Page 11 - CultureMag2015-1
P. 11

เช่อื ผนู้ า�  ชาตพิ น้ ภยั

      หลังจากคณะราษฎรเปลีย่ นแปลงการปกครองจาก
ระบอบสมบูรณาญาสิทธริ าชย์เป็นระบอบประชาธิปไตย
ในเดือนมิถุนายน ๒๔๗๕  จอมพล ป. พิบูลสงคราม 
หนึ่งในสมาชิกคณะราษฎร ก้าวขึ้นสู่ต�าแหน่งนายกรัฐมนตรี 
เม่อื ป ี ๒๔๘๑ เวลานน้ั สถานการณโ์ ลกกา� ลงั อยใู่ นภาวะวกิ ฤต 
เค้าลางสงครามก่อตัวขึน้ แล้วในทวีปยุโรป  ส่วนในเอเชีย 
กองทัพญป่ี ุน่ เร่มิ แผแ่ สนยานุภาพ เปดิ สงครามกบั จีน 

      งานท่ีเดน่ ชดั ของนายกฯ ไทยคอื การขบั เคลอ่ื นประเทศ
สู่ “สังคมสมัยใหม่” หรือสร้าง “ความเป็นสากล” เพื่อให้
ทดั เทียมกบั ชาติมหาอ�านาจ 

      ท่ีส�าคัญคือรัฐบาลได้ออกประกาศค�าสั่งทเี่ รียกว่า 
“รฐั นิยม” ข้นึ เป็นคร้งั แรก  มเี น้ือหาว่าดว้ ยรปู แบบการปฏบิ ัติ
ตนทางวัฒนธรรมทจี่ ะแสดงให้เห็นถึงความเป็นชาติทมี่ ี
อารยธรรม เปน็ หลกั ใหพ้ ลเมืองได้ยดึ ถือปฏบิ ตั ิตาม 

      รัฐนิยมยุคจอมพล ป. ถูกประกาศออกมาทงั้ สิน้  ๑๒ 
ฉบับ ต่อเนือ่ งกัน ๔ ปี ตั้งแต่ปี ๒๔๘๒-๒๔๘๕ โดยมีการ
กา� หนดบทลงโทษสา� หรับผู้ทีไ่ ม่ปฏบิ ตั ติ ามดว้ ย

      ในงานเฉลิมฉลองวันชาติเมือ่  ๒๔ มิถุนายน ๒๔๘๒ 
จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้กล่าวสุนทรพจน์ออกอากาศ
ทางวิทยุกระจายเสียงไปทวั่ ประเทศ อธิบายความหมายของ
คา� ว่า “รัฐนิยม” วา่

      “รฐั นยิ ม คอื การปฏบิ ตั ใิ หเ้ ปน็ ประเพณนี ยิ มท่ดี ปี ระจา�
ชาติ เพือ่ ให้บุตรหลานอนชุ นคนไทยเรายดึ ถือเปน็ หลักปฏิบตั  ิ
รัฐนิยมนี้มีลักษณะและละม้ายคล้ายคลึงกับจรรยามรรยาท
ของอารยชนจะพงึ ประพฤตนิ ่นั เอง  ในรฐั นยิ มยงั มพี ฤตกิ รรม
เพม่ิ พเิ ศษข้นึ อีกอย่างหน่งึ  คืออ�านาจมหาชน”

                                       มกราคม-มนี าคม ๒๕๕๘ 9
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16