Page 51 - fab53

Basic HTML Version

และการนำ
�เอาประสบการณ์
กั
บสารสนเทศใหม่
ๆ มาผสม
รวมเข้
าด้
วยกั
น มั
นเกิ
ดขึ้
นและถู
กนำ
�ไปประยุ
กต์
ใช้
ในใจของ
คนที่
รู้
สำ
�หรั
บในแง่
ขององค์
กรนั้
น ความรู้
มั
กจะสั่
งสมอยู่
ใน
รู
ปของเอกสาร หรื
อแฟ้
มเก็
บเอกสารต่
าง ๆ รวมไปถึ
งสั่
งสม
อยู่
ในการทำ
�งาน ในกระบวนการ อยู่
ในการปฏิ
บั
ติ
งาน และ
อยู่
ในบรรทั
ดฐานขององค์
กรนั่
นเอง
ขอบเขตของความรู้
แบ่
งเป็
น ๒ ประเภท คื
๑. ความรู้
ที่
ฝั
งอยู่
ในคน (Tacit Knowledge)
เป็
นความรู้
ที่
ได้
จากประสบการณ์
พรสวรรค์
หรื
อการเรี
ยน
รู้
ของแต่
ละบุ
คคลในการทำ
�ความเข้
าใจในสิ่
งต่
าง ๆ เป็
ความรู้
ที่
ไม่
สามารถถ่
ายทอดออกมาเป็
นคำ
�พู
ดหรื
ลายลั
กษณ์
อั
กษรได้
โดยง่
าย เช่
น ทั
กษะในการทำ
�งาน
งานฝี
มื
อ หรื
อการคิ
ดเชิ
งวิ
เคราะห์
๒. ความรู้
ที่
ชั
ดแจ้
ง (Explicit Knowledge)
เป็
ความรู้
ที่
สามารถรวบรวม ถ่
ายทอดได้
โดยผ่
านวิ
ธี
ต่
างๆ เช่
การบั
นทึ
กเป็
นลายลั
กษณ์
อั
กษร ทฤษฎี
คู่
มื
อต่
าง ๆ
ระบบการจั
ดการความรู้
ในองค์
การ
การที่
ส่
วนราชการมี
รู
ปแบบที่
ชั
ดเจนของการรวบรวม
ฐานความรู้
ที่
มี
อยู่
ในส่
วนราชการ ซึ่
งกระจั
ดกระจายอยู่
ใน
ตั
วบุ
คคลหรื
อเอกสาร มาพั
ฒนาให้
เป็
นองค์
ความรู้
และมี
การถ่
ายทอดและแบ่
งปั
นความรู้
อย่
างเป็
นระบบ เพื่
อให้
ทุ
คนในองค์
กรสามารถเข้
าถึ
งความรู้
และมี
การพั
ฒนาตนเอง
ให้
เป็
นผู้
รู้
สามารถนำ
�ความรู้
มาใช้
ในการปฏิ
บั
ติ
งานได้
อย่
าง
มี
ประสิ
ทธิ
ภาพ และพั
ฒนาส่
วนราชการเข้
าสู่
รู
ปแบบของ
องค์
การแห่
งการเรี
ยนรู้
(Learning Organization) ที่
ยั่
งยื
กิ
จกรรมแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู้
การจั
ดการความรู้
ประกอบด้
วยกระบวนการ
หลั
ก ๆ ได้
แก่
การค้
นหาความรู้
การสร้
างและแสวงหาความรู้
การจั
ดการความรู้
ให้
เป็
นระบบ การประมวลและกลั่
นกรอง
ความรู้
การเข้
าถึ
งความรู้
การแบ่
งปั
นแลกเปลี่
ยนความรู้
และการเรี
ยนรู้
เพื่
อให้
มี
การนำ
�ความรู้
ไปใช้
ให้
เกิ
ดประโยชน์
สู
งสุ
ดต่
อองค์
กร จึ
งมี
การใช้
เครื่
องมื
อหลากหลายประเภทใน
การถ่
ายทอดและแลกเปลี่
ยนความรู้
รวมทั้
งช่
วยให้
ผู้
ต้
องการ
ใช้
ข้
อมู
ลสามารถเข้
าถึ
งข้
อมู
ลได้
โดยสะดวก เพื่
อที
จะส่
งเสริ
ให้
การจั
ดการความรู้
ในองค์
กรมี
ประสิ
ทธิ
ภาพและบรรลุ
วั
ตถุ
ประสงค์
ที่
ตั้
งไว้
กิ
จกรรมการแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู้
มี
หลากหลายประเภท
ทั้
งที่
เหมาะสมกั
บความรู้
ที่
เป็
นประเภทความรู้
ที่
ชั
ดแจ้
(Explicit Knowledge) เช่
น การจั
ดเก็
บความรู้
และวิ
ธี
ปฏิ
บั
ติ
ที่
เป็
นเลิ
ศ การใช้
เทคนิ
คการเล่
าเรื่
อง (Story Telling)
เป็
นต้
น และความรู้
ที่
ฝั
งอยู่
ในคน (Tacit Knowledge) เช่
การจั
ดตั้
งที
มข้
ามสายงาน (Cross-Function Team) ชุ
มชน
นั
กปฏิ
บั
ติ
(Communities of Practice : CoP) ระบบพี่
เลี้
ยง
(Mentoring System) การสั
บเปลี่
ยนงาน (Job Rotation)
และการยื
มตั
วบุ
คลากรมาช่
วยงาน (Secondment) .เวที
สำ
�หรั
บการแลกเปลี่
ยนความรู้
(Knowledge Forum)
การจั
ดกิ
จกรรมแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู้
ในแต่
ละองค์
การ
ควรสอดคล้
องกั
บวั
ฒนธรรมขององค์
การนั้
น ๆ โดยแต่
ละ
หน่
วยงานมี
ธรรมชาติ
ในการทำ
�งานไม่
เหมื
อนกั
น ดั
งนั้
นการ
เลื
อกกิ
จกรรมแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู้
จึ
งไม่
จำ
�เป็
นต้
องเหมื
อนกั
ขึ้
นอยู่
ความพร้
อมของบุ
คลากรและหน่
วยงาน
โทมั
ส เอช. ดาเวนพอร์
ท และลอเรนซ์
พรู
แซค.นิ
ทั
ศน์
วิ
เทศ แปล.การจั
ดการความรู้
.(บริ
ษั
ทพิ
มพ์
ดี
จำ
�กั
ด: กรุ
งเทพฯ),๒๕๔๒,หน้
า๘.
สำ
�นั
กงาน ก.พ.ร.และสถาบั
นเพิ่
มผลผลิ
ตแห่
งชาติ
.คู่
มื
อการสร้
างกิ
จกรรมแลกเปลี่
ยนเรี
ยนรู้
.(บริ
ษั
ท สหมิ
ตร พริ้
นติ้
งแอนด์
พั
บลิ
สชิ่
จำ
�กั
ด:กรุ
งเทพฯ),๒๕๔๙,หน้
า ๖.
๔๙