Page 17 - mar53

Basic HTML Version

๑๕
เจ้
าภาษี
หรื
อนายอากร
แ ล้
ว พ ร ะ อ ง ค์
จึ
ง นำ
ร า ย ไ ด้
เ ห ล่
า นี้
ม า
ทำ
�นุ
บำ
�รุ
งบ้
านเมื
องใน
ทุ
กด้
าน และมี
เงิ
นจำ
�นวน
หนึ่
งที่
เหลื
อ ทรงพระ
กรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ ให้
จั
เก็
บไว้
ใช้
ในยามจำ
�เป็
เ รี
ยกว่
า เงิ
นถุ
งแดง
ถื
อได้
ว่
าพระองค์
เป็
พระมหากษั
ตริ
ย์
ที่
ทรง
เปี่
ยมล้
นด้
วยคุ
ณธรรม
ด้
านการศึ
กษา
พระองค์
ทรงให้
ความสำ
�คั
ญกั
บการ
ศึ
กษาของทุ
กชนชั้
น เห็
นได้
จากทรงพระกรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ
ให้
ชนต่
างชาติ
เข้
ามาเผยแผ่
ศาสนา ทำ
�ให้
คณะบาทหลวงและ
มิ
ชชั
นนารี
(หมอสอนศาสนา) ได้
เข้
ามาทำ
�การสอนด้
วย และ
ทรงโปรดเกล้
าฯ ให้
มี
การจั
ดสร้
างโรงเรี
ยนราษฎร์
แห่
งแรกของ
ไทย ปั
จจุ
บั
นคื
อโรงเรี
ยนกรุ
งเทพคริ
สเตี
ยนวิ
ทยาลั
ย ส่
วนสตรี
ก็
ให้
มี
การเรี
ยนการสอนในวั
ง นอกจากนี้
ทรงโปรดเกล้
าฯ ให้
สอบสวนตำ
�ราในแขนงต่
างๆ เช่
น อั
กษรศาสตร์
พุ
ทธศาสตร์
แพทย์
ศาสตร์
โดยจารึ
กตามพระอารามต่
างๆ เช่
น ที่
วั
พระเชตุ
พนวิ
มลมั
งคลารามหรื
อวั
ดโพธิ์
ซึ่
งต่
อมาได้
รั
บการยกย่
อง
ให้
เป็
น มหาวิ
ทยาลั
ยแห่
งแรกของไทย
ด้
านศิ
ลปวั
ฒนธรรมและวรรณคดี
ในรั
ชสมั
ยของ
พระองค์
เนื่
องจากเศรษฐกิ
จของประเทศมี
ความมั่
นคง จึ
งทำ
�ให้
เกิ
ดการเปลี่
ยนแปลงไปในทางที่
ดี
ขึ้
น ด้
านศิ
ลปวั
ฒนธรรมและ
วรรณคดี
ก็
เช่
นกั
น พระองค์
ทรงทำ
�นุ
บำ
�รุ
งและฟื้
นฟู
ศิ
ลปะใน
แขนงต่
างๆ
ด้
านสถาปั
ตยกรรมและจิ
ตรกรรม
ถื
อเป็
นยุ
คแห่
งการ
สร้
างและปฏิ
สั
งขรณ์
วั
ดวาอารามครั้
งใหญ่
รวมไปถึ
งพระบรม
มหาราชวั
งก็
ได้
รั
บการบู
รณะและก่
อสร้
างอย่
างขนานใหญ่
เช่
นเดี
ยวกั
น ซึ่
งสถาปั
ตยกรรมโดยส่
วนใหญ่
มี
อิ
ทธิ
พลของจี
เข้
ามามาก เนื่
องจากทรงค้
าขายกั
บชาวจี
นประกอบกั
บทรงมี
พระราชหฤทั
ยนิ
ยมศิ
ลปะจี
นอยู
มาก เช่
น ยอดมณฑป ยอดซุ
มประตู
ยอดหอระฆั
ง นอกจากนี้
พวกสถู
ปหรื
อปรางค์
ที่
สำ
�คั
ญเช่
พระปรางค์
วั
ดอรุ
ณฯ ที่
ได้
ชื่
อว่
าเป็
นพระปรางค์
ที่
มี
รู
ปทรง
สง่
างดงามมากที่
สุ
ด ส่
วนภาพจิ
ตรกรรมฝาผนั
งที่
นั
บว่
างดงาม
คื
อ ในพระวิ
หารหลวงและพระอุ
โบสถวั
ดสุ
ทั
ศน์
ฯ พระอุ
โบสถ
วั
ดพระเชตุ
พนฯ เป็
นต้
ด้
านประติ
มากรรม
ที่
โดดเด่
นมาก ได้
แก่
การสร้
าง
รู
ปยั
กษ์
ใหญ่
ยื
นถื
อกระบองที่
มี
ความงดงาม เช่
น ที่
วั
ดพระแก้
และวั
ดอรุ
ณฯ และการสลั
กตั
วตุ๊
กตาหิ
นประดั
บไว้
ตามสถานที่
ต่
างๆ ซึ่
งตุ๊
กตาหิ
นเหล่
านี้
จะปรากฏอยู่
ทั่
วไปตามพระอารามต่
างๆ
ที่
ทรงสร้
างและปฏิ
สั
งขรณ์
เช่
น วั
ดพระเชตุ
พนฯ วั
ดพระแก้
และในพระบรมมหาราชวั
ส่
วนด้
าน
วรรณคดี
นั้
น พระองค์
ทรงพระราชนิ
พนธ์
ไว้
หลายเรื่
องด้
วยกั
น เช่
น โคลงปราบดาภิ
เษก เสภาเรื่
อง
ขุ
นช้
างขุ
นแผน บทละครนอกเรื่
องสั
งข์
ศิ
ลป์
ชั
ย ส่
วนวรรณกรรม
ทางพระพุ
ทธศาสนา ก็
มี
กวี
หลายท่
านช่
วยกั
นแต่
งขึ้
นทั้
งภาษา
ไทยและภาษามคธ (บาลี
) เช่
น ปฐมสมโพธิ
กถา ร่
ายยาวมหา
เวสสั
นดรชาดก ๑๑ กั
ณฑ์
สมุ
ทรโฆษคำ
�ฉั
นท์
ลิ
ลิ
ตกระบวน
พยุ
หยาตราพระกฐิ
น เป็
นต้
ด้
านการบำ
�รุ
งพระพุ
ทธศาสนา
พระบาทสมเด็
พระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว ทรงเป็
นเอกอั
ครศาสนู
ปถั
มภกตาม
พระราชประเพณี
ทรงมี
พระราชศรั
ทธาแก่
กล้
าในบวร
พระพุ
ทธศาสนา ทรงบำ
�เพ็
ญพระราชกุ
ศลอยู่
เป็
นนิ
จ อี
กทั้
พระองค์
ยั
งส่
งเสริ
มการเผยแผ่
พระพุ
ทธศาสนาและได้
มี
พระบรมราชานุ
ญาตให้
คณะบาทหลวงและมิ
ชชั
นนารี
เข้
ามา
เผยแผ่
คริ
สต์
ศาสนาในประเทศไทย ส่
วนทางพระพุ
ทธศาสนา
ได้
ทรงพระกรุ
ณาโปรดเกล้
าฯ ให้
มี
การปฏิ
รู
ปพระพุ
ทธศาสนาขึ้
โดยให้
สมเด็
จพระเจ้
าน้
องยาเธอ เจ้
าฟ้
ามงกุ
ฎ ขณะทรงผนวชอยู่
ได้
จั
ดตั้
งคณะสงฆ์
ธรรมยุ
ติ
กนิ
กาย จนทำ
�ให้
พระสงฆ์
เคร่
งครั
ดใน
พระธรรมวิ
นั
ยกั
นมากขึ้
พระบาทสมเด็
จพระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว ทรงครองราช
สมบั
ติ
อยู่
๒๗ ปี
เสด็
จสวรรคตเมื่
อวั
นที่
๒ เมษายน พ.ศ. ๒๓๙๔
พระชนมายุ
ได้
๖๓ พรรษา
จากพระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณอั
นใหญ่
หลวงของพระบาท
สมเด็
จพระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
วที่
มี
ต่
อปวงชนชาวไทยคณะรั
ฐมนตรี
ได้
มี
มติ
เมื่
อวั
นที่
๑๗ กุ
มภาพั
นธ์
๒๕๔๑ เห็
นชอบให้
ถวาย
พระราชสมั
ญญามหาราชในพระบาทสมเด็
จพระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
วว่
พระมหาเจษฎาราชเจ้
แปลว่
พระเจ้
าแผ่
นดิ
นผู้
เป็
ใหญ่
แต่
ก่
อนหน้
านี้
รั
ฐบาลได้
กำ
�หนดให้
วั
นที่
๓๑ มี
นาคม ของ
ทุ
กปี
เป็
นวั
นสำ
�คั
ญของชาติ
คื
วั
นที่
ระลึ
กมหาเจษฎาบดิ
นทร์
พระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
และประกาศให้
ข้
าราชการและประชาชน
ประกอบพิ
ธี
ถวายราชสั
กการะ โดยมิ
ต้
องถื
อเป็
นวั
นหยุ
ดราชการ
เนื่
องในโอกาสวั
นคล้
ายวั
นพระราชสมภพของพระบาท
สมเด็
จพระนั่
งเกล้
าเจ้
าอยู่
หั
ว วั
นที่
๓๑ มี
นาคม ๒๕๕๓ ที่
จะถึ
งนี้
สำ
�นั
กงานคณะกรรมการวั
ฒนธรรมแห่
งชาติ
กระทรวงวั
ฒนธรรม
จึ
งขอเชิ
ญชวนหน่
วยงานภาครั
ฐ เอกชนและประชาชนชาวไทย
ทุ
กคนร่
วมน้
อมรำ
�ลึ
กถึ
งพระมหากรุ
ณาธิ
คุ
ณของพระองค์
ท่
าน
โดยการวางพานพุ่
มถวายบั
งคมพระบรมรู
ปของพระองค์
ณ ลาน
พลั
บพลามหาเจษฎาบดิ
นทร์
(ศาลาเฉลิ
มไทยเดิ
ม) ที่
ทรงทำ
�นุ
บำ
�รุ
งพั
ฒนาชาติ
บ้
านเมื
องของเราให้
มี
ความเจริ
ญรุ่
งเรื
องในทุ
ด้
าน ตลอดจนรั
กษาความเป็
นชาติ
ไทยของเราไว้
ได้
สื
บไป
*********************************
ข้
อมู
ลจากหนั
งสื
๕๓ พระมหากษั
ตริ
ย์
ไทย ธ ทรงครองใจไทยทั้
งชาติ
รองศาสตราจารย์
ดนั
ย ไชยโยธา บรรณาธิ
การ