Page 110 - Culture2-2016
P. 110
๑
๒
๑-๒ วงมโหรี คือวงดนตรีไทยเพื่อการบรรเทิง เป็นที่นิยมกันในหมู่ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในสมัยก่อนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มักมีวงดนตรีเป็นของตนเอง
นา เสภามาเลน่ เขา้ กบั ดนตรี เกดิ วงดนตรที เี่ รยี กวา่ “วงปพ่ี าทย์ พอถึงรัชกาลที่ ๕ พระองค์ท่านทรงโปรดดนตรีไทยและทรงมี
เสภา” เรยี กวา่ เปน็ การปฏวิ ตั อิ ยา่ งแรงในชว่ งเวลานนั้ เพราะวา่ วงดนตรีเป็นของพระองค์เอง วงดนตรีไทยในสมัยรัชกาลที่ ๕
วงปี่พาทย์จะใช้เพื่อพิธีกรรม ไม่เคยมีวงปี่พาทย์เล่นเพ่ือความ จงึ ไดร้ บั ความนยิ มอยา่ งมาก เกดิ การแขง่ ขนั การแตง่ เพลงใหมๆ่
บันเทิงมาก่อนเลยด้วยความแพร่หลายที่เกดิขึน้ช่วงนั้นจงึเกิด ความนิยมนี้ได้เร่ิมกระจายไปสู่หัวเมืองต่างๆในต่างจังหวัด
นกัดนตรขีึ้นมากมาย
จนกระทั่งถึงรัชกาลที่๖ซ่งึดนตรไีทยนับว่ามคีวามรุ่งเรอืงมาก
ในสมัยรัชกาลท่ี ๔ มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่ส่งผลกับ เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นท้ังนักแต่งเพลงและมีนักดนตรี
ดนตรีไทย นั่นคือใน พ.ศ. ๒๓๙๙ มีงานพิธีฉลองสมโภช มวี งกา กับ และยังมวี งอปุ ถัมภ์ข้างนอกพระราชสา นัก
พระแก้วมรกต จาเป็นต้องมีวงดนตรี ดนตรีพิธีกรรมใน ในรัชสมัยของรัชกาลที่ ๖ มีนักดนตรีไทยที่มีฝีมือเยี่ยม
วังหลวงมีแล้ว แต่ต้องการวงดนตรีบรรเลงเฉลิมฉลองพระแก้ว มากมาย จนถงึ ขนาดพระองคแ์ ตง่ ตงั้ ราชทนิ นามใหมพ่ ระราชทาน
มรกตด้วย พระองค์ท่านจึงทรงขอแรงวงปี่พาทย์จากบรรดา แก่นักดนตรีถึง ๕๐ กว่าช่ือ เช่น พระยาประสานดุริยศัพท์
เจ้านายและข้าราชการ เป็นวงปี่พาทย์เสภาถงึ ๑๖ วง แบ่งเป็น พระประดบั ดรุ ยิ กจิ หลวงประดษิ ฐไพเราะ พระยาเสนาะดรุ ยิ างค์
วงปี่พาทย์เสภาท่ีบรรเลงด้วยศิลปินชาย ๑๒ วง วงปี่พาทย์ พระสรรเพลงสรวง หลวงพวงสา เนยี งรอ้ ย หลวงสรอ้ ยสา เนยี งสนธิ์
เสภาทศ่ี ลิ ปนิ หญงิ บรรเลง ๔ วง นบั เปน็ การสนองพระราชดา รขิ อง หลวงคนธรรพบรรเลง หลวงบรรเลงเลิศเลอ ขุนบา เรอจิตรจรุง
ในหลวง ซง่ึ สามารถระดมวงปีพ่ าทยเ์ สภามาไดเ้ ปน็ จานวนมาก
ขนุ บา รงุ จติ รเจรญิ เปน็ ตน้ ในขณะทเี่ มอื่ ถงึ รชั กาลท่ี ๗ พระองค์
108