรื
อ สวช.
เพราะฉะนั้
นประธานของคณะกรรมการที่
อยู่
ในความรั
บผิ
ดชอบ
ของหน่
วยงานจึ
งสมควรที่
จะเป็
นประธานของหน่
วยงานนั้
น ๆ ซึ่
ง
ประธานของหน่
วยงาน สวช. ก็
คื
อ เลขาธิ
การ สวช. เพราะฉะนั้
น
ประธานกรรมการชุ
ดนี้
จึ
งควรเป็
นเลขาธิ
การ สวช. โดยตำแหน่
ง
แต่
ด้
วยเหตุ
ผลกลใด (ผม) ไม่
ทราบ ขณะที่
ตั้
งกรรมการชุ
ดนี้
ผู้
ร่
างคำสั่
งแต่
งตั้
งได้
ระบุ
นามของเลขาธิ
การ สวช. ในขณะนั้
นไว้
เป็
นที่
แจ้
งชั
ด ข้
อความที่
อยู่
ในคำสั่
งจึ
งกลายเป็
นว่
า ตำแหน่
ง
ประธานนั้
นระบุ
ตั
วบุ
คคลไม่
ได้
ระบุ
ตำแหน่
ง ซึ่
งก่
อให้
เกิ
ดผล
ที่
แสดงเจตนารมณ์
แตกต่
างกั
น ด้
วยเหตุ
นี้
กรรมการหนั
งชุ
ดแรก
จึ
งมี
ประธานชื่
อปรี
ชา กั
นธิ
ยะ เลขาธิ
การ สวช. (ในขณะนั้
น)
เป็
นประธานคณะกรรมการ แต่
พอเลขาฯ ปรี
ชาเคลื่
อนย้
ายจาก
ตำแหน่
ง ไปแล้
ว ท่
านจึ
งได้
พิ
จารณาตามข้
อเท็
จจริ
งด้
วยการลาออกจาก
ตำแหน่
งกรรมการหนั
งชุ
ดนี้
เพื่
อเปิ
ดโอกาสให้
เลขาฯ คนต่
อมา
อั
นได้
แก่
เลขาฯ ฉวี
รั
ตน์
เกษตรสุ
นทร มาดำรงตำแหน่
งแทน
เพราะฉะนั้
น ประธานกรรมการหนั
งชุ
ดปั
จจุ
บั
นในขณะที่
เขี
ยนนี้
(เดื
อนมิ
ถุ
นายน ๒๕๕๒) จึ
งเป็
นเลขาฯ สวช. ที่
ชื่
อฉวี
รั
ตน์
เกษตรสุ
นทร ด้
วยเรื่
องราวดั
งที่
กล่
าวมา
หมายเลข ๒ หมายเลข ๓ และหมายเลข ๗ คื
อ
กรรมการที่
เป็
นตั
วแทนของ
“เจ้
าหน้
าที่
รั
ฐ”
ตามที่
กฎหมายกำหนด
คื
อ หมายเลข ๒ มาจากสำนั
กงานคณะกรรมการกฤษฎี
กา นั
ยว่
า
เพื่
ออาศั
ยความชำนาญในเรื่
องกฎหมายระเบี
ยบราชการของท่
าน
มาใช้
ให้
เป็
นประโยชน์
หมายเลข ๓ มาจากสำนั
กงานพุ
ทธศาสนา
แห่
งชาติ
และหมายเลข ๗ ซึ่
งเป็
นรองเลขาฯ สวช. มาทำหน้
าที่
สาระน่
ารู้
สมบั
ติ
ภู่
กาญจน์
…เขี
ยน
ใ
“นั่
งดู
หนั
ง”
เป็
นงานสนุ
กจริ
งหรื
อ? ตอนที่
๒