Page 56 - mar53

Basic HTML Version

จั
งหวั
ดภู
เก็
ต ดิ
นแดนที่
ได้
รั
บการขนานนามว่
“ไข่
มุ
กอั
นดามั
น”
นอกเหนื
อจากทรั
พยากรธรรมชาติ
ทางทะเลที่
สมบู
รณ์
สวยงามแล้
ว ภู
เก็
ตยั
งมี
ทุ
นทาง
วั
ฒนธรรมที่
มี
ความหลากหลายทั้
งทางด้
านชาติ
พั
นธุ์
ภาษา อาหาร การแต่
งกาย และมี
สถาปั
ตยกรรมที่
มี
ความโดดเด่
นแบบชิ
โนโปรตุ
กี
ส ซึ่
งเป็
นอาคารที่
เต็
มไป
ด้
วยเรื่
องราวทางประวั
ติ
ศาสตร์
และเมื่
อวั
นที่
๑๙ – ๒๑
กุ
มภาพั
นธ์
๒๕๕๓ ที่
ผ่
านมา
กระทรวงวั
ฒนธรรม
โดย
สำ
�นั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
(สวช.)
ร่
วมกั
จั
งหวั
ดภู
เก็
จั
ดกิ
จกรรม
“สายใยวั
ฒนธรรม
สานสั
มพั
นธ์
ชาวภู
เก็
ต”
ซึ่
งเป็
นกิ
จกรรมหนึ่
งในการ
จั
ดงาน
“ตรุ
ษจี
น ย้
อนอดี
ตเมื
องภู
เก็
ต ครั้
งที่
๑๑”
ชาวภู
เก็
ตและนั
กท่
องเที่
ยวจากที่
ต่
างๆ ได้
เดิ
นทาง
มาร่
วมกิ
จกรรม
“สายใยวั
ฒนธรรม สานสั
มพั
นธ์
ชาว
ภู
เก็
ต”
กั
นอย่
างล้
นหลาม ได้
เห็
นถึ
งภาพของพ่
อแม่
ผู้
ปกครองที่
ต่
างพาลู
กหลานมาร่
วม
อบรมการเขี
ยน
การ์
ตู
ซึ่
งการจั
ดงาน ๓ วั
นที่
ผ่
านมา ทำ
�ให้
ได้
งานศิ
ลปะ
ที่
นอกจากจะมี
ความสวยงามแล้
วยั
งสะท้
อนวิ
ถี
ชี
วิ
ตและ
ความคิ
ดของชาวภู
เก็
ตอี
กด้
วย นอกจากนั้
นแล้
วสวช.ยั
ได้
จั
ดให้
มี
การเสวนาทางวิ
ชาการ
เรื่
อง “สาวภู
เก็
ต เป็
ยอนยา-ยะหยา หรื
อ บะบ๋
า” และเรื่
อง “การอยู่
ร่
วมกั
อย่
างสั
นติ
สุ
ขของกลุ่
มชาติ
พั
นธุ์
ในจั
งหวั
ดภู
เก็
ต” ซึ่
งการ
ได้
รั
บฟั
งการบรรยายทั้
ง ๒ เรื่
อง ทำ
�ให้
เรามองเห็
นอดี
และเข้
าใจความเป็
นไปในปั
จจุ
บั
นของชาวภู
เก็
ตได้
สวช.จั
ดกิ
จกรรมลงใต้
“สายใยวั
ฒนธรรม สานสั
มพั
นธ์
ชาวภู
เก็
ต”
และในบริ
เวณสวนเฉลิ
มพระเกี
ยรติ
๗๒ พรรษา
มหาราชิ
นี
ยั
งได้
มี
การจั
นิ
ทรรศการ “สายใยวั
ฒนธรรม
สานสั
มพั
นธ์
ชาวภู
เก็
ต”
ซึ่
งบอกเล่
าประวั
ติ
ศาสตร์
ที่
มา การอพยพย้
ายถิ่
นฐานจนกลายมาเป็
นภู
เก็
ตอย่
าง
ในทุ
กวั
นนี้
และเมื่
อเราเดิ
นชมไปรอบๆ บริ
เวณงานเรา
จะได้
พบกั
การสาธิ
ตและแข่
งขั
นปรุ
งอาหารพื้
นถิ่
ภู
เก็
ต และการ
สา ธิ
ตผล ง าน
ท า ง ศิ
ล ป
วั
ฒ น ธ ร ร ม
โดยได้
รั
บความ
ร่
ว ม มื
อ เ ป็
อ ย่
า ง ดี
จ า ก
ภาคี
เครื
อข่
าย
ท ง วั
ฒน ธ ร ร ม
โ ค ร ง ก า ร
วั
ฒนธรรมไทย
ส า ย ใ ย ชุ
ม ช น
แ ล ะ ศิ
ล ปิ
น ใ น
พื้
น ที่
จั
ง ห วั
ภู
เก็
๕๔