Page 9 - apr53

Basic HTML Version

จากประกาศสงกรานต์
สู่
คำ
�ทำ
�นายโบราณ
เมื่
ออ่
านประกาศสงกรานต์
ปี
นี้
เที
ยบกั
บคำ
�ทำ
�นาย
ข้
างต้
น จะเห็
นว่
า วั
นมหาสงกรานต์
ตรงกั
บวั
นพุ
ธ วั
นเนา
ตรงกั
บวั
นพฤหั
สบดี
วั
นเถลิ
งศกตรงกั
บวั
นศุ
กร์
เขาบอก
ว่
ข้
าราชการชั้
นผู้
ใหญ่
จะได้
รั
บการยกย่
องจากต่
าง
ประเทศ ผลไม้
จะแพง ราชตระกู
ลจะมี
ความร้
อนใจ
แต่
พ่
อค้
าคหบดี
จะทำ
�มาค้
าขึ้
น มี
ผลกำ
�ไรมาก
นอกจาก
นี้
การที่
นางสงกรานต์
มี
อิ
ริ
ยาบถยื
นมาจะทำ
�ให้
เกิ
ดความ
เดื
อดร้
อนเจ็
บไข้
ส่
วนทางล้
านนาก็
มี
คำ
�พยากรณ์
ว่
ถ้
ามหาสงกรานต์
ตรงกั
บวั
นพุ
ปี
นั้
นฝนตกบ่
ทั่
วเมื
อง
หั
วปี
มี
มาก กลางปี
น้
อย ข้
าวในนาจะได้
ครึ่
งเสี
ยครึ่
ของบริ
โภคจะแพง ขุ
นนางขุ
นเมื
องจะตกต่ำ
� คนเกิ
วั
นศุ
กร์
มี
เคราะห์
คนเกิ
ดจั
นทร์
และวั
นเสาร์
มี
โชค
ส่
วนนางสงกรานต์
หลายคนดู
แล้
ว คงรู้
สึ
กว่
าไม่
ดุ
เท่
าไร โดยเฉพาะคำ
�พยากรณ์
ก็
ดู
เหมื
อนจะตรงกั
บสภาพ
บ้
านเมื
องอยู่
แล้
ว ไม่
ว่
าเรื่
องของแพง การเจ็
บไข้
ได้
ป่
วย ซึ่
สองสามปี
ที่
ผ่
านมาจะเห็
นว่
าเป็
นเรื่
องที่
เดื
อดร้
อนกั
นทั่
วโลก
สาเหตุ
หนึ่
งก็
มาจากการทำ
�ลายธรรมชาติ
ของมนุ
ษย์
ทำ
�ให้
โลกขาดสมดุ
ล จึ
งเกิ
ดภั
ยพิ
บั
ติ
มากมาย
อย่
างไรก็
ดี
แม้
นางสงกรานต์
จะดู
ไม่
ดุ
แต่
เทวี
องค์
นี้
ก็
ยื
นขี่
ลา ถื
อเหล็
กแหลมและไม้
เท้
าเสด็
จมาในปี
เสื
วั
นพุ
ธ หากมองเป็
นนั
ย ลานั้
นมั
กถู
กมองว่
าเป็
นสั
ตว์
ที่
โง่
และดื้
อรั้
น ส่
วนเสื
อโดยปกติ
ถื
อว่
าเป็
นสั
ตว์
รั
กสงบ
ยกเว้
นตอนมั
นหิ
ว มั
นก็
จะกลายเป็
นสั
ตว์
นั
กล่
าที่
อั
นตราย
และดุ
ร้
าย ขณะเดี
ยวกั
นพุ
ธคื
อ MERCURY เทพแห่
การสื่
อสาร ดั
งนั้
น นางสงกรานต์
จึ
งเป็
นเสมื
อนสั
ญญาณ
เตื
อนให้
เราตระหนั
กว่
า ปี
นี้
ควรระมั
ดระวั
งการสื่
อสารให้
ดี
อย่
าหลงผิ
ดด้
วยความเขลาหรื
อดื้
อรั้
นดั
นทุ
รั
ง (เหมื
อน
ลา) ขณะเดี
ยวกั
นก็
ต้
องมี
เหล็
กแหลม (สติ
-ปั
ญญา) คอย
กำ
�กั
บ และมี
ไม้
เท้
า (สั
มมาทิ
ฐิ
-ความเห็
นชอบ/ความคิ
ที่
ถู
กที่
ควร) เป็
นสิ่
งช่
วยพยุ
ง เพื่
อให้
เรารอดปลอดภั
ที่
สำ
�คั
ญคื
ออย่
าปล่
อยให้
ความ
“หิ
ว”
หรื
“กิ
เลสตั
ณหา”
ครอบงำ
�เป็
นอั
นขาด ไม่
ว่
าจะหิ
วเงิ
น หิ
วอำ
�นาจ หรื
อหิ
ความรั
ก ฯลฯ มิ
ฉะนั้
นแล้
ว แต่
ละคนจะเป็
นดั
งเสื
อหิ
ที่
จ้
องทำ
�ลายล้
างกั
นและกั
น ดี
แต่
ว่
านางมณฑาเธอยั
งมี
แก้
วไพฑู
ร์
หรื
อแก้
วตาแมวเป็
นอาภรณ์
เครื่
องประดั
บ ซึ่
งถื
กั
นว่
าเป็
นหิ
นที่
ช่
วยป้
องกั
นอาถรรพ์
และภั
ยพิ
บั
ติ
ต่
างๆ ได้
“สงกรานต์
เป็
นปี
ใหม่
ไทย ที่
ใช้
“น้ำ
�”
สั
ญลั
กษณ์
แห่
งความอุ
ดมสมบู
รณ์
เป็
นสื่
อแสดงถึ
งความกตั
ญญู
รู้
คุ
ณต่
ผู้
มี
พระคุ
ณต่
างๆ ไม่
ว่
าจะเป็
นการรดน้ำ
�ขอพรจากพ่
อแม่
ปู่
ย่
ตายาย ผู
ที
เราเคารพนั
บถื
อ การสรงน้
�พระหรื
อสิ
งศั
กดิ
สิ
ทธิ
ฯลฯ
ดั
งนั้
น เราจึ
งควรถื
อโอกาสนี้
มอบ “น้ำ
�ใจ” อภั
ยแก่
กั
นและ
กั
น เพื่
อแสดงความกตั
ญญู
ต่
อแผ่
นดิ
นถิ่
นเกิ
ด และเป็
นนิ
มิ
หมายของการเริ่
มต้
นปี
ใหม่
ไทยที่
ดี
ต่
อไป
..................................................................................
หมายเหตุ
:
๑. คำ
�ว่
า “ห่
า” เป็
นการวั
ดปริ
มาณน้ำ
�ฝนแบบโบราณ
กำ
�หนดว่
า ฝนตกเต็
มบาตรขนาดกลางที
รองน้
�ฝนอยู
กลางแจ้
เรี
ยกว่
า น้ำ
�ฝนห่
าหนึ่
๒. “อธิ
กมาส” หมายถึ
ง ปี
ทางจั
นทรคติ
ที่
มี
เดื
อน ๘
สองหน เช่
น ปี
๒๕๕๓ นี้
ถ้
าดู
ตามปฏิ
ทิ
น เราจะเห็
นว่
ามี
เดื
อน
๘-๘ ซึ่
งเท่
ากั
บว่
า ปี
นี้
ทางจั
นทรคติ
จะมี
ถึ
ง ๑๓ เดื
อน การที่
บาง
ปี
ต้
องมี
เดื
อน ๘ สองหนนั้
น เนื่
องจากเป็
นการทดเดื
อนทาง
จั
นทรคติ
ให้
มี
ระดั
บสมดุ
ลกั
บทางสุ
ริ
ยคติ
(ที่
ปี
หนึ่
งมี
๓๖๕ วั
น)
เพราะการนั
บทางจั
นทรคติ
ที่
นั
บวั
นตามข้
างขึ้
น ข้
างแรม นั้
ปี
หนึ่
งๆ จะมี
เพี
ยง ๓๕๔ วั
นเท่
านั้
น ห่
างจากทางสุ
ริ
ยคติ
ถึ
๑๑ วั
น หากไม่
มี
การทดเดื
อนให้
ทั
นกั
นแล้
ว นานไปจะทำ
�ให้
วั
น เดื
อนทางจั
นทรคติ
และสุ
ริ
ยคติ
เกิ
ดการคลาดเคลื่
อนกั
ไปมาก จนทำ
�ให้
การนั
บฤดู
กาลต่
างๆผิ
ดเพี้
ยนไปได้
เช่
น วั
แรม ๑ ค่ำ
� เดื
อน ๘ ซึ่
งอยู่
ในฤดู
ฝน อาจร่
นไปอยู่
ในเดื
อน
เมษายน อั
นเป็
นฤดู
แล้
ง เป็
นต้
น ดั
งนั้
น ทุ
ก ๒-๓ ปี
จึ
งจะ
มี
การทดเดื
อนทางจั
นทรคติ
ให้
ทั
นกั
บเดื
อนทางสุ
ริ
ยคติ
ใน
ทำ
�นองเดี
ยวกั
บวั
นทางสุ
ริ
ยคติ
ที่
ทุ
กๆ ๔ ปี
จะต้
องเติ
มวั
นใน
เดื
อนกุ
มภาพั
นธ์
เข้
าไปอี
ก ๑ วั
น เป็
น ๒๙ วั
น ที่
เรี
ยกว่
ปี
อธิ
กสุ
รทิ
น ทั้
งนี้
เพราะจริ
งๆแล้
ว ปี
หนึ่
งๆ ทางสุ
ริ
ยคติ
จะ
มี
ถึ
ง ๓๖๕.๒๕ วั
น มิ
ใช่
๓๖๕ วั
นถ้
วน ดั
งนั้
น เพื่
อรวมเศษ
วั
นที่
ตกค้
างในแต่
ละปี
ทุ
ก ๔ ปี
จึ
งให้
เพิ่
มอี
ก ๑ วั
นในเดื
อน
กุ
มภาพั
นธ์
ส่
วนการที่
ต้
องเพิ่
มเดื
อน ๘ เป็
นสองหน แทนที่
จะเป็
นเดื
อนอ้
าย เดื
อนยี่
หรื
อเดื
อนอื่
นๆ นั้
น เขาว่
เป็
นเพราะ ช่
วงเดื
อน ๘ จะเป็
นเดื
อนที่
เริ่
มฤดู
ฝน และ
เข้
าสู่
ฤดู
การทำ
�นา อั
นเป็
นอาชี
พหลั
กของเกษตรกรไทย
ดั
งนั้
น เดื
อนแปดจึ
งเป็
นหลั
กสำ
�คั
ญในการกำ
�หนดฝนฟ้
และการทำ
�นา หากมี
การคลาดเคลื่
อนไป จะทำ
�ให้
มี
ผลกระทบต่
อความเป็
นอยู่
ของชาวนา ฉะนั้
น เมื่
อจะเติ
เดื
อนเพื่
อกั
นการคลาดเคลื่
อนจึ
งมาเติ
มในเดื
อน ๘ นี้
อี
กทั้
ในพุ
ทธบั
ญญั
ติ
ที่
กำ
�หนดให้
พระสงฆ์
จำ
�พรรษา ในวั
นแรม
๑ ค่ำ
� เดื
อน ๘ (วั
นเข้
าพรรษา) ซึ่
งเป็
นต้
นฤดู
ฝน การเพิ่
เดื
อนในเดื
อน ๘ ดั
งกล่
าว จะทำ
�ให้
ช่
วงการเข้
าพรรษา จะตรง
กั
บเดื
อน ๘ หลั
ง และตรงตามพุ
ทธบั
ญญั
ติ
ที่
ต้
องการให้
พระสงฆ์
หยุ
ดจาริ
กในฤดู
ฝน