Page 45 - mar53

Basic HTML Version

๔๓
ขั
บร้
องเพลงนี้
มาก”
ความไพเราะในเพลงของท่
าน ไม่
เพี
ยงได้
รั
ความนิ
ยมแต่
ในประเทศไทยเท่
านั้
น ท่
านเล่
าว่
า “ดิ
ฉั
เคยไปเวี
ยงจั
นทน์
ไปดู
หนั
ง พอหนั
งเลิ
ก เขาก็
ยื
น ดิ
ฉั
ก็
นึ
กว่
าจะเปิ
ดเพลงสรรเสริ
ญ เขากลั
บเปิ
ดเพลงดิ
ฉั
(หั
วเราะ)
เพลงอาลั
ยลา
ที่
ร้
องว่
า ...ดึ
กแล้
วคุ
ณขา
หมดเวลาขอลาก่
อน...”
นอกจากพรสวรรค์
ในด้
านการขั
บร้
องแล้
ว ท่
าน
ก็
ยั
งได้
รั
บเชิ
ญให้
ไปร่
วมแสดงละครเวที
ที่
ต้
องใช้
ความ
สามารถทั้
งการขั
บร้
องและการแสดงร่
วมกั
นด้
วย ท่
าน
เล่
าว่
า เมื่
อมี
การนำ
�เรื่
อง
“จุ
ฬาตรี
คู
ณ”
มาดั
ดแปลง
ทำ
�เป็
นละคร สำ
�หรั
บเล่
นบนเวที
ศาลาเฉลิ
มไทย โดยมี
ครู
แก้
วเป็
นทั้
งผู้
เขี
ยนบท และกำ
�กั
บการแสดง เพื่
อหา
ทุ
นสร้
างพระราชานุ
สาวรี
ย์
รั
ชกาลที่
๖ ณ บริ
เวณลาน
หน้
าสวนลุ
มพิ
นี
ดิ
ฉั
นก็
ยิ
นดี
มากที่
ได้
รั
บบทเป็
นดาราราย
เพราะนามสกุ
ล โมรากุ
ล เป็
นนามสกุ
ลพระราชทาน จาก
รั
ชกาลที่
๖ พอซ้
อมใหญ่
ในเรื่
อง เจ้
าหญิ
งต้
องจุ
มพิ
พราหมณ์
แก่
ที
ปิ
ดตาข้
างนึ
งซึ
งแสดงโดยคุ
ณ ส.อาสนจิ
นดา
เขาบอก ให้
เจ้
าหญิ
งจุ
มพิ
ต เกล้
ากระหม่
อมจะหาย
ระหว่
างซ้
อมคุ
ณ ส. เขาก็
ลื
มตาจ้
องดิ
ฉั
น เราก็
เด็
ในวั
ง ก็
อายซิ
เอ๊
ะ! ทำ
�ยั
งไง ครู
ก็
ไม่
มาสอนว่
าจะจู
บยั
งไง
คิ
ดไป คิ
ดมา ดิ
ฉั
นเลยถาม แล้
วคุ
ณบอดข้
างไหนหล่
ะ ก็
ลื
มตามองดิ
ฉั
นอย่
างนี้
ดิ
ฉั
นทำ
�ไม่
ถู
ก (หั
วเราะ) ครู
แก้
ก็
บอก เออ! ลื
ม ไม่
ได้
สอนมั
ณฑนา เบี่
ยงตั
วซิ
อย่
างนี้
ข้
างหลั
งก็
ไม่
เห็
น แล้
วก็
รั
วกลอง รี่
ไฟ ก็
เอาตาบอดออก
กลายเป็
นพระเอก เอ้
อ! ก็
ไม่
บอก (หั
วเราะ)...เรื่
องนี้
เล่
อยู่
๒๑ วั
น มี
คนเข้
าชมแน่
น เก็
บเงิ
นได้
เป็
นล้
าน แล้
ก็
สร้
างพระราชานุ
สาวรี
ย์
ได้
สำ
�เร็
จตามวั
ตถุ
ประสงค์
พอ
จบจาก จุ
ฬาตรี
คู
ณ อี
กปี
เดี
ยวดิ
ฉั
นก็
แต่
งงาน พ.ศ.๒๔๙๔
เดื
อนพฤศจิ
กายน”
เมื่
อแต่
งงานแล้
วท่
านก็
ลาออกจากวงดนตรี
กรม
ประชาสั
มพั
นธ์
ในขณะโด่
งดั
งอย่
างเต็
มที่
และมี
อายุ
เพี
ยง ๒๙ ปี
เท่
านั้
น แต่
ท่
านก็
ได้
ฝากผลงานและความ
สามารถไว้
ในความทรงจำ
�ของผู้
ฟั
งอย่
างมิ
เสื่
อมคลาย
หลายคนอาจเข้
าใจว่
าท่
านได้
อำ
�ลาวงการไปโดยไม่
กลั
มาร้
องอี
กเลย เรื่
องนี้
ท่
านเล่
าว่
า “ความจริ
งไม่
ได้
ไปไหน
ก็
ยั
งทำ
�งานด้
านนี้
อยู่
เสมอ เป็
นนั
กพากย์
ภาพยนตร์
ขั
ร้
องเพลงในงานราชการพิ
เศษและงานการกุ
ศลและยั
ได้
บั
นทึ
กแผ่
นเสี
ยงเพลงพระราชนิ
พนธ์
และเพลงส่
วน
ตั
วจนถึ
งปี
พ.ศ.๒๕๑๕ และก็
ทำ
�หน้
าที่
เป็
นวิ
ทยากร
ในงานสั
มมนาวิ
ชาการดนตรี
ในมหาวิ
ทยาลั
ย ร่
วมให้
ข้
อมู
ลประวั
ติ
ศาสตร์
ดนตรี
เพื่
อการอนุ
รั
กษ์
สื
บสานเรื่
อง
เพลงดนตรี
กั
บการเมื
องไทย ดนตรี
กั
บการละครและ
ภาพยนตร์
อย่
างที่
มหาวิ
ทยาลั
ยมหิ
ดล ก็
มาเชิ
ญให้
ไปพู
ให้
นั
กศึ
กษาระดั
บปริ
ญญาโท ปริ
ญญาเอกฟั
ง เขามาเก็
ข้
อมู
ลไปสอบปริ
ญญาเอก...
คุ
ณจารุ
ลิ
นทร์
มุ
สิ
กะพงษ์
ศาสตราจารย์
นายแพทย์
พู
นพิ
ศ อมาตยกุ
ก็
ยั
งไปมา
หาสู่
กั
นเสมอ...
...แล้
วถ้
าหากเป็
นงานการกุ
ศลดิ
ฉั
นจะช่
วยเสมอ
ดิ
ฉั
นเข้
าเฝ้
าสมเด็
จพระเทพฯ ๒ หน ทำ
�งานเพื่
อถวาย
เงิ
น อย่
าง
มู
ลนิ
ธิ
ราชสุ
ดา
เด็
กพิ
การนี่
ดิ
ฉั
นก็
ถวาย
๒๐๐,๐๐๐ บาท พระองค์
ท่
านยั
งรั
บสั่
งกั
บหมอพู
นพิ
ศ ว่
“มั
ณฑนารู้
มั้
ยว่
า สตางค์
ของเขาทำ
�ประโยชน์
ให้
กั
นั
กศึ
กษามากมาย แจ้
งดอกผลให้
รู้
หรื
อเปล่
า?” ซึ่
งความ
จริ
งทางมู
ลนิ
ธิ
ก็
มี
หนั
งสื
อมาแจ้
งทุ
ก ๖ เดื
อน
และเมื่
อครั้
งจั
“๗๒ ปี
มั
ณฑนา”
เมื่
อปี
๒๕๓๘ ก็
ได้
มอบเงิ
นเพื่
อตั้
งเป็
นกองทุ
นมั
ณฑนา โมรากุ