Page 57 - Culture2-2016
P. 57




















































๓







เปล่ียนแปลงรูปแบบการนาเสนออย่างสร้างสรรค์และงดงาม สว่ นรปู ทรงของพวงมาลยั ทชี่ าวบา้ นนยิ มประดษิ ฐเ์ พอื่ นา 

ขึ้นด้วยการนาไปร้อยเป็นพวงมาลัยขาวบริสุทธ์ิ อุปมาดั่งมวล มาประกวดความสวยงามมี ๒ แบบหลกั ๆ คอื มาลยั แบบขอ้ และ 


ดอกไม้จากสวรรค์ช้ันดาวดึงส์เพื่อถวายแด่พระพทุธเจ้าซง่ึต้อง มาลยัแบบสายฝนซงึ่มรีายละเอยีดในลวดลายแตกตา่งกนัขนึ้อยู่ 

อาศัยภูมิปัญญาในการประดิษฐ์และการสร้างสรรค์ที่ผ่านการ กบั พลงั ศรทั ธาและจนิ ตนาการของผสู้ รา้ งสรรคผ์ ลงาน (ปจั จบุ นั มี 

สืบทอดและสั่งสมมายาวนาน
การทา มาลยั จวิ๋ ซงึ่ มลี กั ษณะเหมอื นมาลยั สายฝนทกุ ประการแต่ 


ถ้าใครมีโอกาสไปร่วมงานบุญแห่มาลัยข้าวตอกของ ย่อส่วนให้เลก็ ลง เพือ่ ใช้เป็นของฝากของที่ระลึกแด่ผู้มาเยอื น)

ชาวอา เภอมหาชนะชยั คงไดป้ ระจกั ษแ์ กส่ ายตาวา่ มาลยั ขา้ วตอก มาลยั แบบขอ้ มลี กั ษณะตามชอื่ เรยี ก คอื การนา ขา้ วตอกแตก 

แต่ละพวงมีหลากหลายรูปแบบ ต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ มาร้อยต่อกันเป็นสายแล้วมัดรวมเป็นข้อ มีลักษณะเหมือนนา 


ในการรอ้ ยเรยี ง หลกั เบอ้ื งตน้ ในการรอ้ ยขา้ วตอกใหด้ ขู าวบรสิ ทุ ธ์ิ แท่งดอกข้าวตอกแตกหลายๆ อนั มาผูกไว้ด้วยกันจนดสู วยเด่น

และเมลด็ไม่แตกต้องใช้เขม็ขนาดเล็ก(เบอร์๙)และด้ายสขีาว ส่วนมาลัยแบบสายฝนเป็นการร้อยข้าวตอกแตกด้วย 


(เบอร์๒๐)ร้อยเมล็ดข้าวตอกแตกทางด้านที่มีสีหมองหรือ เส้นด้ายยาวเมอื่นาหลายๆเส้นมารวมเข้าด้วยกนักก็ลายเป็น 

อมเหลอื ง โดยนยิ มรอ้ ยตดิ ตอ่ กนั แบบอบุ ะ (รอ้ ยเขา้ เปน็ สายแลว้ พวงมาลยั ทปี่ ระกอบดว้ ยเสน้ ขา้ วตอกแตกจานวนมาก พลวิ้ ไหว 

เข้าพวงอย่างพู่แบบเดียวกับมาลยัดอกรักทวั่ไป)
ตามกระแสลมได้ง่ายจนดูคล้ายกับสายฝน





55
เมษายน-มถิ นุ ายน ๒๕๕๙ 



   55   56   57   58   59