๓๑
ในวั
นที่
๕ เมษายน ๒๕๕๓ ศาสตราจารย์
ประกิ
ต
บั
วบุ
ศย์
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
และราชบั
ณฑิ
ตไทย จะมี
อายุ
ครบ ๑๐๐ ปี
พอดี
ตามการนั
บแบบธรรมเนี
ยมจี
น (ซึ่
ง
จะรวมช่
วงขณะที่
มี
ชี
วิ
ตอยู่
ในครรภ์
มารดาด้
วย) หรื
อ อายุ
ครบ ๙๙ ปี
ตามแบบสากล ซึ่
งยั
งไม่
ปรากฏว่
ามี
ศิ
ลปิ
น
ท่
านใดในโลกที่
มี
อายุ
ยื
นยาวและยั
งสามารถสร้
างสรรค์
ผลงานศิ
ลปะได้
อยู่
ไม่
ว่
าจะเป็
น
ลี
โอนาโด ดาวิ
นชี
(Leonardo da Vinci ) , ไมเคิ
ล แองเจลโล
(Michelangelo), โมเนท์
(Claude Monet), โรแดง
(Auguste Rodin), หรื
อแม้
นแต่
ปิ
กั
สโซ (Pablo Picas-
so)
ศิ
ลปิ
นเหล่
านั้
นไม่
สามารถทำ
�งานศิ
ลปะได้
ในขณะที่
มี
อายุ
ยื
นถึ
งร้
อยปี
เพราะแต่
ละท่
านได้
เสี
ยชี
วิ
ตไปก่
อน
หน้
าแล้
วทั้
งสิ้
น
ศิ
ลปิ
นแห่
งชาติ
ถวั
ลย์
ดั
ชนี
ได้
กล่
าวว่
า
“สามารถบั
นทึ
กเป็
นสถิ
ติ
โลกลงในกิ
นเนสบุ๊
ค เกี่
ยวกั
บ
ศิ
ลปิ
นที่
มี
อายุ
ยื
นของโลกผู้
ที่
ยั
งคงสร้
างสรรค์
งานศิ
ลปะ
ได้
อย่
างต่
อเนื่
อง”
ถึ
งแม้
นว่
าในอดี
ตจะเคยมี
ศิ
ลปิ
นแห่
ง
ชาติ
ของไทยท่
านหนึ่
ง ที่
มี
อายุ
ยื
นยาวถึ
ง ๑๐๓ ปี
คื
อ
ครู
โมท ว่
องสวั
สดิ์
ก็
ตาม แต่
ในช่
วงท้
ายๆ ของอายุ
ท่
าน
คื
อตั้
งแต่
อายุ
๙๐ ปี
กว่
าขึ้
นไป ท่
านก็
ไม่
สามารถทำ
�งาน
สร้
างสรรค์
ศิ
ลปะได้
เหมื
อนเช่
นศาสตราจารย์
ประกิ
ต
(จิ
ตร) บั
วบุ
ศย์
อาจารย์
ประกิ
ตยั
งคงเขี
ยนรู
ปได้
แม้
ในวั
ยที่
ล่
วงเลย และสั
งขารเริ่
มเปลี่
ยนไป มื
อที่
สั่
นไหวไปตามวั
ย
ของท่
าน แต่
กลั
บทำ
�ให้
การเขี
ยนรู
ปใน
แนวอิ
มเพรชชั่
น
นิ
สซึ่
ม (Impressionism)
และ
เอ็
กเพรสชั่
นนิ
สซึ่
ม
(Expressionism)
ของท่
านมี
พลั
งได้
อย่
างไม่
สั่
นคลอน
ทั้
งนี้
เป็
นเพราะพลั
งอั
นถู
กขั
บเคลื่
อนออกมาจากภายใน
ตั
ว และประสบการณ์
ที่
สั่
งสมมาอย่
างยาวนานของท่
าน
ทำ
�ให้
ได้
ผลงานที่
เต็
มเปี่
ยมไปด้
วยพลั
ง และดู
มี
อารมณ์
ไหวพลิ้
วไปตามมื
อที่
สั่
น ซึ่
งเรี
ยกได้
ว่
าเป็
น
“ยุ
คสั่
นสู้
”
ของท่
าน ที่
ไม่
ได้
เป็
นผลเสี
ยหรื
ออุ
ปสรรคแต่
อย่
างใดกั
บ
การทำ
�งานศิ
ลปะในแนวนี้
ผิ
ดกั
บการทำ
�งานศิ
ลปะที่
ต้
อง
ใช้
การตั
ดเส้
นอย่
างละเอี
ยดอ่
อน เช่
น งานภาพเขี
ยนไทย
หรื
องานจิ
ตรกรรมฝาผนั
ง และสำ
�หรั
บงานในแนว
เอ็
กเพรชชั่
นนิ
สซึ่
ม ซึ่
งเป็
นผลงานเขี
ยนสี
น้ำ
�มั
นใน
ช่
วงหลั
งของศาสตราจารย์
ประกิ
ตนั้
น ท่
านบอกว่
า
“มั
นคั้
นออกมาจากข้
างในตั
วเราเหนื
อกว่
าอิ
มเพรชชั่
น
นิ
สซึ่
มเสี
ยอี
ก”
ล่
าสุ
ด สำ
�นั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
ได้
ขอซื้
อผลงานของท่
าน เพื่
อนำ
�ไปจั
ดแสดง ณ
หออั
ครศิ
ลปิ
น จั
งหวั
ดปทุ
มธานี
และท่
านก็
ได้
เมตตาสร้
าง
ผลงานชิ้
นใหม่
ให้
ในชื่
อภาพว่
า “ดอกไม้
แดง” ดั
งนั้
น ใคร
ที่
อยากชมผลงานยุ
ค “สั่
นสู้
” นี้
ก็
ไปชมได้
ที่
หออั
ครศิ
ลปิ
น
อาจารย์
จิ
ตร บั
วบุ
ศย์
เป็
นครู
ใหญ่
ของผมเมื่
อสมั
ย
ปี
๒๕๐๓ ท่
านได้
ไปเรี
ยนการเขี
ยนรู
ปแนวอิ
มเพรชชั่
น
นิ
สซึ่
มจากประเทศญี่
ปุ่
น กั
บครู
ชาวญี่
ปุ่
นผู้
เป็
นลู
กศิ
ษย์
ของโมเนท์
เมื่
อครั้
งก่
อนสมั
ยสงครามโลกครั้
งที่
๒ และ
ติ
ดอยู่
ในประเทศญี่
ปุ่
นกว่
า ๔ ปี
ครั้
นเมื่
อมี
โอกาสไป
ประเทศฝรั่
งเศส จึ
งได้
ไปเยี่
ยมชมบ้
านและห้
องทำ
�งาน
ศิ
ลปะของศิ
ลปิ
นดั
งอย่
าง โมเนท์
และ โรแดง ผู้
เป็
น
ศิ
ลปิ
นในดวงใจของท่
าน ในขณะเมื่
อพนั
กงานรั
กษาความ
ปลอดภั
ยที่
เฝ้
าห้
องเผลอ ครู
ของผมจึ
งแอบไปนั่
งเก้
าอี้
ของโรแดง พร้
อมกั
บทำ
�ท่
าหลั
บตาและก้
นสั่
น เป็
นการ
ขอพลั
งทำ
�งานจากศิ
ลปิ
นใหญ่
และพลั
งนั้
นก็
ได้
ติ
ดตั
ว
ท่
านมาจนถึ
งทุ
กวั
นนี้
ท่
านมี
ผลงานทางศิ
ลปะอั
นโด่
งดั
งที่
คนไทยทุ
ก
คนรู้
จั
กเป็
นอย่
างดี
แต่
น้
อยคนนั
กที่
จะทราบว่
าเป็
น
ผลงานของท่
าน นั่
นก็
คื
อ “พานรั
ฐธรรมนู
ญ” ที่
อนุ
สาวรี
ย์
ประชาธิ
ปไตย บนถนนราชดำ
�เนิ
น กรุ
งเทพมหานคร ซึ่
ง
เป็
นผลงานการออกแบบ และปั้
นหล่
อของท่
าน เมื่
อครั้
ง
ฉลองรั
ฐธรรมนู
ญปี
พ.ศ. ๒๔๗๕ พานรั
ฐธรรมนู
ญนี้
มี
ขนาด
๓ เมตร และน้ำ
�หนั
ก ๓ ตั
นครึ่
ง อาจารย์
ประกิ
ตใช้
เวลา
ในการทำ
�งานเกื
อบ ๓ เดื
อน เพื่
อให้
ทั
นงานเฉลิ
มฉลอง
สื
บสานงานศิ
ลป์
กมล ทั
ศนาญชลี
...เรื่
อง