Page 30 - วารสารวัฒนธรรม ปีที่ ๕๖ ฉบับที่ ๑ มกราคม - มีนาคม ๒๕๖๐
P. 30

จากปีพุทธศักราช ๒๕๒๙ จวบจนวันนี้ เป็นเวลากว่า ๓๐ ปี    ๑. ด้านวรรณศิลป์
          ที่คนไทยและชาวโลกได้รับรู้ถึงพระสมัญญา “อัครศิลปิน” อัน  ๒. ด้านจิตรกรรมและประติมากรรม
          แสดงถึงพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาชาญในงานศิลปะหลายแขนง    ๓. ด้านทัศนศิลป์ (ภาพถ่าย)
          ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙   ๔. ด้านดุริยางคศิลป์
              ทว่าก็เป็นเวลาเนิ่นนานพอที่อาจจะให้เกิดการหลงลืมใน   ๕. ด้านวาทศิลป์

          รายละเอียด อีกทั้งยังมีอนุชนรุ่นหลังอีกจ?านวนมากที่ยังไม่ได้   ๖. ด้านสถาปัตยกรรม
          รับรู้ หรือยังไม่เข้าใจพระสมัญญาดังกล่าว กระทั่งอาจน?าไปสู่ความ  ทั้งนี้ด้วยส?านึกในพระบรมราโชวาทพระราชทานแก่คณะกรรมการ
          เข้าใจผิดว่า ด้วยเพราะพระองค์ทรงด?ารงสถานะเป็นพระประมุข  วัฒนธรรมแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๙ ที่ว่า
          ของชาติ จึงย่อมต้องเป็น “อัครศิลปิน” ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริง
          พระสมัญญานี้เกิดขึ้นจากพระอัจฉริยภาพทางศิลปะอย่างหาที่สุด  “คนท?างานศิลปะ ต้องรู้เรื่องวิชาการและรู้หลักวิทยาศาสตร์
          มิได้ของพระองค์โดยแท้                               คนท?างานวิชาการก็จะต้องรู้หลักวิทยาศาสตร์ ในขณะเดียวกันก็
              จึงตระหนักว่าถึงเวลาอันเหมาะควรแล้วที่เราจะมาทบทวน ต้องมีใจทางศิลปะ จึงจะสามารถพัฒนางานให้ดีได้ และคนท?างาน
          ถึงพระปรีชาสามารถและพระอัจฉริยภาพทางศิลปะด้านต่าง ๆ  วิทยาศาสตร์ก็ท?านองเดียวกัน ต้องมีความรู้ทางด้านวิชาการ
          ของพระองค์ท่านอย่างจริงจัง ผ่านทัศนะ มุมมอง ของเหล่าศิลปิน และต้องมีใจรักศิลปะ ตั้งใจท?าอะไรให้ดีขึ้น สรุปว่าทั้งสามส่วน
          แห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ผู้ที่สังคมไทยและสังคมโลก เป็นความส?าคัญซึ่งต้องเกี่ยวเนื่องกัน งานศิลปะมีความส?าคัญ
          ยอมรับแล้วว่ามีความเชี่ยวชาญงานศิลป์แต่ละด้านอย่างแท้จริง   ต่องานทั้งปวง ศิลปินเป็นบุคคลที่มีความส?าคัญสมควรจะยกย่อง
          รวม ๖ ด้าน คือ                                      เชิดชูเกียรติต่อไป”



          28
   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35