๕๓
หอศิ
ลปวั
ฒนธรรมร่
วมสมั
ย และที่
จอดรถใต้
ดิ
น ซึ่
งนายก
รั
ฐมนตรี
ได้
ขอให้
สำ
�นั
กงบประมาณรั
บเรื่
องดั
งกล่
าวไป
พิ
จารณาต่
อไป
จากนั้
น
นายอภิ
สิ
ทธิ์
เวชชาชี
วะ นายกรั
ฐมนตรี
ได้
ให้
ความคิ
ดเห็
นเกี่
ยวกั
บการดำ
�เนิ
นงานของกระทรวง
วั
ฒนธรรมว่
า
“เป็
นการทำ
�งานที่
ยาก เพราะครอบคลุ
มมิ
ติ
ทั้
งทางด้
านสั
งคม เศรษฐกิ
จ และความมั่
นคง อี
กทั้
งสั
งคม
ได้
คาดหวั
งกั
บการทำ
�งานเป็
นอย่
างมาก ดั
งนั้
น จึ
งอยาก
ให้
ทุ
กกระทรวงเห็
นความสำ
�คั
ญและให้
ความร่
วมมื
อในการ
ทำ
�งานของกระทรวงวั
ฒนธรรม เช่
น เรื่
องร้
านเกม – ปั
ญหา
เด็
กติ
ดเกม ที่
ต้
องอาศั
ยความร่
วมมื
อจากทุ
กฝ่
ายเพื่
อช่
วย
กั
นแก้
ไขปั
ญหา เนื่
องจากกลไกในการทำ
�งานและกฎหมาย
ของกระทรวงวั
ฒนธรรมมี
อำ
�นาจไม่
ครอบคลุ
ม นอกจากนี้
ตนมองว่
ากระทรวงวั
ฒนธรรมไม่
ได้
ทำ
�งานด้
านอนุ
รั
กษ์
เพี
ยงอย่
างเดี
ยว แต่
ต้
องมี
ขอบเขตการทำ
�งานที่
กว้
างขึ้
น
โดยเฉพาะในเรื่
องการดำ
�เนิ
นงานตามโครงการเศรษฐกิ
จ
สร้
างสรรค์
ซึ่
งกระทรวงวั
ฒนธรรมเป็
นกระทรวงต้
นน้ำ
�ที่
มี
ความร่ำ
�รวยทางมรดกวั
ฒนธรรม และภู
มิ
ปั
ญญา จึ
งต้
องมี
การยกระดั
บให้
เป็
นกระทรวงที่
มี
ความทั
นสมั
ย และต้
องมี
วิ
สั
ยทั
ศน์
ในการทำ
�งานที่
มองการดำ
�เนิ
นงานตั้
งแต่
อดี
ตไป
ถึ
งอนาคตด้
วย”
ในช่
วงบ่
ายผู้
เข้
าร่
วมประชุ
มจากหน่
วยงานต่
างๆ ได้
ให้
ข้
อเสนอแนะต่
อการดำ
�เนิ
นงานของกระทรวงวั
ฒนธรรม
ไว้
อย่
างน่
าสนใจ อาทิ
ปลั
ดกระทรวงพาณิ
ชย์
(นายยรรยง พวงราช)
“กระทรวงวั
ฒนธรรมควรคั
ดเลื
อกสิ
นค้
าและบริ
การทาง
วั
ฒนธรรมที่
มี
จุ
ดแข็
งแล้
วมาทำ
�แผนร่
วมกั
บกระทรวง
พาณิ
ชย์
ภายใต้
โครงการ Creative Economy เพื่
อทำ
�ให้
เป็
นสิ
นค้
าที่
สามารถตอบสนองต่
อวิ
ถี
ชี
วิ
ตได้
ต่
อไปในอนาคต”
ปลั
ดกระทรวงศึ
กษาธิ
การ
(นายเฉลี
ยว อยู่
สี
มารั
กษ์
)
“วั
ฒนธรรมวิ
ถี
ชี
วิ
ตชุ
มชนถื
อเป็
นเรื่
องที่
สำ
�คั
ญมาก โดย
เฉพาะการดำ
�เนิ
นงานของพิ
พิ
ธภั
ณฑ์
ชุ
มชนที่
จะเป็
นจุ
ดขาย
ของประเทศ ถ้
ามี
การผลั
กดั
นให้
เป็
นนโยบายของรั
ฐบาลจะ
เป็
นเรื่
องที่
ดี
มาก”
เลขาธิ
การคณะกรรมการการศึ
กษาขั้
นพื้
นฐาน
(ดร.ชิ
นภั
ทร ภู
มิ
รั
ตน) “ควรให้
นั
กเรี
ยนเข้
ามามี
ส่
วนสำ
�คั
ญ
ในเรื่
องของการสื
บสานวั
ฒนธรรม โดยประยุ
กต์
วั
ฒนธรรม
ให้
เหมาะสมกั
บยุ
คสมั
ย และนำ
�มิ
ติ
ทางวั
ฒนธรรมเข้
ามาเป็
น
ส่
วนหนึ่
งในนโยบายของกระทรวงศึ
กษาธิ
การด้
วย”
ปลั
ดกระทรวงการท่
องเที่
ยวและกี
ฬา
(นายอรรถชั
ย
บุ
รกรรมโกวิ
ท)
“กระทรวงการท่
องเที่
ยวและกี
ฬาควรจะมี
การ
บู
รณาการในระดั
บยุ
ทธศาสตร์
กั
บกระทรวงวั
ฒนธรรม โดย
เน้
นเรื่
องของการบริ
หารงาน งบประมาณ ทั้
งการท่
องเที่
ยว
เชิ
งอนุ
รั
กษ์
เชิ
งประเพณี
สถานที่
ท่
องเที่
ยว ต้
องมี
การบอก
เล่
าเรื่
องราว (Story to tell) เพื่
อให้
นั
กท่
องเที่
ยวได้
ทราบ
อี
กทั้
งควรให้
ความสำ
�คั
ญกั
บกี
ฬามวยไทย เพราะถื
อว่
าเป็
น
เรื่
องของวั
ฒนธรรมเช่
นเดี
ยวกั
น”
จากข้
อเสนอแนะในการประชุ
มคณะหั
วหน้
าส่
วน
ราชการระดั
บปลั
ดกระทรวงนั้
น นั
บได้
ว่
ามี
ความสำ
�คั
ญ
และเป็
นประโยชน์
อย่
างมากต่
อทิ
ศทางการดำ
�เนิ
นงานของ
กระทรวงวั
ฒนธรรมในอนาคต ดั
งนั้
น การขั
บเคลื่
อนงาน
วั
ฒนธรรมให้
เป็
นรู
ปธรรมจะประสบผลสำ
�เร็
จได้
นั้
น จะต้
อง
มี
การบู
รณาการความร่
วมมื
อกั
บเครื
อข่
ายทางวั
ฒนธรรม
และหน่
วยงานราชการอื่
นๆ ที่
เกี่
ยวข้
อง และไม่
ควรมุ่
งเน้
น
แค่
งานด้
านการอนุ
รั
กษ์
ศิ
ลปวั
ฒนธรรมเพี
ยงอย่
างเดี
ยว แต่
จะต้
องเน้
นเรื่
องของภาคเศรษฐกิ
จและสั
งคมด้
วย เพราะ
ประเทศไทยของเรามี
ทุ
นทางวั
ฒนธรรมอย่
างมากมาย ถ้
า
เรานำ
�ทุ
นทางวั
ฒนธรรมเหล่
านั้
นมาสร้
างสรรค์
บนพื้
นฐาน
ของวั
ฒนธรรมควบคู่
กั
บเทคโนโลยี
สมั
ยใหม่
ก็
จะสามารถ
สร้
างสรรค์
ผลิ
ตภั
ณฑ์
ที่
มี
คุ
ณค่
าทางวั
ฒนธรรมให้
มี
มู
ลค่
าเพิ่
ม
ทางเศรษฐกิ
จได้
อย่
างยั่
งยื
นต่
อไปในอนาคต