วารสารวั
ฒนธรรมไทย
23
ั
ฒ
วิ
ถี
ไทย
วามนำ
ภาคใต้
มี
สรรพวิ
ทยาการต่
าง ๆ ที่
บรรพบุ
รุ
ษสั่
งสม
โดยถ่
ายทอดเป็
นวรรณกรรมอย่
างอเนกอนั
นต์
วรรณกรรมดั
งกล่
าว คื
อ
หนั
งสื
อบุ
ด
(สมุ
ดข่
อย
หรื
อสมุ
ดไทย)
หนั
งสื
อใบลาน และหนั
งสื
อเล่
มเล็
กที่
พิ
มพ์
ออกเผยแพร่
หนั
งสื
อบุ
ดและหนั
งสื
อใบลานเป็
นเอกสารเก่
าแก่
ช่
วงก่
อนการพิ
มพ์
ส่
วนหนั
งสื
อเล่
มเล็
กเป็
นหนั
งสื
อที่
พิ
มพ์
เผยแพร่
ในระยะแรก ๆ ที่
การพิ
มพ์
แพร่
หลายในภาคใต้
โดยส่
วนหนึ่
ง
นำเอาวิ
ทยาการจากหนั
งสื
อบุ
ดและหนั
งสื
อใบลานมาจั
ดพิ
มพ์
และ
อี
กส่
วนหนึ่
งเป็
นการสร้
างสรรค์
ขึ้
นใหม่
ของผู้
รู้
ก่
อนที่
การพิ
มพ์
จะแพร่
หลายอย่
างกว้
างขวาง หนั
งสื
อบุ
ด
ในฐานะสรรพวิ
ทยาการได้
รั
บการเอาใจใส่
และเก็
บรั
กษาไว้
เป็
น
อย่
างดี
วั
ดอารามเก่
าแก่
ทุ
กวั
ดและที่
บ้
านของผู้
ใฝ่
รู้
ใฝ่
ศึ
กษา
มี
หนั
งสื
อบุ
ดเก็
บรวบรวมไว้
เป็
นจำนวนมาก บางเล่
มยั
งคงมี
สภาพ
สมบู
รณ์
พอที่
จะนำมาศึ
กษาได้
แต่
ก็
มี
ไม่
ถึ
ง ๑๐% ของหนั
งสื
อ
ที่
เก็
บรวบรวมได้
ทั้
ง ๆ ที่
ผู้
เก็
บ ผู้
คั
ดลอก ผู้
ศึ
กษาพยายามรั
กษา
ไว้
ให้
คงอยู่
เพื่
อเป็
นสมบั
ติ
ของคนรุ่
นหลั
ง ด้
วยการสร้
างคติ
นิ
ยม
ความเชื่
อว่
าเป็
นหนั
งสื
อศั
กดิ์
สิ
ทธิ์
แต่
ก็
ไม่
วายถู
กทำลายด้
วย
ความเชื่
อบางประการ ถู
กขายให้
ชาวต่
างชาติ
และหมดความนิ
ยม
เนื่
องจากระบบการพิ
มพ์
แพร่
หลายของวิ
ทยาการสมั
ยใหม่
วั
นนี้
จึ
งมี
หนั
งสื
อเหลื
ออยู่
ส่
วนหนึ่
งซึ่
งน้
อยนิ
ดหากเที
ยบเคี
ยงกั
บอดี
ต
แต่
ก็
ยั
งคงเป็
นความภาคภู
มิ
ใจของชาวภาคใต้
ที่
ใฝ่
รู้
ใฝ่
ศึ
กษาเรื่
องนี้
เพราะนี่
คื
อ วั
ฒนธรรมภาคใต้
ที่
เล่
าขานถึ
งความเป็
นภาคใต้
และ
บอกกล่
าวถึ
งอิ
ทธิ
พลต่
าง ๆ ที่
หล่
อหลอมความเป็
นเอกลั
กษณ์
ของพวกเขา
เมื่
อประมาณ ๕๐-๖๐ ปี
ที่
ผ่
านมานี้
ชาวบ้
าน ชาววั
ด
ไม่
น้
อยยั
งนิ
ยมสวดหนั
งสื
อซึ่
งเป็
นวิ
ธี
การถ่
ายทอดความรู้
และ
ความบั
นเทิ
งอย่
างหนึ่
ง ในช่
วงที่
ความบั
นเทิ
งจากสิ่
งบั
นเทิ
ง เช่
น
ในปั
จจุ
บั
นยั
งไม่
ได้
แพร่
หลาย ทุ
กวั
นพระ ๘ ค่
ำ และ ๑๕ ค่
ำ
ภายหลั
งจากที่
ชาวบ้
านรั
บศี
ล ฟั
งพระสวดมนต์
ฟั
งเทศน์
และ
ถวายภั
ตตาหารแล้
ว เวลาว่
างก่
อนเที่
ยง และเวลาว่
างหลั
งเที่
ยง
ก่
อนจะกลั
บบ้
านจะมี
ชาวบ้
าน ชาววั
ดเป็
นกลุ่
ม ๆ สวดหนั
งสื
อ
ตามระเบี
ยงพระอุ
โบสถ ระเบี
ยงพระด้
าน และศาลาวั
ด หนั
งสื
อ
ที่
ใช้
สวดส่
วนใหญ่
เป็
นวรรณกรรมประโลมโลก และวรรณกรรม
ที่
เกี่
ยวกั
บศาสนา ทั้
งผู้
สวดและผู้
ฟั
งต่
างด่
ำลึ
กในเนื้
อหาสาระ
คำสอน กลายเป็
นความสุ
ขความบั
นเทิ
ง นอกเหนื
อไปจากการดู
หนั
งตะลุ
ง มโนราห์
ฟั
งเพลงบอก และเพลงแปดบท ฯลฯ
นอกจากสวดหนั
งสื
อกั
นที่
วั
ดแล้
ว บ้
านใดที่
มี
ทุ
นทรั
พย์
หากมี
งาน
หรื
อกิ
จการใดก็
มั
กนิ
ยมให้
ผู้
ชำนาญการสวดหนั
งสื
อไปสวดโดยให้
ค่
าตอบแทนเป็
นสิ่
งของบ้
าง เป็
นเงิ
นบ้
าง การสวดหนั
งสื
อดั
งกล่
าว
ช่
วยให้
มี
ผู้
จดจำเรื่
องราวต่
าง ๆ ได้
มากมาย ซึ่
งภายหลั
ง
เมื่
อต้
นฉบั
บหนั
งสื
อเสื่
อมสภาพสู
ญหายไป บุ
คคลเหล่
านี้
อาศั
ย
การจดจำถ่
ายทอดให้
เรื่
องราวต่
าง ๆ ที่
สำคั
ญยั
งคงอยู่
ไม่
น้
อย
แต่
ปั
จจุ
บั
นสภาพการณ์
เช่
นนี้
หมดไปแล้
วอย่
างสิ้
นเชิ
ง
เมื่
อประมาณ ๓๐ ปี
ที่
ผ่
านมานี้
ท่
านขุ
นอาเทศ (กลอน
มั
ลลิ
กะมาส) นายพร้
อม ศรี
สั
มพุ
ทธ พระภิ
กษุ
ดำ วั
ดหั
วอิ
ฐ
เมื
องนครศรี
ธรรมราช นายดิ
เรก พรตตะเสน รศ.ภิ
ญโญ จิ
ตต์
ธรรม
หลั
กฐานสำคั
ญของภาคใต้
ที่
ท้
าทายการศึ
กษา
ชวน เพชรแก้
ว…เรื่
อง
วรรณกรรมทั
กษิ
ณ
ค
หนั
งสื
อบุ
ด