Page 44 - sep53

Basic HTML Version

๔๒
ที่
สำ
�คั
ญที่
สุ
ดก็
คื
อ เสี
ยงพู
ดหรื
อวาจาที่
ออกมาจาก
ปากคน การให้
เสี
ยงพู
ดนี้
อาจจะทำ
�โดยมี
คน ๆ เดี
ยวเป็
นคน
อธิ
บาย หรื
อแสดงความคิ
ดเห็
นเกี่
ยวกั
บภาพซึ่
งปรากฏบนจอ
หรื
อมิ
ฉะนั้
นก็
จะเป็
นคำ
�พู
ดที่
โต้
ตอบกั
นระหว่
างตั
วละครใน
เรื่
อง เพื่
อแสดงความคิ
ดเห็
นหรื
อความรู้
สึ
ก ตลอดจนแสดง
อามณ์
ของตั
วแสดง ในบางครั้
งเสี
ยงพู
ดนี้
ก็
ไม่
จำ
�เป็
นที่
จะ
ต้
องกล่
าวออกมาจากปาก เพราะภาพยนตร์
มี
วิ
ธี
ที่
จะทำ
�ให้
คนดู
ได้
ยิ
นถึ
งความคิ
ดของตั
วละครได้
เมื่
อภาษาพู
ดเป็
นเพี
ยงอี
กธาตุ
หนึ่
งในหลายธาตุ
ซึ่
งมา
ประกอบกั
นเข้
าเป็
นภาพยนตร์
ภาษาพู
ดจึ
งอยู่
ในฐานะเดี
ยว
กั
บธาตุ
อื่
น ๆ กล่
าวคื
อ จะต้
องเป็
นแต่
เพี
ยงส่
วนประกอบแห่
สั
งขารอั
นใหม่
ที่
ได้
เกิ
ดขึ้
น คื
อ ภาษาของภาพยนตร์
นั้
นเอง
ในบางครั้
ง ภาษาพู
ดเพี
ยงสองสามคำ
� ก็
อาจให้
ความหมาย
สำ
�หรั
บภาพยนตร์
ทั้
งตอนได้
เป็
นอย่
างดี
ยกตั
วอย่
างเช่
ภาพยนตร์
แสดงให้
เห็
นถึ
งผู้
หญิ
งคนหนึ่
ง ผู้
ซึ่
งจะต้
องย้
าย
ภู
มิ
ลำ
�เนาจากที่
ๆตนได้
อาศั
ยอยู่
มาเป็
นเวลาช้
านานไปยั
งอี
สถานที่
หนึ่
ง ภาพยนตร์
ตอนนั้
นจะแสดงให้
เห็
นว่
าผู้
หญิ
งคน
นั้
นกำ
�ลั
งเผาของที่
ระลึ
กเล็
ก ๆ น้
อย ๆ ซึ่
งไม่
มี
ทางที่
จะขน
เอาไปด้
วยได้
ในขั้
นสุ
ดท้
าย ก็
แลเห็
นว่
าผู้
หญิ
งคนนั้
นเผา
จดหมายที่
คนอื่
นเขี
ยนติ
ดต่
อมาถึ
งตนเป็
นเวลาช้
านาน เมื่
เผาจดหมายทั้
งหมดนั้
นแล้
ว ผู้
หญิ
งคนนั้
นก็
จะเอ่
ยคำ
�พู
ดขึ้
เพี
ยงสองคำ
�ว่
า “พร้
อมแล้
ว”
ในการใช้
ภาษาพู
ดในภาพยนตร์
นั้
น ผู้
สร้
างภาพยนตร์
มั
กจะใช้
ธาตุ
อื่
น ๆ เข้
ามาประกอบด้
วย เพื่
อเน้
นคำ
�พู
ดนั้
นให้
เด่
นชั
ดขึ้
น ตั
วอย่
างเช่
น ในขณะที่
คนดู
ได้
ยิ
นเสี
ยงตั
วละคร
คนหนึ่
งพู
ดอยู่
ตาของคนดู
ก็
จะแลเห็
นภาพของตั
วละครอี
คนหนึ่
ง ซึ่
งแสดงความรู้
สึ
กต่
อคำ
�พู
ดที่
ได้
ยิ
นนั้
น หรื
อมิ
ฉะนั้
ก็
จะแลเห็
นภาพเหตุ
การณ์
ซึ่
งคำ
�พู
ดที่
ได้
ยิ
นนั้
นกำ
�ลั
งกล่
าวถึ
หรื
อในขณะที่
ตั
วละครกำ
�ลั
งพู
ดอยู่
นั้
น กล้
องภาพยนตร์
ก็
อาจเน้
นวิ
ธี
ถ่
ายภาพโคลสอั
พให้
เห็
นตั
วละครเต็
มหน้
า หรื
ถ่
ายภาพไกลให้
เห็
นตั
วละครยื
นอยู่
คนเดี
ยว แต่
เสี
ยงนั้
นดั
กึ
กก้
องขึ้
นมา หรื
อบางครั้
งผู้
สร้
างภาพยนตร์
ก็
อาจจะใช้
สี
ประกอบเป็
นเครื่
องเน้
นคำ
�พู
ด เป็
นต้
นว่
า คำ
�พู
ดกระซิ
กระซาบด้
วยความรั
ก จะเหมาะกั
บสี
อ่
อนนุ่
มนวล และเสี
ยง
ตะโกนอย่
างดั
ง ย่
อมให้
ผลทางใจแก่
ผู้
ดู
มากกว่
า ถ้
าจะทำ
�ให้
ได้
ยิ
นในที่
มื
อี
กประการหนึ่
ง การนิ่
งไม่
พู
ด ก็
มี
ความสำ
�คั
ญเท่
ากั
การพู
ดในทุ
กกรณี
หรื
อมี
ความหมายลึ
กซึ้
งยิ่
งกว่
าการใช้
คำ
�พู
ดในบางกรณี
ว่
าโดยทั่
วไปแล้
ว ภาษาพู
ดก็
ดี
ภาพที่
ปรากฏบนจอ
ก็
ดี
ต่
างฝ่
ายต่
างจะไม่
มี
กำ
�ลั
งพอที่
จะแสดงความหมายแห่
ภาษาของภาพยนตร์
ได้
โดยชั
ดแจ้
ง ถ้
าผู้
สร้
างภาพยนตร์
จะ
ไม่
มี
ความสามารถในการใช้
ธาตุ
ทั้
งสองอย่
างมาประกอบกั
ให้
ได้
ในสั
ดส่
วนที่
เหมาะสมกั
น สรุ
ปแล้
วภาษาพู
ดจึ
งเป็
นธาตุ
หนึ่
งในภาษาภาพยนตร์
ซึ่
งจะต้
องไม่
เป็
นอุ
ปสรรครบกวนการ
แสดงภาพ ไปตามลำ
�ดั
บตั้
งแต่
เริ่
มเรื่
องจนจบเรื่
อง ภาษาพู
จะต้
องเป็
นเครื่
องส่
งเสริ
มภาพที่
คนดู
ได้
เห็
น มากกว่
าที่
จะ
แสดงความหมายของภาพนั้
นซ้ำ
�อี
กที
หนึ่
ง เป็
นต้
นว่
าพระเอก
นั้
นอาจจะแสดงให้
คนดู
ทราบอย่
างแจ่
มแจ้
ง ว่
าตนรั
กนางเอก
เพี
ยงใด ด้
วยอาการกิ
ริ
ยาท่
าทาง หรื
อด้
วยใบหน้
าหรื
อด้
วย
การกระทำ
�ต่
าง ๆ โดยไม่
จำ
�เป็
นต้
องพู
ดซ้ำ
� ๆ จากปากว่
รั
ก ๆ ๆ นางเอกเลย
ความจริ
งหลั
กของการใช้
คำ
�พู
ดก็
คื
อการมั
ธยั
สถ์
คำ
�พู
ยิ่
งใช้
คำ
�พู
ดน้
อยเท่
าไรก็
ยิ่
งได้
ความหมายมากขึ้
นเท่
านั้
คนที่
พู
ดเพ้
อเจ้
อนั้
น มั
กจะมี
คนฟั
งน้
อยกว่
าคนที่
พู
ดน้
อยแต่
ได้
เนื้
อความมาก
การใช้
ภาษาพู
ดในการสร้
างภาพยนตร์
จึ
งต้
องอาศั
หลั
กอย่
างเดี
ยวกั
น”
************
คำ
�อธิ
บายของอาจารย์
คึ
กฤทธิ์
จบบทนี้
ลงเพี
ยงแค่
นี้
ธาตุ
ทั้
งแปด
นี้
คื
อ สิ่
งที่
จะถู
กนำ
�มาประกอบรวมเข้
เป็
น “ภาษาหนั
ง” หรื
อ “ภาษาของภาพยนตร์
” ที่
ผมพยายาม
นำ
�เสนอมาให้
ผู้
อ่
านได้
เรี
ยนรู้
อย่
างเป็
นทางการ ด้
วยความหวั
ว่
า ใครที่
เรี
ยนรู้
ภาษาใดได้
คล่
องแคล่
ว คน ๆ นั้
น ก็
ย่
อมจะ
เข้
าใจหรื
อสื่
อสารกั
บเจ้
าของภาษานั้
นได้
ดี
แต่
หนั
งนั้
นเป็
นศิ
ลปะ ศิ
ลปะคื
อสิ่
งที่
ถู
กสร้
างขึ้
นโดย
มนุ
ษย์
มนุ
ษย์
เป็
นผู้
สร้
างศิ
ลปะทุ
กชนิ
ดขึ้
นมาก็
จริ
ง แต่
ความ
เป็
นเจ้
าของศิ
ลปะโดยการสร้
างนั้
นก็
ไม่
ได้
แปลว่
าศิ
ลปะนั้
นจะ
ประสบความสำ
�เร็
จ (ภายหลั
งจากการสร้
าง) ไปได้
ทุ
กชิ้
น ถ้
ตราบใดที่
งานศิ
ลปะชิ้
นนั้
น จะไม่
ทำ
�ให้
“คนอื่
น” (ซึ่
งนอกเหนื
ไปจากผู้
สร้
าง) เกิ
ดความพอใจ–เข้
าใจ–หรื
อประทั
บใจ
การเรี
ยน–รู้
–เรื่
องของหนั
ง ในวารสารฉบั
บนี้
มา ๖
ตอนแล้
วนี้
น่
าจะทำ
�ให้
เราเรี
ยน–จนรู้
“ภาษาหนั
ง” ได้
มาก
ขึ้
นบ้
างแล้
ว เพราะฉะนั้
นเมื่
อ (พอจะ) รู้
ภาษากั
นแล้
ว เราก็
ควรจะขยายการเรี
ยนรู้
เรื่
องหนั
งของเราให้
มากขึ้
นกั
นต่
อไป
เรื่
องราวของหนั
ง จะยั
งมี
แง่
มุ
มต่
าง ๆ ให้
พู
ดถึ
งกั
ต่
อไปได้
อี
กมาก ถ้
าท่
านผู้
อ่
านยั
งเต็
มใจที่
จะติ
ดตามต่
อไปอี
ผมก็
จะขอ “คั
ท” ฉากนี้
ไว้
แค่
นี้
ก่
อน เพื่
อจั
ดฉากใหม่
ไว้
ให้
เริ่
ม “แอคชั่
น” กั
นอี
กครั้
ง ในตอนหน้
าครั