Page 12 - fab53

ในวั นที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันคล้าย
วันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นภาลัย (รัชกาลที่ ๒) พระมหากษั ตริย์ แห่งราชวงศ์จักรี
ของไทย
พระบาทสมเด็ จพระพุทธเลิ ศหล้านภาลัย ทรง
มี พระนามเดิ มว่ า ฉิ ม เป็นพระราชโอรสในพระบาท
สมเด็ จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช กั บสมเด็จ
พระอมริ นทรา พระบรมราชิ นี พระองค์ทรงพระราช
สมภพตรงกั บวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๓๑๐ (ปีที่
กรุ งศรี อยุธยาแตกเสี ยแก่พม่ า) เวลานั้นพระบาท
สมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลกยังดำ�รงตำ�แหน่ งหลวง
ยกระบัตรเมืองราชบุรี เมื่ อพระเจ้าตากสิ นมหาราชทรง
กอบกู้ กรุงศรีอยุธยาได้สำ �เร็ จ และทรงขึ้นครองราชย์
ตั้งแต่ กรุงธนบุ รีเป็นเมืองหลวงใหม่ พระบาทสมเด็ จ
พระพุ ทธยอดฟ้าจุฬาโลกได้มารับราชการในกรุงธนบุรี
และพระบาทสมเด็ จพระพุทธเลิ ศหล้านภาลั ยทรงมี
พระชั นษา ๒ พรรษา ได้ตามเสด็ จเข้ ามาอยู่ ใน
กรุ งธนบุรีด้วย ครั้นเจริญพระชนมายุสมควรที่ จะศึกษา
ทรงได้ เข้าศึ กษาอักษรสมั ยใหม่ สำ �นั กพระวั นรัตน์
(ทองอยู่ ) วั ดบางหว้ าใหญ่ (วั ดระฆังโฆสิ ตาราม
ฟากธนบุรี กรุ งเทพมหานครในปัจจุบัน)
ในปี พ.ศ. ๒๓๒๕ เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธ
ยอดฟ้าจุ ฬาโลกเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ สมเด็จพระพุทธ
เลิ ศหล้านภาลัยมีพระชนมายุ ๑๕ พรรษา ได้ ทรงรับ
สถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าลู กเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงอิศร
สุ นทร เมื่อพระชนมายุ ๒๐ พรรษา พระองค์ได้ดำ�รง
ตำ�แหน่ งยกกระบัตรทัพ โดยเสด็ จกรีธาทั พไปตีเมือง
ทวาย ต่ อมาพระองค์มี พระชนมายุได้ ๔๐ พรรษา ทรง
ดำ�รงพระอิสริยยศเป็นกรมพระราชวั งบวรสถานมงคล
ตำ�แหน่งพระมหาอุ ปราชแทนกรมพระราชวังบวรมหา
สุ รสิงหนาท ที่สวรรคตไปเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๔๖ ในเวลา
ต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ทรงพระประชวรและสวรรคต พระองค์ จึงได้ เสด็จขึ้ น
ครองราชย์สมบัติสืบต่อมา เป็นพระมหากษัตริย์ (รัชกาล
ที่ ๒) แห่ งราชวงศ์จักรี ซึ่งในขณะนั้นพระองค์ทรงมี
พระชนมายุ ๔๓ พรรษา
สำ �หรั บพระราชกรณียกิ จที่สำ �คั ญในสมัยของ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลั ยนั้น พระองค์
ทรงพั ฒนาประเทศชาติให้มี ความเจริญรุ่งเรืองในหลายๆ
ด้าน ได้แก่
ด้ านการปกครอง ทรงจั ดการปกครองและ
แบ่งส่วนราชการส่วนต่างๆ โดยให้มี มหาดไทยและวัง
กลาโหม กรมพระคลัง กรมเมือง กรมพระนคร
ด้านการบำ �รุงพระศาสนา ทรงฟื้นฟูพระพุทธ
ศาสนาอย่ างมากมายหลายด้าน โดยเฉพาะด้ าน
การก่ อสร้างศาสนสถาน ทรงพระกรุ ณาโปรดเกล้าฯ
ให้ ก่ อสร้ างวัดขึ้ นมาใหม่ หลายวัด และทำ �การบู รณ
ปฏิ สั งขรณ์ด้วย ได้แก่ วัดอรุณราชวราราม วัดพุทไธ
สวรรย์ วัดสุทัศนเทพวราราม วั ดราชาธิวาส วัดสุวรรณ
ดาราราม วัดราชบูรณะ วัดทรงธรรม วั ดรัชฎาธิษฐาน
วัดพระพุทธบาท วัดสังข์กระจาย วัดบวรมงคล เป็นต้น
ด้านกฎหมาย พระองค์ ได้ทรงกำ�หนดพระราช
อาญาห้ ามผู้ ใดตั้ งซ่ องสุมผู้ คนไว้ ในป่าดง การตรา
พระราชกำ�หนดห้ามมิ ให้สูบและซื้ อขายฝิ่น นอกจากนี้
สิ ริวิภา ขุนเอม...เรี ยบเรียง
ร้อยเรื่องวันสำ �คัญ
๑๐