Page 56 - Culture2-2016
P. 56
๑
จากนั้นจึงนาข้าวตอกแตกคั่วใหม่ไปคัดแยกเปลือกข้าว
โดยการฝดั (รอ่ น) ในกระดง้ เพอื่ คดั เอาเฉพาะเมลด็ ขา้ วตอกแตก
หรือข้าวพองสีขาวล้วนๆ หากเก็บข้าวตอกแตกที่ได้นี้อย่างดี
โดยไมใ่ หส้ มั ผสั ความชนื้ ในอากาศกส็ ามารถเกบ็ รกั ษาไวไ้ ดน้ าน
ไม่เสียง่าย และถือกันว่าเป็นสิ่งมงคล บางครั้งใช้โปรยรวมกับ
ดอกไม้และเงินทองเพื่อเป็นเคล็ดให้เกิดความรุ่งเรืองเฟื่องฟู
ขยายออกได้เหมือนข้าวตอก
การเลอื กใชเ้ มลด็ ขา้ วเปลอื กมาทา เปน็ มาลยั แทนดอกไม้
๒
เนื่องจากแต่เดิมชาวชุมชนแถบนี้เชื่อว่าข้าวเป็นสิ่งมีคุณค่า
การถวายเป็นพุทธบูชาจึงได้อานิสงส์และบุญกุศลมาก ดังพบ
๑ ขบวนแหม่าลัยข้าวตอกในปัจจบุันกลายเปน็งานประเพณีใหญ่
ประจาําปีทแี่สดงใหเ้ห็นถึงการร่วมแรงรว่มใจจดัทาํามาลัยขนาดใหญแ่ละ
ว่ามีการถวายข้าวจี่เป็นพุทธบูชาอยู่แล้ว ส่วนการบูชาด้วย
สวยงามของชาวบา้ นตาํา บลฟา้ หยาด อําาเภอมหาชนะชัย จงั หวัดยโสธร
ข้าวตอกนั้นสันนิษฐานว่าในสมัยเริ่มแรกอาจเป็นเพียงการนา
และมกี ารจัดประกวดความสวยงามของมาลัย ท่ีดึงดดู ใหผ้ คู้ นตา่ งถ่ิน
เดินทางมารว่มงานอยา่งคบัค่งั
ข้าวตอกแตกใส่พานไปบูชาพระแบบเรียบง่าย ก่อนจะพัฒนา
๒-๓ชาวบา้นนาํามาลยัขา้วตอกทัง้ขนาดใหญน่้อยมาจากบา้นเพ่อืเข้าร่วม
ขบวนแหไ่ปถวายวดั
54