Page 55 - sep53

๕๓
นักเรียน นั กศึกษา และประชาชนที่สนใจในต่ างจังหวัด พร้อม
กั บเปิดโอกาสให้เข้าร่วมกิ จกรรมถ่ายทอดความรู้และฝึกทั กษะ
การปฏิ บัติงานจริงกับศิลปินแห่งชาติ และศิลปินจากประเทศ
เพื่อนบ้าน ได้แก่ ประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ อย่างใกล้ชิด
ทำ �ให้ เกิ ดการเรี ยนรู้ แลกเปลี่ยนวั ฒนธรรมซึ่งกั นและกั น
นอกจากเยาวชนไทยจะได้รั บประสบการณ์ที่ดีแล้ว ยังจะได้รั บ
แรงบั นดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิ ลปะ เพื่ออนุรั กษ์และ
สืบสานมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติเราให้ยั่งยืนสืบไป นอกจาก
นี้แล้วยั งเป็นการใช้ศิลปะในการเชื่อมความสัมพันธ์อั นดีระหว่าง
ประเทศในภู มิภาคอาเซียนให้เกิดความร่วมมือในระดับนานาชาติ
ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคมต่อไปด้วย”
กิ จกรรมในโครงการฯ ครั้งนี้ ประกอบด้วย อาทิ การ
ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การสาธิตการสร้ างสรรค์งานศิลป์ การ
บรรยายและเสวนาพิ เศษโดยศิลปินแห่ งชาติ ในหัวข้ อเรื่อง
วิวั ฒนาการการสร้ างสรรค์งานศิลปะสมั ยใหม่ในพิพิ ธภั ณฑ์
สหรัฐอเมริกา โดย ดร.กมล ทัศนาญชลี, แนวทางการสร้างสรรค์
งานศิลปะสมัยใหม่ โดย ศาสตราจารย์อิ ทธิพล ตั้ งโฉลก และ
ศาสตราจารย์เดชา วราชุ น, ความเคลื่อนไหวเกี่ ยวกับการ
สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ ในประเทศสิงคโปร์และมาเลเซี ย โดย
ตัวแทนศิลปินจากมาเลเซี ยและสิงคโปร์, และการฝึกอบรมเชิง
ปฏิบั ติการสร้างสรรค์งานศิลปะ โดยศิ ลปินแห่ งชาติทุกท่าน
ศิลปินจากประเทศเพื่อนบ้าน และศิลปินท้องถิ่น เป็นต้น ซึ่งก็ ได้
รั บความสนใจจากนักเรียน นักศึกษาในจั งหวัดพัทลุง และจังหวัด
ใกล้ เคียงเข้าร่วมโครงการฯ เป็นจำ�นวนมาก
ดร.ถวัลย์ ดัชนี ได้ กล่าวถึงโครงการฯ นี้ว่า “ทำ�ให้เกิด
การแลกเปลี่ยนทั้งเรื่ องของความรู้ วัฒนธรรม ตลอดจนความคิด
เห็นส่วนตัวระหว่างศิลปินด้วยกัน ทำ�ให้เรามีมุมมองใหม่ๆ จาก
การแลกเปลี่ยนเพื่อนำ �มาปรับใช้กั บงานศิลปะของเราได้”
ศ.อิทธิพล ตั้งโฉลก “ถึงแม้ว่าการอบรมให้ความรู้ และ
การลงมือปฏิบัติงานสร้ างสรรค์งานศิ ลป์ให้แก่ อาจารย์ ด้านศิลปะ
นักเรียน นักศึ กษา จะอยู่ภายใต้ระยะเวลาที่จำ�กัด แต่อย่างน้อย
โครงการฯ นี้ ก็ทำ�ให้เยาวชนในต่างจังหวั ดได้มาสัมผัสและเข้า
ถึ งงานศิลปะได้ อย่างแท้จริ ง คือ เค้าจะได้ ชม เรียนรู้ และลงมือ
ปฏิบัติงานจริง ได้เห็นการสร้างสรรค์ งานศิลปะแนวใหม่ทั้งจาก
ศิลปินไทยและต่างประเทศ ซึ่งอย่างน้ อยก็ทำ�ให้เค้าได้เรียนรู้
และมีแรงบั นดาลใจในการสร้างสรรค์งานด้านศิลปะตามแนวทาง
ที่ตนเองถนัด”
ศ.เดชา วราชุน “ทำ�ให้เยาวชนในพื้นที่ต่างจังหวัดได้
เห็นงานศิลปะที่ดีๆ ด้านครู อาจารย์เองก็มีโอกาสได้เรียนรู้งาน
ศิลปะเพิ่มเติมจากศิลปินแห่งชาติ และศิลปิ นจากต่างประเทศ ที่
สำ�คัญทำ�ให้เราได้รู้ว่าศิลปะ สามารถเป็นตัวเชื่อมความสั มพันธ์
อันดีระหว่างประเทศต่ างๆ ในโลกนี้ โดยการแบ่งปั นความรู้ แลก
เปลี่ยนวัฒนธรรมแก่กั นและกัน เพื่ อสร้างสรรค์งานศิลปะแนว
ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นร่วมกันได้”
ศ.ปรีชา เถาทอง “การที่เรามีกิ จกรรมที่ดีๆ และเต็ม
ไปด้วยองค์ ความรู้นั้น จะสามารถทำ�ให้เด็ กเข้าใจได้ว่าศิลปะให้
อะไรแก่ชีวิตของเค้า อาทิเช่น คนที่มีบุคลิ กหรือวัฒนธรรมที่ ต่าง
กัน แต่ สามารถสร้างสรรค์งานศิลป์ ร่วมกันได้ นั่นหมายความ
ว่า ศิลปะทำ�ให้เกิดการสื่อสารกันและยังเป็นสะพานสร้างความ
สัมพันธ์ได้อย่างดี”
ดร.กมล ทัศนาญชลี “ปัญหาที่เราพบกันมากที่ทำ�ให้เด็ก
ในพื้นที่ห่างไกลไม่ได้ รับความรู้ด้านศิลปะ คือ ครู ในพื้นที่อาจจะ
ไม่ได้จบด้านศิลปะมาโดยตรง และภาครัฐก็ ไม่ค่อยมีงบประมาณ
ให้แก่ โรงเรียนที่อยู่ห่างไกล แต่โครงการฯ นี้ ถือได้ว่าเราเข้ามา
หาชุมชน เมื่อเรามาทำ�กิจกรรมให้องค์ความรู้ แก่ ครู อาจารย์
ในพื้นที่ เค้าก็สามารถนำ�องค์ความรู้ที่ได้ไปถ่ายทอดให้แก่ เด็ก
นักเรียนต่อไป และตัวเด็กนักเรี ยนเองก็จะได้มีโอกาสมาเรี ยนรู้
และสัมผัสกับการสร้างสรรค์งานศิลป์ เพื่อสามารถนำ�ไปต่ อยอด
และพัฒนางานตามที่ตนเองถนัดได้ต่อไป”
ด้านนาย Tew Nai Tong ศิลปินจากประเทศมาเลเซีย
ได้กล่ าวถึ งโครงการฯ นี้ว่ า “นั บเรื่ องที่ดี ถือเป็นการสร้ าง
มิตรภาพโดยการใช้ศิลปะเป็นสื่อ และยังได้แลกเปลี่ยนเรี ยนรู้
งานด้านศิลปะกั บศิลปินแห่ งชาติและศิลปินท้ องถิ่นของไทย
ทำ�ให้มีความคิดใหม่ ๆ ในการสร้ างสรรค์งานของตนเองต่อไป
นอกจากนี้ ยังเป็นการให้ความรู้เรื่องศิลปะแก่ เยาวชนและ
ประชาชนในท้องถิ่นที่สนใจแต่ ไม่มีโอกาส ให้ ได้มาสัมผัสและ
ลงมือปฏิบัติสร้างสรรค์ งานศิลปะตามที่ตนเองถนั ดได้”