Page 39 - fab53

และบริสุ ทธิ์ใจ ผมจึงทำ�งานศิลปะอย่างหมกมุ่น ทุ่ มเท
ต่อเนื่องมาตลอด ๔๐ ปี โดยมีจุดหมายเพียงประการ
เดียว คือ สร้างสรรค์ผลงานให้มีคุณค่าทาง “ศิลปะ”
สูงที่สุดเท่าที่ จะทำ�ได้ และผลสำ�เร็จทั้งหมดที่ กล่าว
มานั้ นจึงเป็นเพียงผลพลอยได้ที่ตามมา”
สำ�หรับแนวทางในการสร้างสรรค์งานนั้ น ท่านเล่า
ว่า “ผมจบปริญญาตรี สาขาภาพพิมพ์ มาจบปริญญาโท
ในสาขาจิ ตรกรรม แต่ ส่ วนใหญ่ ก็ ทำ�ทั้ งสองอย่ าง
ภาพพิ มพ์เนี่ยช่วงกลับจากอเมริกาก็ยังทำ�เยอะ เพราะ
สมัยนู้น ศิลปะที่จะไปโกอินเตอร์ ยากมาก เป็นไปไม่ได้
มี อยู่ทางเดี ยว คือ เป็นภาพพิมพ์ เพราะภาพพิมพ์มี จัด
ประกวดระดับโลก ระดับนานาชาติหลายประเทศ แล้ว
ก็เพี ยงแค่เอาผลงานภาพพิมพ์ใส่ กระบอก ม้วนส่งทาง
ไปรษณี ย์ ได้ มาเลิกเมื่อซักประมาณปี ๑๙๘๕ เพราะ
ว่ามันใช้เวลาในการทำ �งานเยอะ กระบวนการเยอะมาก
ต้องคิ ด ต้องสเก็ ต ทำ�แม่พิมพ์แต่ละขั้น ต้องทดลอง
พิ มพ์ แก้ไขแม่พิมพ์ กว่าจะเสร็จเป็นงานเนี่ยนะ ปีนึง
ทำ�ได้ซั ก ๕ – ๖ ชิ้น แต่ถ้าเป็ นงานจิตรกรรมจะทำ�ได้
๒๐ กว่าชิ้น... แล้วภาพพิมพ์เนี่ ยบ้านเรายังไม่ค่อยชอบ
ไม่ค่อยนิ ยมกันเท่าไหร่ เพราะไม่เข้าใจว่าภาพพิมพ์มั นมี
Edition คื อไม่ได้มี ชิ้ นเดียวนะ ประติมากรรมถ้าหล่อก็
มี หลายชิ้น เข้าใจว่านี่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำ�ให้เขาไม่
ค่อยชอบว่า เอ๊ะมันไม่ใช่ มีชิ้ นเดียว แต่ในทางภาพพิมพ์
หรือในทางประติมากรรมเขาสามารถหล่อ หรือพิมพ์ได้
หลายชิ้น แต่เขาจะจำ�กั ดจำ�นวนพิมพ์เอาไว้ จะเซ็นไว้
เลยว่าชิ้นนี้ มีกี่รูป เช่ น ๑/๙ คือชิ้นที่ ๑ ในจำ�นวน ๙ ชิ้น
ต้องมี limited Edition คือไม่ใช่ ว่าขายดี พิมพ์ ใหญ่เลย
(หัวเราะ) ถ้ าอย่างนั้นมันก็จะไม่มีคุณค่า
ผมประสบความสำ�เร็ จจากภาพพิมพ์ ส่งไปต่าง
ประเทศได้รางวัล ๓ ครั้ ง มีบางชิ้นเป็ นชิ้นเดี ยวกับที่
ได้รางวัลเหรียญทองในเมืองไทยก็ มี... ซึ่ งตอนนั้นผม
ได้รางวัลเหรี ยญทองในเมืองไทยครบ ๓ ครั้งและเขา
ก็ ประกาศให้เป็ นศิลปินชั้นเยี่ยมเขาก็ ไม่ให้ ส่งผลงาน
ประกวดแล้ว... พอหลังนั้นเขาก็เชิญไปร่ วมเป็นกรรมการ
ตัดสินมาโดยตลอด
ปั จ จุ บั นพว ก โ กอิ น เ ตอ ร์ แม้ ก ร ะ ทั่ ง ง า น
ประติมากรรม จิตรกรรม หรือตัวศิลปินเองก็ไปด้ วย ไป
ทำ�งานจัดวางในประเทศนั้น ก็ทำ�กันแล้ว ก็ไปกันได้ มี
ทุนต่างประเทศให้ ไปทำ�งาน ให้ส่งงานใหญ่ๆไปได้ ซึ่ง
สมัยก่อนไม่ มี
หลั งจากปี ๑๙๘๕ งานก็จะเป็นจิ ตรกรรมแล้ว
แต่โดยที่ เราฝึกฝนมาทางภาพพิมพ์ เวลาผมทำ �งาน
จิตรกรรม ก็ จะคิ ดเทคนิ คประยุกต์ มาจากเทคนิค
ภาพพิมพ์ จนคนตั้งเยอะเข้าใจผิดคิดว่างานพวกนี้เป็ น
ภาพพิมพ์ เทคนิ คคือจะลงสีไปเยอะๆก่ อน แล้วก็กลิ้ง
ด้วยหมึกดำ�ทั้งหมด ผมจะเรียกว่าเทคนิคผสม คืออย่าง
ใช้กระดาษผิวมันลื่น แล้ วก็ลงสีไปหลายๆสีให้ เต็มเลย
แล้วก็เอาเครื่ องมือที่ ทำ�ขึ้นมาเอง เป็ นซี่ๆ คล้ายหวี
๓๗