Page 118 - วารสารวัฒนธรรม ปีที่ ๕๖ ฉบับที่ ๒ เมษายน - มิถุนายน ๒๕๖๐
P. 118
ภายในที่ดินพระราชทานส?าหรับโครงการ
เกษตรวิชญา แบ่งออกเป็น ๕ ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ ๑ เนื้อที่จ?านวน ๑๓๘ ไร่ จัดให้เป็น
พื้นที่ส่วนปฏิบัติราชการ เป็นศูนย์กลางของโครงการ
มีอาคารศูนย์เรียนรู้ อาคารฝึกอบรม และอาคารศูนย์
อภิบาลเด็กสายใยรักจากแม่สู่ลูก โดยอาคารทั้งหมด
ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามด้วยแมกไม้
นานาพันธุ์ประกอบกับทิวเขาสลับซับซ้อน ทั้งไม้ผล
ไม้ดอก และหลากหลายพืชไร่ในแปลงสาธิตจุดเรียนรู้
การพัฒนาการเกษตรแบบครบวงจร
ส่วนที่ ๒ เนื้อที่จ?านวน ๓๒ ไร่ เป็นพื้นที่
ทรงงานส่วนพระองค์
ส่วนที่ ๓ เนื้อที่จ?านวน ๑๓๙ ไร่ เป็นพื้นที่
พัฒนาการเกษตร มีการจัดระบบอนุรักษ์ดินและน?้า
ฟื้นฟูปรับปรุงดิน พัฒนาแหล่งน?้า ส่งเสริมอาชีพ
เป็นศูนย์เรียนรู้ และมีเกษตรกรเข้าร่วมในโครงการ
จ?านวน ๖๐ ครอบครัวมาตั้งแต่เริ่มโครงการ ถึงวันนี้
นับได้กว่า ๑๕ ปีแล้วที่พวกเขาท?าการเกษตรในพื้นที่
ตามหลักการในพระราชด?าริ ทุกคนมีอาชีพและ ๑
รายได้ที่มั่นคง โดยเฉพาะผลผลิตจากการปลูก
กาแฟ และหอมหัวใหญ่ รวมทั้งพันธุ์พืชที่ก?าลังได้รับ
การทดลองอีกมากมาย ป่าดิบเขา และกลายเป็นผืนป่าสมบูรณ์ที่มีชายป่า ๑ อาณาบริเวณที่ดิน
ส่วนที่ ๔ เนื้อที่จ?านวน ๑๒๓ ไร่ ถูกจัดการ เชื่อมต่อกับป่าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย พระราชทานมากกว่า
ให้เป็นพื้นที่วนเกษตรและธนาคารอาหารชุมชน กล่าวได้ว่าสถานที่แห่งนี้คือ “แหล่งขุมทรัพย์ พันไร่ ในความหลากหลาย
ของสภาพพื้นที่และลักษณะ
ผลจากการพัฒนาฟื้นฟูสภาพป่าให้กลับมาอุดม แห่งปัญญาทางการเกษตร” ที่รวบรวมความรู้ทางการ ภูมิประเทศถูกจัดการให้
สมบูรณ์ด้วยพรรณไม้หลากหลาย ทั้งอนุรักษ์ต้นน?้า เกษตรทั้งด้านวิชาการและภูมิปัญญาชาวบ้านท้องถิ่น มีประโยชน์สูงสุดทั้งด้าน
การเกษตรและด้านการ
ล?าธาร ท?าให้เกิดแหล่งอาหารป่าตามธรรมชาติ และ ความส?าเร็จถูกสร้างขึ้นด้วยการผสมผสานทั้งเทคนิค อนุรักษ์ธรรมชาติ
บรรดาพืชสมุนไพรท้องถิ่นมากชนิดก็กลับมาเกิดขึ้น การเกษตรสมัยใหม่ควบคู่ไปกับวัฒนธรรมการเกษตร ๒-๔ ชาวเกษตรดั้งเดิม
อย่างอุดม ความอุดมสมบูรณ์ทั้งหมดพลิกฟื้นกลับ พื้นบ้าน ทั้งในแง่ของการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติป่าไม้ ทั้ง ๖๐ ครอบครัวร่วมมือ
กับโครงการเกษตรวิชญา
มาได้เพราะความร่วมมือของชาวบ้านและโครงการฯ และการน?าองค์ความรู้ภูมิปัญญาดั้งเดิมชองชาวบ้าน สร้างผืนแผ่นดินพระราชทาน
ส่วนที่ ๕ เนื้อที่จ?านวนกว่า ๙๐๐ ไร่ หรือกว่า เกษตรกรท้องถิ่นมาร่วมกับวิชาการเกษตรและวิชาการ ให้เกิดเป็นแหล่งเรียนรู้
ร้อยละ ๗๐ ของพื้นที่โครงการฯ ถูกก?าหนดให้เป็น พัฒนาที่ดินกลายเป็นวิถีปฏิบัติอย่างมีเหตุผลตามแนว คู่แหล่งอาชีพที่มั่นคง
พื้นที่ป่าไม้อนุรักษ์ตามธรรมชาติ โดยความร่วมมือ พระราชด?าริ เพื่อให้เป็นแหล่งความรู้ความเข้าใจในการ
กับกรมป่าไม้ในการจัดระบบการรักษาป่า ทั้งยังมีการ เกษตรที่ต้องอิงอาศัยธรรมชาติอย่างยั่งยืน ให้เกษตรกร
จัดการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ด้วย มีเส้นทาง ในพื้นที่และรอบ ๆ เข้าถึงง่ายในการใช้ประโยชน์และมี
เดินป่าศึกษาธรรมชาติที่สวยงามลัดเลาะไปตาม ส่วนร่วม ชาวบ้านมีรายได้ที่มั่นคง มีความสุขเพียงพอ
116