วารสารวั
ฒนธรรมไทย
24
พระองค์
เอง”
พระองค์
ทรงพระมหากรุ
ณาพั
ฒนาอาชี
พและ
ความเป็
นอยู่
ขั้
นพื้
นฐานของราษฎรโดยเฉพาะเรื่
องของงานฝี
มื
อ
พื้
นบ้
านหรื
อหั
ตถกรรมในครั
วเรื
อน เพื่
อช่
วยเสริ
มรายได้
ให้
ครอบครั
วอี
กทางหนึ่
ง ด้
วยทรงตระหนั
กว่
า คนไทยมี
ฝี
มื
อ
ด้
านการช่
างเป็
นเอกลั
กษณ์
ประจำตน และแต่
ละท้
องถิ่
นก็
มี
ศิ
ลปะ
เป็
นเอกลั
กษณ์
ประจำภาคอยู่
แล้
ว กอปรกั
บพระองค์
ทรงสน
พระราชหฤทั
ยศึ
กษางานศิ
ลปะอย่
างจริ
งจั
งและสม่
ำเสมอมาเป็
น
เวลาช้
านาน ดั
งนั้
น จึ
งทรงส่
งเสริ
มและฟื้
นฟู
งานศิ
ลปหั
ตถกรรม
พื้
นบ้
านที่
นั
บวั
นแต่
จะสู
ญหายไปตามกาลเวลา ให้
กลั
บมามี
ชี
วิ
ต
และวิ
ญญาณอี
กครั้
งหนึ่
งโดยเฉพาะในเรื่
องการทอผ้
าทรงส่
งเสริ
ม
และพระราชทานวั
สดุ
อุ
ปกรณ์
ที่
ใช้
ในการผลิ
ต รวมทั้
งทรงฟื้
นฟู
ความสามารถของชาวบ้
านที่
ทอดทิ้
งความรู้
มานานให้
กลั
บมา
ประดิ
ษฐ์
งานของแต่
ละท้
องถิ่
นให้
มากขึ้
น อาทิ
ทรงพระกรุ
ณา
โปรดเกล้
าโปรดกระหม่
อมให้
ราษฎรอำเภอเขาเต่
า จั
งหวั
ด
ประจวบคี
รี
ขั
นธ์
ทอผ้
าฝ้
าย
โดยทรงจั
ดหาครู
ทอผ้
าจาก
จั
งหวั
ดราชบุ
รี
ซึ่
งมี
ชื่
อในการทอผ้
าบ้
านไร่
มาสอนเมื่
อเสด็
จ
แปรพระราชฐานไปประทั
บณ พระตำหนั
กทั
กษิ
ณราชนิ
เวศน์
จั
งหวั
ดนราธิ
วาสได้
พระราชทานกี่
ทอผ้
า เส้
นฝ้
าย และอุ
ปกรณ์
ทอผ้
าให้
ชาวบ้
านอำเภอบาเจาะ จั
งหวั
ดนราธิ
วาส ทอผ้
าฝ้
ายเป็
น
อาชี
พเสริ
ม และโปรดให้
ครู
จากเกาะยอไปสอนการทอผ้
าลายริ้
ว
และด้
วยพระราชดำริ
ว่
า ดอกไม้
ประจำจั
งหวั
ดนราธิ
วาส คื
อ
ดอกตั
นหยงหรื
อดอกพิ
กุ
ล ดั
งนั้
น ผ้
าที่
ทอจากจั
งหวั
ดนี้
น่
าจะมี
ลวดลายเป็
นดอกพิ
กุ
ลจึ
งทรงพระกรุ
ณาโปรดเกล้
าโปรดกระหม่
อม
ให้
ครู
จากคุ้
มเจ้
าพงศ์
แก้
ว ณ ลำพู
น มาเป็
นครู
สอนการทอผ้
าลาย
ดอกพิ
กุ
ลแบบลำพู
นเพิ่
มเติ
มด้
วย
เมื่
อเสด็
จแปรพระราชฐานไปประทั
บ ณ พระตำหนั
ก
ภู
พิ
งค์
ราชนิ
เวศน์
จั
งหวั
ดเชี
ยงใหม่
ทรงพระกรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ
ให้
ส่
งเสริ
มอาชี
พ
การทอผ้
าและปั
กผ้
าแบบปั
กซอย
ขึ้
นที่
จั
งหวั
ด
เชี
ยงใหม่
นอกจากนี้
เมื่
อเสด็
จพระราชดำเนิ
นไปยั
งจั
งหวั
ด
กาฬสิ
นธุ์
ได้
ทอดพระเนตรเห็
นราษฎรชาวภู
ไทแต่
งกาย
ชุ
ดพื้
นเมื
องห่
มสไบแพรวาไหมยกดอกสี
แดง อั
นเป็
นเอกลั
กษณ์
ของท้
องถิ่
น จึ
งทรงพระกรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ ให้
อนุ
รั
กษ์
ฟื้
นฟู
และ
ส่
งเสริ
มการทอผ้
าแพรวาขึ้
นที่
บ้
านโพน อำเภอคำม่
วง จั
งหวั
ด
กาฬสิ
นธุ์
และพั
ฒนาให้
เหมาะสมกั
บยุ
คสมั
ย ซึ่
งแต่
เดิ
มผ้
าแพรวา
มี
เพี
ยงสี
แดงเป็
นพื้
นก็
ทรงให้
ใช้
สี
อื่
น ๆ ยื
นพื้
นด้
วยแล้
วสลั
บสี
ลายดอกให้
มี
ความหลากหลาย
ในช่
วงแรกของการส่
งเสริ
มการทอผ้
าไหมมั
ดหมี่
ใน
ภาคตะวั
นออกเฉี
ยงเหนื
อ พระองค์
ทรงขอให้
ชาวบ้
านทอผ้
าไหม
มากขึ้
นจากที่
ทำไว้
ใช้
ในบางโอกาส เช่
น งานทำบุ
ญ และ
งานแต่
งงาน โดยจะทรงรั
บซื้
อไว้
สำหรั
บตั
ดเย็
บเป็
นชุ
ดฉลอง
พระองค์
โดยทรงตรวจคุ
ณภาพผ้
าไหมมั
ดหมี่
ที่
ได้
รั
บมาและทรงมี
พระราชดำรั
สให้
เจ้
าของผู้
ทอผ้
าผื
นที่
สวยเป็
นพิ
เศษทอเป็
น
ปริ
มาณเพิ่
มขึ้
นพร้
อมพระราชทานคำแนะนำเกี่
ยวกั
บพั
นธุ์
ไหม
สี
ย้
อม ลวดลาย และคุ
ณภาพของผ้
าไหมมั
ดหมี่
แก่
เจ้
าของผ้
าด้
วย
นอกจากนี้
สมเด็
จพระนางเจ้
าสิ
ริ
กิ
ติ์
พระบรมราชิ
นี
นาถยั
งทรง
แสดงความห่
วงใยไปยั
งผู้
ทอผ้
าโดยโปรดเกล้
าฯ ให้
คณะทำงาน
จั
ดหาอุ
ปกรณ์
ทอผ้
าเพื่
อพระราชทานให้
พวกเขาเหล่
านั้
น และ
ยั
งโปรดเกล้
าฯ ให้
จั
ดหาแว่
นตาไว้
สำหรั
บมอบให้
ผู้
ที่
สายตาเริ่
มจะ
ผิ
ดปกติ
อนึ่
งการรั
บซื้
อและพระราชทานอุ
ปกรณ์
ทอผ้
านั้
น
ทรงใช้
พระราชทรั
พย์
ส่
วนพระองค์
ซึ่
งเป็
นจำนวนมากขึ้
นเรื่
อย ๆ
จนกระทั่
งเริ่
มมี
ผู้
ประสงค์
จะร่
วมบริ
จาคเงิ
นในโครงการส่
งเสริ
ม
การทอผ้
าไหมมั
ดหมี่
และโครงการอาชี
พเสริ
มอื่
น ๆ ในสมเด็
จ